ทุกคนในจวนแม่ทัพต่างรู้ว่าคุณหนูใหญ่แต่งงานกับชายในดวงใจของคุณหนูสาม อีกทั้งคุณหนูสามยังเป็นคนร้ายกาจเจ้าคิดเจ้าแค้น
หลีซูซูรู้สึกหมดแรง นางพูดต่อ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าไม่รบกวนเวลาของพี่รองแล้ว”
เยี่ยฉู่เฟิงประสานมือให้นาง ขณะกำลังจะจากไป หลีซูซูขยับจมูกฟุดฟิด
“กลิ่นบนร่างกายท่านเป็นกลิ่นอะไรหรือ”
เยี่ยฉู่เฟิงสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดันตัวหลีซูซูที่สูดดมกลิ่นเหมือนสัตว์ตัวน้อยออกอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
“น้องหญิงสาม…”
พอเห็นเขาเก้อกระดากจนหน้าแดงหูแดง หลีซูซูก็ไม่สะดวกจะสร้างความลำบากใจให้เขา จึงได้แต่เอ่ยว่า “ขออภัยด้วย ข้าอาจจะดมผิดไป”
หลีซูซูคลางแคลงใจ กลิ่นนี้คุ้นมากจริงๆ นางเคยได้กลิ่นจากที่ใดมาก่อนกันแน่นะ
ยามนี้เยี่ยฉู่เฟิงหายไปไม่เห็นเงาแล้ว
หลีซูซูมีใจอยากถามวิญญาณวัตถุในกำไลหยก แต่มันยังคงหลับสนิท นางจึงได้แต่ล้มเลิกความคิด
ชุนเถาวิ่งเข้ามาด้วยใบหน้าแดงเรื่้อ “คุณหนู!”
นางถามอย่างระมัดระวัง “บ่าวได้ยินสี่สี่บอกว่าคุณหนูไม่ได้ให้ปี้หลิ่วปรนนิบัติข้างกายแล้ว?”
หลีซูซูพยักหน้าตอบรับ
ชุนเถากลั้นรอยยิ้มไว้ไม่อยู่
หลีซูซูเอียงคอ ชุนเถารีบโบกไม้โบกมือเอ่ย “ชุนเถาไม่ได้…ไม่ได้จะว่าพี่ปี้หลิ่วไม่ดีนะ ทั้งมิได้ริษยาพี่ปี้หลิ่ว เพียงแต่…เพียงแต่…”
ใบหน้าของชุนเถาแดงก่ำ นานครู่ใหญ่จึงเอ่ยว่า “ช่วงที่พี่ปี้หลิ่วไม่อยู่ข้างกายคุณหนู ชุนเถากับสี่สี่ต่างรู้สึกว่าคุณหนูเปลี่ยนไปไม่น้อย พวกเรากลัวว่าคุณหนูจะเปลี่ยนกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก” พูดจบนางจึงตระหนักได้ว่าตนพูดผิด และอธิบายอย่างลนลานอีกครั้ง “บ่าวมิได้หมายความว่าแต่ก่อนคุณหนูไม่ดี…บ่าว…บ่าว…”
หลีซูซูเห็นนางตะกุกตะกัก ร้อนใจจนใกล้ร้องไห้เต็มที จึงอดพูดมิได้ “ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้โมโห”
แม้ว่าการเปลี่ยนแปลงของตนจะไม่เกี่ยวกับปี้หลิ่ว แต่ในอดีตปี้หลิ่วยุแยงเจ้าของร่างเดิมไม่น้อย นี่เป็นเรื่องจริง ความกังวลของชุนเถาและสี่สี่มิใช่การคิดไปเอง
“ทางด้านคุณชายรองและคุณชายสามมีข่าวคราวหรือยัง”
พอเอ่ยถึงเรื่องนี้ ชุนเถารีบพูด “เรียนคุณหนู บ่าวถามพ่อบ้านแล้ว เขาบอกว่าหมู่นี้คุณชายรองและคุณชายสามมักจะออกไปข้างนอก โดยเฉพาะคุณชายรอง บางครั้งออกไปตั้งแต่เช้า ตกค่ำจึงจะกลับมา”
หลีซูซูแปลกใจมาก “ออกไปทั้งวัน?”
ชุนเถาผงกศีรษะ “แต่บ่าวไม่รู้ว่าคุณชายทั้งสองกำลังทำสิ่งใด”
หลีซูซูรู้สึกว่าสัญชาตญาณของตนเองไม่ผิด เยี่ยฉู่เฟิงผู้นี้มีปัญหา วันนี้ไปซื้อพู่กันหมึก วันต่อไปเล่า คงมิอาจขาดแคลนเครื่องใช้ในห้องหนังสือทุกวันกระมัง
เมื่อขบคิดดูแล้ว นางให้พ่อบ้านหายาจกมาหลายคนและแบ่งเงินก้อนให้คนละก้อน
“พวกเจ้าแยกย้ายกันช่วยข้าจับตาดูคุณชายรองกับคุณชายสาม พวกเขาไปที่ใด ทำอะไรบ้าง เรื่องที่แปลกล้วนเอามารายงานข้าให้หมด” มือเล็กของนางโบกวูบ ก่อนจะเอ่ยอย่างใจกว้างยิ่งนัก “หากทำได้ดี ข้าจะตกรางวัลเป็นเงินก้อนอีกก้อน”
เหล่ายาจกดวงตาลุกวาว พากันเอ่ยขอบคุณ
“คุณหนูสามวางใจ ไม่ว่ามีลมพัดยอดหญ้าไหว* ใดๆ ข้าน้อยจะคอยสังเกตทั้งหมด”
หลีซูซูคิดในใจ อาจารย์อาทั้งหลายกล่าวไม่ผิดจริงๆ สามพิภพหากมีเงินก็จ้างผีโม่แป้งได้*
ดูท่าทาง อย่าว่าแต่สั่งผีให้โม่แป้งเลย สั่งเครื่องโม่ให้บดผีก็ได้เหมือนกัน
ตามคาด ไม่ถึงสองวันก็มียาจกน้อยวิ่งมารายงาน
“คุณหนูสาม ข้าน้อยเห็นสองวันนี้คุณชายรองจะไปที่เรือนแห่งหนึ่งทุกวัน ข้างเรือนปลูกเหมยหลายต้น มีหญิงสาวชุดเหลืองที่งามมากผู้หนึ่งอาศัยอยู่ข้างใน คุณชายรองไปตอนเช้า ตกค่ำจึงจากมา”
หลีซูซูครุ่นคิด แสดงว่าพี่รองที่ทำตัวเหมือนมนุษย์ล่องหนผู้นั้น ถึงขั้นซ่อนคนงามไว้ในเรือนทองคำ?
นางมอบเงินก้อนให้ยาจกน้อยอีกก้อนตามสัญญา
ไม่นาน ยาจกอีกคนก็มารับรางวัล
“เมื่อวานคุณชายสามออกจากเรือน ไปกินอาหารที่หอสุรากับคุณชายจวนเสนาบดีเฉิน จากนั้นเข้าไปในโรงพนันด้วยกัน”
หลีซูซูกะพริบตาปริบๆ
โรงพนันหรือ เป็นเช่นที่ข้าคิดหรือไม่นะ
เห็นทีทั้งพี่รองและพี่สามล้วนมีความลับ