ความจริงพูดไปแล้วคำตอบในทั้งสองครั้งของสวีจ้งเซวียนต่างหาข้อตำหนิใดไม่พบ เพียงแต่เห็นได้ชัดว่าต่อให้เป็นคนนอกอย่างนางยังมองออกว่าอู๋จิ้งเซวียนมีใจให้สวีจ้งเซวียน ดังนั้นจึงคอยหาหัวข้อต่างๆ มาสนทนากับเขาเสมอ แต่น่าเสียดายที่คำตอบทุกครั้งของสวีจ้งเซวียนแม้จะดูธรรมดาอย่างมาก ทว่ากลับทำลายทุกความเป็นไปได้ที่อู๋จิ้งเซวียนจะได้สนทนากับเขา
เจี่ยนเหยียนจึงคิดว่าขนาดของแผลในใจอู๋จิ้งเซวียนตอนนี้จะต้องไม่ใช่แค่ใหญ่ธรรมดาแน่นอน แต่เรื่องเหล่านี้เกี่ยวอะไรกับนางด้วยเล่า นางไม่อยากนั่งตรงนี้เพื่อดูละครหญิงรักข้างเดียวกับบุรุษใจดำอีกต่อไปจริงๆ ด้วยความที่สวีเมี่ยวจิ่นเป็นคนชวนนางมาเป็นแขก ซ้ำสวีเมี่ยวจิ่นต่างหากจึงจะเป็นเจ้าของที่แท้จริงของเรือนหนิงชุ่ยแห่งนี้ ดังนั้นนางจึงเอ่ยปากขอตัวกับสวีเมี่ยวจิ่น
ตอนแรกสวีเมี่ยวจิ่นไม่พอใจ แต่เจี่ยนเหยียนเอ่ยบอกอย่างนุ่มนวลว่าใกล้เที่ยงแล้ว นางต้องกลับไปกินอาหารเป็นเพื่อนมารดา สวีเมี่ยวจิ่นจึงไม่สะดวกรั้งตัวนางอยู่ต่อ ได้แต่จับมือเจี่ยนเหยียนบอกว่าอีกสักวันสองวันให้นางมาเล่นกับตนเองที่นี่อีก
อู๋จิ้งเซวียนอยู่ด้านข้างเห็นสวีเมี่ยวจิ่นทำตัวสนิทสนมกับเจี่ยนเหยียนเพียงนี้ ก็นึกถึงว่าหลายปีมานี้ตนเองมักจะมาหานางที่นี่บ่อยๆ ทั้งยังคอยปักของกระจุกกระจิกมามอบให้นาง แต่ท่าทีที่นางมีต่อตนเองกลับเย็นชาเหินห่างเสมอ ดังนั้นจึงอดรู้สึกปวดใจขึ้นมาไม่ได้ ทั้งยังมีความอิจฉาด้วยบางส่วน
ยามนั้นเจี่ยนเหยียนกลับหันมามองอู๋จิ้งเซวียนพร้อมยิ้มน้อยๆ เอ่ยกับนางว่า “พี่เซวียน ข้าขอตัวก่อน ไว้วันหน้าค่อยพบกันใหม่เจ้าค่ะ”
อู๋จิ้งเซวียนฝืนยิ้มขณะเอ่ยเช่นกันว่า “ไว้พบกันใหม่”
“คุณชายใหญ่” คราวนี้เจี่ยนเหยียนหันไปทางสวีจ้งเซวียน นางก้มหน้าลงอีกครั้ง ไม่ได้มองเขา และไม่ได้ยิ้ม แค่เอ่ยอย่างสุภาพเหินห่างว่า “ขอตัวก่อนนะเจ้าคะ”
นึกไม่ถึงว่าแม้แต่คำว่า ‘ไว้พบกันใหม่’ นางยังไม่อยากจะพูดกับเขา สวีจ้งเซวียนนิ่งอึ้งไป จากนั้นก็เห็นเจี่ยนเหยียนพาสาวใช้ของตนเองหันหลังเดินออกไปแล้ว
เพียงแต่เจี่ยนเหยียนเพิ่งจะก้าวขาออกนอกธรณีประตูไปข้างเดียว ก็ได้ยินน้ำเสียงใสกระจ่างนุ่มนวลดังขึ้นมากะทันหัน “คุณหนูเจี่ยน โปรดรอสักครู่”
เจี่ยนเหยียนขมวดคิ้ว ทว่าตอนที่หันตัวกลับไปนางก็มีสีหน้าเป็นปกติแล้ว “คุณชายใหญ่ ท่านเรียกข้ามีธุระอะไรหรือ” นางยังคงถามอย่างเกรงใจและห่างเหินเช่นเดิม
ดอกท้อกิ่งหนึ่งถูกยื่นมาตรงหน้านางกะทันหัน กิ่งไม้สีน้ำตาลหม่น ด้านบนมีดอกท้อสีชมพูอมขาวอยู่หลายดอก บางส่วนเป็นดอกกึ่งตูมกึ่งบาน เจี่ยนเหยียนประหลาดใจจนอดเงยหน้าขึ้นไม่ได้
นางจึงได้เห็นว่าบนใบหน้าสวีจ้งเซวียนมีรอยยิ้มอบอุ่นประดับอยู่ เขาเอ่ยว่า “เจ้าลืมเอาดอกท้อไปด้วย”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 6 มี.ค. 65 เวลา 12.00 น.