ทว่าพวกตนสามีภรรยาพบเจอกันในฝัน เฉินจิ้งจงยังต้องกลัวพ่อสามีด้วยหรือ
ความรู้สึกเคลือบแคลงสงสัยเริ่มต้นได้ไม่ทันไรก็ถูกเฉินจิ้งจงทำลายลงจนสิ้นในเสี้ยวอึดใจต่อมา
แสงตะเกียงจากทางด้านนอกสาดส่องเข้ามา เงาร่างของคนทั้งสองทอดลงบนผนังเตียงด้านใน
หวาหยางนอนอยู่ เงาร่างจึงไม่ชัดเจนนัก ตรงกันข้ามกับเฉินจิ้งจงที่ไม่ต่างอะไรกับเสือดาวที่โลดโผนโจนทะยานไม่หยุด
หวาหยางหลับตาอย่างขัดเขิน ทว่าเพียงไม่นานนางก็ลืมตาขึ้นอีกครั้ง จ้องมองดูเงาของเฉินจิ้งจงคล้ายไม่อยากนึกเชื่อ
วิญญาณก็มีเงาด้วยอย่างนั้นหรือ
ร่างของวิญญาณก็ร้อนผ่าวราวกองเพลิง?
ทุกสรรพสิ่งในฝันล้วนเหมือนจริงเช่นนี้?
ความรู้สึกสงสัยเพิ่มพูนมากขึ้นทุกขณะ หวาหยางมองไปยังบุรุษที่อยู่บนตัวนาง
เมื่อสายตาของทั้งคู่สอดประสาน เฉินจิ้งจงคลายมือออก ใบหน้าหล่อเหลาขยับเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วและปิดริมฝีปากของนางอย่างรุนแรงหยาบกระด้างเฉกวัวเคี้ยวโบตั๋น* ไม่ผิดจากทุกครั้ง
หวาหยางไม่ชอบจูบเช่นนี้ ทว่าเขามีเรี่ยวแรงมหาศาลดุจวัว ไม่ว่านางจะผลักดันเช่นไรก็ไม่ได้ผล สุดท้ายก็ได้แต่พินิจพิจารณาสิ่งที่อยู่รอบๆ ต่อ
ม่านมุ้งสีขาว ไม่ใช่เตียงในจวนองค์หญิงของนาง
เสื้อตัวในที่ถูกเฉินจิ้งจงโยนทิ้งก็เป็นสีขาวเช่นกัน ไม่ใช่ชุดที่นางใส่เมื่อคืน
นี่มันเรื่องอะไรกัน
หวาหยางจิตใจว้าวุ่นราวกับด้ายพันกัน เพียงแต่นางไม่มีเวลาให้ครุ่นคิดถี่ถ้วนละเอียดลออ กว่าเฉินจิ้งจงจะหยุดมือ ท้องฟ้านอกหน้าต่างก็สว่างไสวแล้ว
เขาม้วนเสื้อตัวในเป็นก้อนก่อนจะโยนมันออกไปด้านนอก หลังจากนั้นก็กลับมากอดหวาหยางไว้อีกครั้ง จูบข้างลำคอนางคล้ายแรงปรารถนายังมิสิ้น
หวาหยางตัวแข็งทื่ออยู่เป็นนาน จู่ๆ นางก็คว้าแขนเขาไว้แล้วจิกเล็บเข้าไปอย่างแรง
เฉินจิ้งจงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ขณะจะถามว่าเหตุใดถึงต้องทำร้ายกันด้วย เพียงชั่วพริบตาเขาก็จำเรื่องน่าอายที่ตนเองทำลงไปได้ จึงหัวเราะเสียงแผ่วออกมาคราหนึ่ง กอดอีกฝ่ายไว้พลางกล่าวขออภัย
“แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น คราวหน้าข้าจะไม่ทำเช่นนี้อีก”
หวาหยางตัวแข็งทื่อยิ่งกว่าเดิม นางหยิกตนเองคราหนึ่ง เจ็บยิ่งนัก
ทั้งคู่ต่างฝ่ายต่างเจ็บ เช่นนี้ยังเป็นฝันได้อีกหรือไร
เฉินจิ้งจงยังคงปลอบใจนาง “วางใจเถอะ ข้าปลดปล่อยข้างนอก รับรองว่าไม่ตั้งครรภ์”
หวาหยาง “…”
นางผลักชายที่เนื้อตัวเหนียวเหนอะหนะออก คว้าผ้าห่มผืนบางมาคลุมตัวแล้วเดินลงจากเตียงโดยไม่สวมรองเท้า
ทันทีที่พ้นออกจากเตียงห้อง หวาหยางก็พบว่าที่นี่คือห้องที่มีการจัดวางเรียบง่ายห้องหนึ่ง นางรู้สึกคุ้นตายิ่งนัก
เมื่อเดินมาหยุดอยู่ที่ข้างหน้าต่าง นางก็ผลักมันออกเบาๆ
ลานเรือนขนาดเล็กปรากฏขึ้นในสายตา ที่อยู่ในแปลงดอกไม้นอกหน้าต่างคือโบตั๋นดอกตูมที่กำลังรอเวลาเบ่งบาน
“เหตุใดถึงไม่นอนต่ออีกสักหน่อยเล่า”
เสียงแหบพร่าทุ้มต่ำของเฉินจิ้งจงดังอยู่ที่ด้านหลัง หวาหยางหันหน้ากลับไปช้าๆ
แสงอรุณแรกยามเช้าผ่านข้างตัวนางไป และตกกระทบที่ร่างของเฉินจิ้งจง
เขาสวมก็แต่กางเกงตัวใน เปลือยอกกำยำล่ำสัน ไหล่กว้าง เอวหน้าท้องเรียวกระชับ
เพิ่งมีอะไรกันไปยกหนึ่ง สีหน้าของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกอิ่มเอม เฉินจิ้งจงยืนอยู่ท่ามกลางแสงอรุณ ไม่รู้จักขวยเขิน
หวาหยางพิจารณาดูเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า เท้าจรดหัวถึงสามรอบ แต่ก็ไม่พบท่าทีของภูตผีแต่อย่างใด
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 13 ก.ย. 68