ราวกับมองการเสแสร้งแกล้งทำของหร่วนซือเสียนได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ฟู่หมิงอวี่ปัดความผิดไปให้เยี่ยนอันที่มักจะพูดใส่ร้ายเขาลับหลังโดยอัตโนมัติ คร้านจะคิดเล็กคิดน้อยอีก พอดีกับที่ไป่หยางเอ่ยว่าถึงเวลาแล้วขึ้นมา เขาจึงก้าวเท้ากำลังจะจากไป
จะไปแล้ว?
หร่วนซือเสียนโกรธมาก ทำไมถึงลืมฉันแล้วล่ะ
งั้นฉันจะหักหน้าใครล่ะ
ฉันคือหญิงสาวริมแม่น้ำเทมส์ที่คุณเคยดูถูก แล้วตอนนี้คุณก็ใช้เงินอ้อนวอนให้ฉันกลับมาไง!
“รองประธานฟู่!”
ทันใดนั้นหร่วนซือเสียนก็เรียกเขาไว้
ฟู่หมิงอวี่หยุดฝีเท้าลง แล้วหันหน้ากลับมากล่าว “ยังมีธุระอะไรอีกเหรอครับ”
ช่างเถอะ
หร่วนซือเสียนที่ตะโกนออกไปในเวลานั้นก็รู้สึกเสียใจในภายหลัง รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่ ทว่าแต่ไหนแต่ไรเธอกลับลำได้เสมอ
“เมื่อกี้ขอโทษนะคะ ฉันไม่ควรฟังข่าวลือแล้วพูดว่าร้ายคุณเลย ฉันควรจะรู้จักคุณจริงๆ เสียก่อน”
หลังจากนั้นค่อยว่าร้ายคุณต่อ
สีหน้าของเขาผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ไม่เป็นไรครับ”
ฟังเขาสิ ใจกว้างขนาดไหน สุภาพบุรุษขนาดไหน
คนที่ไม่รู้คงต้องคุกเข่าและทำความเคารพภายใต้กางเกงสูทของเขาแล้ว
หร่วนซือเสียนกล่าว “งั้นฉันไปก่อนนะคะ ยังต้องไปรับเครื่องแบบอีก”
เครื่องแบบ…
ในสมองของฟู่หมิงอวี่ปรากฏภาพนั้นขึ้นมาอย่างกะทันหัน ภาพหร่วนซือเสียนสวมเครื่องแบบนักบิน ชายเสื้อเชิ้ตที่รวบทับไว้ตรงเอวซึ่งไม่เต็มหนึ่งโอบมือ* นั้นเรียบกริบ ส่วนโค้งเว้าอรชรผายออก ด้านล่างเป็นกางเกงสีดำขายาวเรียบร้อย
เขาพยักหน้าแล้วจึงหันกายจากไป
เมื่อพูดถึงเครื่องแบบ หร่วนซือเสียนคิดไม่ถึงว่าสายการบินเหิงซื่อจะเปลี่ยนระเบียบอย่างรอบคอบเช่นนี้ มอบชุดสำหรับฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน และฤดูหนาวอย่างละสองชุด กองรวมกันได้หนึ่งถุงใหญ่เต็มๆ
โชคดีที่สมรรถภาพร่างกายของพวกนักบินสูงมาก ถึงแม้หร่วนซือเสียนจะเป็นผู้หญิง แต่พอหิ้วถุงขึ้นมาก็ไม่ได้รู้สึกเปลืองแรง เพียงแต่ท่าทางไม่ค่อยน่าดูเท่านั้น เธอรู้สึกว่าตัวเองเด่นชัดยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับกลุ่มแอร์โฮสเตสสาวสวยที่เดินไปมาอยู่ข้างๆ
ขณะนั้นไป่หยางผู้ที่มีนิสัยชอบเอาใจใส่ก็ปรากฏตัว เขายิ้มพลางรับถุงของหร่วนซือเสียนมาถือ “ผมเองครับ”
ทั้งสองเคยเจอกันที่สถาบันการบิน หร่วนซือเสียนรู้สึกประทับใจในตัวเขา รู้สึกว่าแม้เขาจะอยู่ในฐานะเลขาฯ ของฟู่หมิงอวี่ แต่ก็ไม่ได้ติดนิสัยเสียเหล่านั้นมาสักนิด ดังนั้นจึงยิ้มให้เขา
“ขอบคุณนะคะ”
“ไม่ต้องเกรงใจครับ”
ไป่หยางเดินนำเธอออกไปข้างนอก “รองประธานฟู่ให้ผมมาครับ บอกว่าเครื่องแบบเยอะ ถ้าผู้หญิงถือจะไม่ไหว”
“…รองประธานฟู่ช่างดีจริงๆ ฉันซึ้งใจมากค่ะ”
“อืม ผมจะบอกความรู้สึกของคุณให้รองประธานฟู่ทราบนะครับ”
“…”
ใครต้องการให้คุณบอกกัน
ดูท่าเขาคงจะติดนิสัยเสียที่ชอบจินตนาการเรื่อยเปื่อยมาเสียแล้ว
ทั้งสองออกมาจากลิฟต์ด้วยกัน ไป่หยางส่งหร่วนซือเสียนขึ้นรถแล้วค่อยหันกายกลับเข้าไปในบริษัท ภาพนี้หนีถงที่เพิ่งเลิกประชุมออกมาเจอเข้าพอดี เธอจึงหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปเอาไว้ แล้วส่งให้เจียงจื่อเยวี่ยทันที
‘คุณดูสิ คือเธอ’
เจียงจื่อเยวี่ยที่อยู่ไกลถึงสเปนขยายดูรูปภาพอยู่ครู่หนึ่งและสรุปอย่างมั่นใจ
‘ไม่ใช่เธอ เธอจะมีความสัมพันธ์ที่ดีขนาดนี้กับเลขาฯ ของรองประธานได้ยังไง’
(ติดตามฉบับเต็มได้ในรูปแบบ E-book)