ฉินเค่อถาม “หลี่เจาเกอคือ?”
“ก็คือสตรีที่ทำให้เทพดาราทันหลางแทบเสียสติผู้นั้น”
ฉินเค่อเข้าใจแล้วจึงถามเข้าประเด็น “ดังนั้น…ท่านคิดจะพูดอันใดกันแน่”
เซียวหลิงคลี่ยิ้ม รินน้ำชาไปวางใกล้มือฉินเค่อด้วยตนเองก่อนตอบ “ดังนั้น…ตามความเห็นอันตื้นเขินของข้า ทางที่ดีที่สุดคือมีอีกคนลงไปแดนมนุษย์ ช่วยสนับสนุนเทพดาราทันหลางเผชิญด่านเคราะห์”
สีหน้าของฉินเค่อที่ไม่แปรเปลี่ยนชั่วนาตาปีเผยความตกตะลึงเล็กน้อยอย่างหาได้ยาก เซียวหลิงกลัวว่าฉินเค่อจะไม่เห็นพ้องจึงรีบเอ่ยเสริม “ดาวทันหลางควบคุมอำนาจทรัพย์สิน นอกจากท่านแล้วคนทั่วไปข่มเขาไม่อยู่หรอก อีกอย่างแม้ที่ผ่านมาฉินเทียนจุนดูแลการพิพากษาลงทัณฑ์ ไม่ได้รบรากับผู้ใดอีก แต่เมื่อแรกสุดท่านก็บรรลุขึ้นสู่สวรรค์ด้วยผลงานการศึก มีแต่ท่านลงไปจึงจะฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย คุ้มครองเทพดาราทันหลางให้เผชิญด่านเคราะห์โดยราบรื่น คลี่คลายวิกฤตความอยู่รอดของราชสำนักสวรรค์ลงได้”
ฉินเค่อนิ่งเงียบ เขาย่อมไม่ตกหลุมพรางลมปากของเซียวหลิง แต่เขาก็รู้ดีว่าถึงเขาไม่ใช่ตัวเลือกหนึ่งเดียวที่สนับสนุนเทพดาราทันหลางได้ ทว่ากลับเป็นตัวเลือกที่ประหยัดแรงประหยัดเวลามากที่สุด พันปีมานี้การปฏิบัติตามกฎสวรรค์และพิทักษ์ความเป็นระเบียบเรียบร้อยได้กลายเป็นสัญชาตญาณของฉินเค่อไปแล้ว หากเรื่องนี้สอดรับกับผลประโยชน์ของราชสำนักสวรรค์ ต่อให้ขัดกับความต้องการของตัวเขาเอง เขาก็จะไม่ทักท้วง
ไม่ช้าฉินเค่อก็ผงกศีรษะรับ “ได้”
เซียวหลิงยินดียิ่ง รีบเอ่ยว่า “หัวใจของฉินเทียนจุนคำนึงถึงคุณธรรม เห็นสรรพชีวิตทั่วหล้าเป็นสำคัญ ข้าน้อยเลื่อมใส ฉินเทียนจุนวางใจได้ หนึ่งวันในแดนสวรรค์เท่ากับหนึ่งปีในแดนมนุษย์ จะไม่เสียเวลาท่านมากนักหรอก เพียงแต่…ด้วยพลังเทพของท่านอยู่ในแดนมนุษย์เพียงสะบัดแขนเสื้อผ่านๆ เกรงว่าแดนมนุษย์คงขุนเขาถล่มคลื่นสมุทรซัดแล้ว ฉะนั้นเพื่อเห็นแก่ทุกชีวิตในใต้หล้า ฉินเทียนจุนสะกดพลังวัตร ปิดผนึกเวทอาคมไว้บางส่วนจะเป็นการดีที่สุด”
“ข้อนี้สมควรอยู่” ฉินเค่อประมาณดูก่อนกล่าว “หลายปีมานี้ข้าย่อหย่อนการฝึกปรือ สะกดเหลือหนึ่งในสามก็น่าจะพอแล้ว”
เซียวหลิงไม่ได้ต่อบทสนทนาในทันที เขาเว้นช่วงครู่หนึ่งค่อยเสนอ “ฉินเทียนจุนไม่แคล้วประเมินตนเองต่ำเกินไป ตามความเห็นของข้า…อย่างน้อยต้องหนึ่งในสิบส่วน”
หนึ่งในสิบส่วน? ฉินเค่อขมวดคิ้วโดยสัญชาตญาณ หนึ่งในสิบส่วนใช้เวทอาคมได้แค่ไม่กี่อย่าง เขาจะต่างอันใดกับมนุษย์เดินดินเล่า แต่เมื่อฉินเค่อคิดได้ว่านี่เป็นการจัดการของแดนสวรรค์ ทำเพื่อสรรพชีวิตทั่วหล้า เขาก็ยังคงเห็นด้วย “ได้”
“ขอบคุณฉินเทียนจุนยิ่งนัก ข้าสืบมาแล้ว สกุลเผยมีญาติจากตระกูลเขยมาอาศัยด้วยผู้หนึ่ง แซ่กู้ นามว่าหมิงเค่อ โตกว่าเผยจี้อันหนึ่งปี เหมาะกับฉินเทียนจุนพอดี นี่เป็นข้อมูลที่เกี่ยวกับกู้หมิงเค่อ ฉินเทียนจุนโปรดเก็บรักษาไว้”
แม้แต่ข้อมูลสถานะของกู้หมิงเค่อก็เตรียมไว้พร้อมแล้ว เซียวหลิงคิดเสร็จสรรพตั้งแต่ต้นแล้วสินะ ฉินเค่อไม่ได้พูดเปิดโปงแผนการของเซียวหลิง เพียงรับข้อมูลฉบับนั้นมาแล้วหมุนตัวเดินมุ่งสู่เบื้องนอก ขณะที่เขากำลังจะจากไปเสียงของเซียวหลิงก็ดังไล่หลังมา “ฉินเทียนจุน ท่านลงไปเพื่อทำภารกิจ ทุกสิ่งให้ยึดการเผชิญด่านเคราะห์ของเทพดาราทันหลางเป็นสำคัญ โปรดอย่าแตะต้องทางโลก โดยเฉพาะต้องระวังป้องกันสตรีนามหลี่เจาเกอผู้นั้น”
ฉินเค่อมิได้นำพา พริบตาก็อันตรธานไปจากวังซานชิง
ลงไปแดนมนุษย์ไม่ยากแต่อย่างใด เพียงแต่ก่อนที่จะไปทำภารกิจ เขาต้องไปสะสางปัญหาตกค้างของเซียนหมู่ตานที่ภูเขาผิงซานก่อน
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 3 พ.ย. 67