ทดลองอ่าน จุดจอดหัวใจปักหมุดไว้ที่เธอ บทที่ 3-4 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

With Love

ทดลองอ่าน จุดจอดหัวใจปักหมุดไว้ที่เธอ บทที่ 3-4

เมื่อพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้ หร่วนซือเสียนก็ไม่มีวิธีอื่นนอกจากเกลี้ยกล่อมต่อไปด้วยความอดทนและหวังดี

“หนูน้อย ตอนถึงลอนดอนจะเป็นเวลาเช้าตรู่ ถ้าตอนนี้หนูไม่นอน พรุ่งนี้ลงจากเครื่องแล้วจะรู้สึกง่วงเหงาหาวนอน ไม่มีแรงไปเล่นนะ”

น้ำเสียงของเธอนุ่มนวล ทั้งยังอ่อนโยนและทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ยากมากที่ใครจะเอ่ยคำปฏิเสธออกมาได้ ถึงแม้จะเป็นเพียงเด็กน้อยก็ตาม

เด็กน้อยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ปิดไอแพด “งั้นผมต้องชิ้งฉ่องก่อนครับ”

หร่วนซือเสียนยื่นมือไปให้เด็กน้อยจับ “ไปสิ พี่จะไปส่งหนู”

ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นช่วงครูซ แต่อาจเจอกับความแปรปรวนของอากาศจนทำให้เครื่องบินสั่นได้ตลอดเวลา ดังนั้นการปกป้องให้เด็กน้อยปลอดภัยคือความรับผิดชอบของหร่วนซือเสียน

ขณะเดินผ่านข้างกายฟู่หมิงอวี่ เธอก้มหน้ามองแวบหนึ่ง เขานอนนิ่ง ลมหายใจสม่ำเสมอ หลับได้สงบอย่างยิ่ง

ทันใดนั้นหร่วนซือเสียนก็รู้สึกว่านี่คือโอกาสที่ดี ด้วยเหตุนี้จึงหยุดฝีเท้าลง แล้วกล่าวกับเด็กน้อย “หนูน้อย หนูรอพี่แป๊บหนึ่งนะ”

จากนั้นเธอก็ก้มตัว เอาจดหมายฉบับนั้นวางไว้ข้างหมอนของฟู่หมิงอวี่ แต่ตอนที่นิ้วมือแตะถูกหมอน เขาก็เม้มริมฝีปาก ทำให้หร่วนซือเสียนตกใจจนตัวสั่น นึกว่าเขาไม่ได้หลับ

โชคดี เขาเพียงแค่ขยับหัวเท่านั้น

ฟู่หมิงอวี่ไม่ได้ลืมตา แต่เด็กน้อยข้างๆ กลับมองเห็นได้อย่างชัดเจน

“พี่สาว นี่พี่กำลังส่งจดหมายรักเหรอ”

“…”

เด็กน้อยนี่ทำไมรู้เยอะขนาดนี้

“ไม่ใช่นะ” หร่วนซือเสียนไม่อยากอธิบายให้เด็กน้อยฟังมากนัก “รีบไปเถอะ อีกสักพักห้องน้ำน่าจะถูกคนยึดแล้ว”

เด็กน้อยทำเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเธอ ทำท่าทางราวกับผู้ใหญ่ตัวน้อย “พี่ชายคนนี้หล่อมาก แต่พี่สาวไม่ต้องอายหรอก ผมเคยได้รับจดหมายรักแล้ว ไม่มีอะไรเลย ปกติจะตาย”

หร่วนซือเสียนแทบจะเป็นลม

เจ้าเด็กน้อยคนนี้นี่ ถ้าอยากแสดงปาฐกถาก็ไม่ต้องมาแสดงตรงนี้ดีกว่าไหม ถ้าฟู่หมิงอวี่ไม่ได้หลับ แต่แค่พักสายตาเฉยๆ ล่ะ

หร่วนซือเสียนสูดลมหายใจเข้าลึกเป็นครั้งที่สามของวันนี้ แล้วลากเด็กน้อยไปยังห้องน้ำ

ใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที ตอนที่หร่วนซือเสียนจูงมือเด็กน้อยกลับมาก็พบว่าฟู่หมิงอวี่ไม่ได้หลับแล้ว ทั้งยังปรับพนักพิงเก้าอี้ให้ตั้งตรง เปิดไฟสำหรับอ่านหนังสือและดูไอแพด

รวดเร็วขนาดนี้ หร่วนซือเสียนถึงขั้นสงสัยว่าเมื่อครู่นี้เขาหลับจริงๆ หรือเปล่า ทว่าสีหน้าท่าทางของเขาดูปกติดี น่าจะไม่ได้ยินที่เธอพูด แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาเห็นจดหมายฉบับนั้นแล้วหรือยัง ดังนั้นตอนที่ผ่านข้างกายฟู่หมิงอวี่ เธอก็อดไม่ได้ที่จะยื่นศีรษะไปมอง

โอเค ดูเหมือนเขาจะยังไม่เห็น แต่จดหมายฉบับนั้นกลับหล่นลงไปบนพื้นแล้ว คงเป็นเพราะเขาปรับพนักพิงเก้าอี้ให้ตั้งตรง

ในใจหร่วนซือเสียนรู้สึกกระวนกระวาย ตอนนี้ไม่เพียงต้องส่งใหม่อีกครั้ง แต่ยังต้องเก็บขึ้นมาโดยที่เทพและผีมิอาจล่วงรู้ได้

ทว่าคนที่เห็นจดหมายฉบับนี้ไม่ใช่แค่หร่วนซือเสียน เด็กน้อยข้างๆ ก็เห็นแล้วเช่นกัน

เห็นก็เห็นไปเถอะ แต่เขากลับพูดเสียงดังขึ้นมา “พี่สาว จดหมายรักของพี่หล่นอยู่บนพื้นแล้วครับ”

“…”

ฉันเห็นแล้ว ไม่ต้องให้นายพูดมากหรอกน่า

ไม่ใช่ นี่ไม่ใช่จดหมายรักนะ!

ฟู่หมิงอวี่ได้ยินคำพูดและมองมา แต่เป็นเพียงแค่ปรายตามองมาแวบหนึ่งเท่านั้น หลังจากเห็นว่าคนที่อยู่ข้างๆ คือหร่วนซือเสียนก็หันหน้ากลับไปทันที มุมปากมีรอยยิ้มแฝงด้วยความหมายที่ไม่ชัดเจนเอาไว้

ไม่ใช่ความหมายที่ไม่ชัดเจน เพราะหร่วนซือเสียนรู้สึกได้ถึงการถากถางบนใบหน้าเขาได้อย่างชัดเจน

ยิ้มอะไร

มีอะไรน่ายิ้ม

นี่ไม่ใช่จดหมายรักจริงๆ สักหน่อย!

หร่วนซือเสียนพบว่าตั้งแต่ที่ฟู่หมิงอวี่ขึ้นเครื่องมา เขาพูดกับเธอทั้งหมดห้าประโยค โดยในห้าประโยคมีสองประโยคที่เป็นเพียงคำสั้นๆ แต่กลับเปลี่ยนเธอจากนางฟ้าผู้อ่อนโยนและนุ่มนวลองค์หนึ่งเป็นกระเป๋าใส่ดินระเบิดที่สามารถระเบิดบนท้องฟ้าสูงได้ตลอดเวลาไปเป็นที่เรียบร้อย

นี่มันปีศาจอะไรกัน

แน่นอน หร่วนซือเสียนกล้าตะโกนแค่ในใจเท่านั้น แต่ภายนอกยังคงต้องรักษารอยยิ้มเอาไว้

“หนูน้อย นี่ไม่ใช่จดหมายรักนะคะ”

“ถ้างั้นคืออะไรเหรอครับ”

“จดหมายยื่นคำร้องจ้ะ”

“ไม่ใช่จดหมายรักเหรอ”

“…”

หร่วนซือเสียนหันหน้ากลับไปมองแวบหนึ่ง ยังดีที่ดูเหมือนว่าฟู่หมิงอวี่จะไม่สนใจที่พวกเขาสนทนากัน เธอจึงพาเด็กน้อยกลับไปยังที่นั่ง จากนั้นก็นั่งยองๆ และคาดเข็มขัดนิรภัยพลางลูบหน้าผากเขา

“รีบพักผ่อนเถอะนะ”

พูดจบเธอก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ทีหนึ่ง แล้วค่อยๆ ลุกขึ้นยืนช้าๆ หันกายมองไปทางฟู่หมิงอวี่

ดูเหมือนเขาจะถูกไอแพดดึงดูดความสนใจไปหมดแล้ว จึงไม่ได้มองมาทางหร่วนซือเสียนเลยแม้แต่น้อย

แบบนี้ดีที่สุด

หร่วนซือเสียนเดินไปข้างๆ ฟู่หมิงอวี่ ก่อนจะเก็บจดหมายฉบับนั้นขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วยื่นไปตรงหน้าเขา เวลานี้เธอไม่ได้แสร้งทำเป็นไม่รู้จักและเรียกเขาว่า ‘คุณผู้ชาย’ อีกแล้ว

“รองประธานฟู่ คุณอย่าเข้าใจผิดนะคะ นี่คือ…”

ยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆ เครื่องบินก็สั่นสะเทือนกะทันหันโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้าแม้แต่น้อย ทั้งยังรุนแรงอยู่บ้าง ทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากต่างตกใจตื่น สัญญาณไฟเตือนให้คาดเข็มขัดนิรภัยสว่างขึ้นมาอย่างรวดเร็ว

หร่วนซือเสียนบินมาสองปีแล้ว อาศัยประสบการณ์ก็รู้ว่าครั้งนี้อาจไม่ใช่แค่ความแปรปรวนของอากาศ เป็นไปได้ว่าอาจบินผ่านกลุ่มเมฆฝน

ไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เธอไม่กล้าเคลื่อนไหวส่งเดช รีบจับพนักพิงเก้าอี้ของฟู่หมิงอวี่ไว้ทันทีเพื่อหาที่ยึดให้ตัวเอง

ในระหว่างที่เกิดความสับสนวุ่นวาย เธอก้มหน้าเห็นฟู่หมิงอวี่เก็บไอแพดโดยไม่มีท่าทีตื่นตระหนก แล้วช้อนตาขึ้นมองราวกับต้องการจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เสียงประกาศบนเครื่องบินกลับดังขึ้นมากะทันหัน ขัดจังหวะการพูดของเขา

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in With Love

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com