ถึงเขากับพ่อสามีมักจะขัดแย้งกันอยู่เป็นประจำไม่ต่างกับน้ำและน้ำมัน ปฏิบัติต่อคนอื่นๆ ในครอบครัวก็ล้วนเพิกเฉยเย็นชา แต่ถึงอย่างนั้นความสัมพันธ์ทางสายเลือดก็ยังคงใกล้ชิดสนิทสนม หากเขารู้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงขึ้นกับสกุลเฉิน ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นทุกข์โกรธขึ้งเช่นไร
นอนตายตาหลับมานานหลายปี แล้วมีเหตุผลใดต้องให้เขาทนทุกข์ทรมาน
หวาหยางส่ายหน้า กอดเขาแน่นอีกครั้ง เปลี่ยนเรื่องสนทนา “ท่านมาได้อย่างไร”
เพราะเห็นคนที่ไม่น่าจะได้เห็น หวาหยางจึงคิดว่าตนเองยังคงอยู่ในฝัน
เฉินจิ้งจงงุนงงหนัก ขณะกำลังจะเอ่ยปากถามให้กระจ่าง จู่ๆ นางก็ช้อนมือสั่นระริกขึ้น ลูบไล้ใบหน้าของเขา
เฉินจิ้งจงหายใจเข้าออกอย่างหนักหน่วง
หวาหยางที่อยู่ในสายตาของเขามีเส้นผมดำขลับยุ่งเหยิง ใบหน้าอาบน้ำตาไม่ต่างอะไรกับดอกโบตั๋นกลีบขาวที่มีหยาดน้ำค้างเกาะอยู่ นัยน์ตาวับวาวเป็นประกายดุจสายน้ำ เขาพูดอะไรไม่ออก
เฉินจิ้งจงงุนงง เขามองเห็นร่องรอยของความรักเลือนรางซึ่งมีค่าและหายากเหมือนหยดน้ำอมฤตของพระโพธิสัตว์กวนอินที่กว่าจะหลั่งรินออกมาสักหยดได้ก็ไม่ใช่ง่าย
เปลวไฟในใจเขาโหมกระพือรวดเร็ว
สติสัมปชัญญะบอกกับเขาว่าไม่ควรคิดอะไรเช่นนั้น ทว่าเขาก็แค่บุรุษหนุ่มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยกำลังซึ่งเพิ่งแต่งงานได้สามเดือนก็ต้องสวมชุดไว้ทุกข์คนหนึ่งเท่านั้น
อดทนอดกลั้นมานานเช่นนี้ ร่างกายของเขาย่อมมีท่าทีตอบสนอง
แขนของเขาโอบกระหวัดลงบนเอวของสตรีที่อยู่เบื้องหน้า กระชับร่างของนางเข้าหาตนเอง จากนั้นเขาก็ก้มหน้าลง
เพิ่งแนบร่างเข้าไปได้ไม่ทันไร ร่างของหวาหยางก็อ่อนระทวยสิ้น
เรื่องบางเรื่องเมื่อได้ลิ้มรสแล้วก็อยากจะลิ้มลองอีก ยิ่งไปกว่านั้นนางก็อยู่ในสถานะม่ายมาแล้วสามปี
ท่ามกลางค่ำคืนที่ยาวนาน หวาหยางที่ขาดคู่มิอาจข่มตาหลับก็จมอยู่ท่ามกลางความทรงจำที่มีเฉินจิ้งจงอยู่ภายใน
ยามนี้สามีภรรยากลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง หวาหยางนึกโมโหที่มิอาจรั้งเขาไว้ได้นาน
นางคล้ายเถาวัลย์ที่อ่อนแอและบอบบาง พยายามอย่างที่สุดที่จะพันเกี่ยวเขาไว้ ไม่ว่าเขาจะองอาจห้าวหาญเพียงใดก็มิอาจสลัดหลุด
นางลืมสิ้นทุกสิ่งอย่าง จนกระทั่งเฉินจิ้งจงจู่ๆ ก็ปิดปากนาง
หวาหยางมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
เฉินจิ้งจงหอบหายใจอย่างหนักหน่วง เม็ดเหงื่อไหลรินลงมาตามใบหน้าหล่อเหลาดุดัน นัยน์ตาดำขลับอึมครึม ทว่ากลับมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ภายใน
“อย่าส่งเสียง หากดังออกไปตาเฒ่าต้องด่าข้าอีกเป็นแน่”
ช่วงไว้ทุกข์ห้ามแต่งงาน ห้ามกินเนื้อสัตว์ ห้ามดื่มสุรา อีกทั้งยังห้ามสามีภรรยาร่วมหลับนอน
เรื่องบางเรื่องเขากล้าทำกล้ารับ แต่เรื่องเช่นนี้มีแค่สามีภรรยาเท่านั้นที่รู้จะดีกว่า
หวาหยางมองเขาอย่างงงงัน
ตาเฒ่า?
คนที่เรียกพ่อสามีของนางว่าตาเฒ่ามีก็แต่เฉินจิ้งจงเท่านั้น