ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 4 ออกจากภูเขา

 

ว่าแล้วก็ลงมือเลย หลี่เจาเกอยืนมองไปรอบด้านก่อนเริ่มเก็บสัมภาระ

สีแห่งรัตติกาลลุ่มลึกขึ้นแล้ว ซ้ำบ้านนางไม่เหลือตะเกียงน้ำมันแต่แรก ในห้องจึงมืดมิดชนิดไม่อาจเห็นนิ้วมือทั้งห้าที่ยื่นออกไป สภาพแวดล้อมเช่นนี้สำหรับคนทั่วไปย่อมไม่สะดวกยิ่ง ทว่าหลี่เจาเกอเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ต่อให้ยามนี้ขั้นพลังถดถอยลง ประสบการณ์จากชาติก่อนก็ยังคงอยู่ ความมืดแค่เท่านี้ไม่เป็นอุปสรรคใดต่อนางสักนิดเดียว

หลี่เจาเกอไปรื้อหีบที่มุมห้องเป็นอันดับแรก ความจำของนางไม่ผิดพลาดจริงเสียด้วย บรรดาสนับแขน เกาทัณฑ์คันธนู มีดสั้น และอื่นๆ ล้วนเก็บอยู่ตรงนี้ อาวุธพวกนี้ในสายตาของหลี่เจาเกอคนปัจจุบันคือเศษเหล็กดีๆ นี่เอง แต่ถึงอย่างไรมีเศษเหล็กย่อมดีกว่ามือเปล่าหมัดเปลือย หลี่เจาเกอไม่เรื่องมาก พกอาวุธต่างๆ บนร่างอย่างช่ำชอง

ตระเตรียมอาวุธเสร็จหลี่เจาเกอก็ขบคิดชั่วครู่ แต่คิดไม่ออกว่าตนยังพกพาสิ่งใดไปได้อีก ตาเฒ่าโจวไส้แห้ง นอกจากเคล็ดจิตเล่มนั้นแล้วในบ้านนี้ก็ไม่เหลือของมีค่าอื่นใด ทิ้งไปก็หาเป็นไรไม่ หลี่เจาเกอค้นในตู้เสื้อผ้าได้ชุดสะอาดที่มีอยู่เพียงสองชุด จึงห่อไว้ในห่อสัมภาระอย่างแน่นหนา ตั้งใจว่าพอฟ้าสางก็จะฉวยสิ่งของออกจากบ้านทันที

ส่วนค่าเดินทาง…ในบ้านไม่มีค่าเดินทาง ไม่จำเป็นต้องเตรียม

ขณะหลี่เจาเกอตรวจสอบรอบสุดท้าย ใบหูของนางกระดิกวูบ เสียงฝีเท้าจากเบื้องนอกแว่วมาให้ได้ยิน ประกายตานางแปรเปลี่ยนเป็นลุ่มลึก หน้านิ่งเก็บห่อสัมภาระก่อนกดมือตรงข้างเอวโดยไร้เสียง

ตรงนั้นรัดมีดสั้นไว้หนึ่งเล่ม นางเพิ่งจะฉาบยาที่ออกฤทธิ์ชาไว้บนคมมีด ไม่ว่าผู้มาเป็นมนุษย์หรือปีศาจ นางก็ปลิดชีพได้ภายในสามก้าว

ดูเหมือนผู้มาจะลังเลมิใช่น้อย ยิ่งเข้าใกล้บ้านของหลี่เจาเกอ เสียงฝีเท้าของเขายิ่งรีๆ รอๆ สุดท้ายเมื่อหยุดอยู่นอกประตูลาน เขาก็เคาะประตูอย่างระมัดระวัง “เจาเกอ เจ้าอยู่หรือไม่”

เวลาในวันวานได้ผ่านเลยไปนานมากแล้ว หลี่เจาเกอจึงอึ้งงันครู่หนึ่งกว่าจะนึกได้ว่านี่เป็นเสียงของเพื่อนบ้านนามว่าเสี่ยวหู่ เขาคือคนที่ตอนเด็กตะเบ็งเสียงล้อว่านางไม่มีบิดามารดา ต่อมาถูกนางต่อยตีไปหนึ่งยก นับแต่นั้นเห็นนางทีไรล้วนอ้อมหลบไปทางอื่น

หากมิใช่หลี่เจาเกอเคยฝึกเคล็ดจิตของตาเฒ่าโจวส่งผลให้หูตาเฉียบคม ความจำยอดเยี่ยม นางก็คงนึกไม่ออกจริงๆ ว่าเสียงนี้คือใคร

ในเมื่อเป็นคนรู้จักก็ไม่จำเป็นต้องลงไม้ลงมือ หลี่เจาเกอเก็บมีดสั้น ออกจากตัวบ้านไปเปิดประตูลานแล้วถามว่า “มีธุระอะไร”

ขณะที่เสี่ยวหู่กำลังว้าวุ่นใจอยู่นอกประตู ประตูก็พลันเปิดออก เขาไม่ได้เตรียมตัวสักนิดจึงสะดุ้งโหยง

เสี่ยวหู่ในตอนนี้ไม่ใช่เจ้าหนูอวบกลมที่รู้น้อยใจกล้าผู้นั้นแล้ว นับตั้งแต่ถูกหลี่เจาเกอต่อยตีไปหนึ่งยกก็ประทับเงามืดอันลึกล้ำไว้ในใจ หลายปีผ่านไปยังคงไม่กล้าเผชิญหน้าหลี่เจาเกอ เดิมทีเขามาวันนี้ได้เตรียมอกเตรียมใจอย่างเต็มที่ ใครจะนึกถึงว่าเมื่อประตูเปิดออก เขากลับได้เห็นดวงหน้าอันงามพิลาสทระนง พาให้จิตวิญญาณสั่นสะท้านโดยไม่ทันตั้งตัว ถ้อยคำของเด็กหนุ่มพลันติดคาในลำคอ พลังใจที่ก่อนหน้านี้เตรียมมาดิบดีล้วนสูญเปล่า

นี่คือเจาเกอเด็กหญิงที่ทั้งตั้งชื่อและทำตัวเหมือนเด็กชายนั่นน่ะหรือ เขาเดินเลี่ยงแถวนี้มาหลายปี ประกอบกับนางเองก็ไปไหนมาไหนตามลำพังจึงทำให้เขาไม่ได้สังเกตเลยว่านางเติบโตจนมีรูปโฉมเช่นนี้แล้ว

หลี่เจาเกอเห็นเสี่ยวหู่ตะลึงอ้าปากค้าง จับจ้องนางจนเริ่มมองเหม่อ นางก็เลิกหางคิ้วข้างหนึ่งขึ้นนิดๆ ก่อนถามซ้ำอีกหน “ตกลงว่าเจ้ามีธุระอะไร”

อย่างไรเสียนางก็เป็นผู้บัญชาการกองงานปราบปีศาจมาหลายปี ชาติก่อนตอนนางลงทัณฑ์สอบปากคำนักโทษ ไม่ว่านักโทษผู้นั้นจะเป็นขุนนางเก่าแก่ที่ผ่านโลกมาโชกโชนหรือเป็นนายทัพที่เคยเข้าสนามรบเอาชีวิตข้าศึก เมื่อเห็นนางก็ล้วนเผยแววพรั่นพรึงอย่างห้ามไม่อยู่ นับประสาอะไรกับเสี่ยวหู่เด็กหนุ่มวัยสิบเจ็ดผู้หนึ่งเล่า ร่างกายของเสี่ยวหู่เกร็งโดยไม่รู้สาเหตุ แม้กระทั่งขนอ่อนบนแขนก็ลุกชัน “แม่ข้าบอกว่าถึงอย่างไรวันนี้ก็เป็นวันขึ้นปีใหม่ เจ้าฉลองตัวคนเดียวเดียวดาย ใช้ได้เสียที่ไหน แม่ข้าให้ข้าเอาเกี๊ยวมาฝาก ถ้าเจ้าไม่รังเกียจจะไปฉลองปีใหม่ที่บ้านของพวกเราก็ได้นะ”

หลี่เจาเกอก้มหน้ามองชามกระเบื้องเนื้อหยาบในมือของเสี่ยวหู่ อดไม่ได้ต้องคิดในใจว่า…วันนี้ในชาติก่อนเคยเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ด้วยหรือ

คลับคล้ายว่าเคยเกิดขึ้น แต่ตอนนั้นนางปฏิเสธเขาไป หลี่เจาเกอวัยสิบหกคนเดิมไม่อยากติดค้างหนี้น้ำใจใคร ผิดกับหลี่เจาเกอคนปัจจุบันที่มองชามในมือเสี่ยวหู่แล้วพลันรู้สึกสะท้อนใจยิ่ง

ตอนนางเป็นองค์หญิง เป็นศูนย์รวมของสายตานับหมื่น เรียกลมเรียกฝนได้ ตามหลักแล้วควรได้ครอบครองความรักที่มีให้เสพไม่รู้สิ้น ทว่าในความเป็นจริงคนทั้งหมดล้วนอยากให้นางตายไปโดยเร็ว สามีของนางยิ่งสังหารนางเองกับมือ นึกไม่ถึงเลยว่าตอนนี้เมื่อนางเปลี่ยนมาเป็นเด็กกำพร้าที่ต่ำต้อยสามัญไร้อำนาจผู้หนึ่ง กลับมีคนเต็มใจเปิดประตูหนึ่งบานต้อนรับนาง

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in จุติรัก พลิกชะตาร้าย

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

    By

    บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่าดำออกจากหมู่บ้านมาก็...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 5-6

    By

    บทที่ 5 สังหารภูต   หลี่เจาเกอกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ นิ้วมือวางบนด้ามกระบี่ ท่ามกลางหมู่ใบไม้แว่วเสียงความเคลื่อนไหวดังแซกซ่า เงาดำสายหนึ่งพลัน...

  • จุติรัก พลิกชะตาร้าย

    ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

    By

    บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญู เบื้องหน้าท้องพระโ...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 5-6

บทที่ 5 สังหารภูต   หลี่เจาเกอกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ นิ้วมือวางบนด้ามกระบี่ ท่ามกลางหมู่ใบไม้แว่วเสียงความเคลื่อนไหวดังแซกซ...

community.jamsai.com