ทันทีที่แผ่นหลังของนางหายลับไปจากประตูเรือน สวีเมี่ยวจิ่นก็รีบเรียกสาวใช้ทันควัน “ซิ่งเอ๋อร์ รีบไปปิดประตูเรือนเร็วเข้า ไม่ว่าผู้ใดมาก็บอกไปว่าข้าพักผ่อนแล้ว ห้ามเปิดประตู!”
ซิ่งเอ๋อร์ขานรับแล้วออกไปปิดประตูเรือนทันที
สวีเมี่ยวจิ่นถึงได้หันหน้าไปเอ่ยอย่างโมโห “ข้าไม่ชอบพี่เซวียน!”
“เพราะเหตุใด” สวีจ้งเซวียนหยิบคัมภีร์จวงจื่อขึ้นมาอ่านอีกครั้ง
“ทุกครั้งที่พี่เซวียนมาหาข้าที่นี่ก็จะทำตัวเหมือนนางเป็นเจ้าของเรือนหนิงชุ่ย ใช้งานสาวใช้ข้าจนหัวหมุน อีกอย่างนางเองก็น่าตลกมาก มีหลายเรื่องที่ไม่เข้าใจแต่ก็ยังแสร้งทำเป็นเข้าใจ อย่างเมื่อครู่นี้ที่นางพูดว่าสองประโยคนั้นเข้ากับทัศนียภาพ เดิมเป็นคำที่พี่เหยียนพูดไว้ นางก็เอามาพูดแทน ทว่ากลับไม่รู้ว่ากวีสองประโยคนั้นใครเป็นผู้แต่ง บอกว่าเป็นท่านแต่งเสียได้ เรื่องนี้ก็ช่างไปเถอะ เดิมทีท่านย่าก็พูดว่าสตรีไร้ความสามารถจึงจะเหมาะสม ไม่ให้พวกเรารู้อักษรอ่านตำรา หากไม่ใช่เพราะพี่ใหญ่ ข้ากับพี่หญิงสามอาจจะเป็นคนโง่โดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน ที่น่าตลกคือเพื่อที่จะเอาใจท่าน พี่เซวียนเลยไปเรียนรู้อักษร ไปเรียนการเขียนพู่กัน ไม่เข้าใจก็แล้วไป แต่ยังต้องแสร้งทำเป็นเข้าใจอีก บอกว่าแผ่นอักษรคู่ที่ท่านเขียนเป็นสิงข่าย นั่นเป็นสิงเฉ่าต่างหากเล่า”
ครั้นได้ยินสวีเมี่ยวจิ่นเอ่ยด้วยความโมโหออกมาเป็นชุดไม่หยุด สวีจ้งเซวียนกลับหัวเราะออกมา
เขาเหลือบสายตาขึ้นมองนาง เห็นบนใบหน้าดวงเล็กเต็มไปด้วยความโมโหจึงยิ้มเอ่ย “ข้าไม่เห็นเคยรู้มาก่อนว่าเจ้าปากร้ายเพียงนี้ แต่หากเจ้าไม่ชอบให้นางสั่งการสาวใช้ของเจ้าที่นี่ ครั้งหน้าแค่พูดออกไปตรงๆ ก็พอ ต่อหน้าแอบโกรธเงียบๆ ลับหลังกลับมาตัดพ้อ มีประโยชน์อันใด”
สวีเมี่ยวจิ่นยิ่งโมโหจนขยี้เท้า “ท่านคิดว่าข้าไม่อยากทำหรือ ข้าอยากทำเช่นนั้นนัก แต่ถ้าให้ท่านย่ารู้ว่าข้าล่วงเกินนาง ไม่แน่ว่าอาจจะสั่งสอนอะไรข้าก็ได้!”
สวีจ้งเซวียนจึงปิดคัมภีร์ลง เขาลุกขึ้นเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้กลมข้างนาง ก่อนเอ่ยเสียงเรียบ “เจ้าวางใจได้ มีข้าอยู่ เจ้าไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวผู้ใดทั้งนั้น กับท่านย่าเป็นเช่นนี้ กับมารดาก็เช่นกัน เจ้าเองก็ไม่จำเป็นต้องอดกลั้นตนเอง แสดงท่าทางอยู่ในกรอบประเพณีอันดีงามออกมา เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของเจ้าอย่างตรงไปตรงมาก็พอ เหมือนหนิงเอ๋อร์อย่างไรเล่า ใช้ชีวิตอย่างอิสระหน่อย ข้าในฐานะพี่ใหญ่เจ้าย่อมคอยปกป้องเจ้าอยู่ข้างหลังตลอดไป”
หลังจากเขาพูดประโยคนี้จบ ไม่รู้เหตุใดกลับนึกถึงเจี่ยนเหยียนขึ้นมากะทันหัน สาเหตุที่นางแสดงท่าทีเป็นสตรีอยู่ในกรอบประเพณีอันดีงามออกมา เป็นเพราะว่าในใจระแวดระวังผู้ใด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำเช่นนี้ใช่หรือไม่
สวีเมี่ยวจิ่นตื้นตันใจอย่างมาก นางเอ่ยเสียงเบา “พี่ใหญ่ ท่านดีต่อข้านัก”
“ข้ามีน้องสาวแท้ๆ อย่างเจ้าแค่คนเดียว ไม่ดีต่อเจ้าแล้วจะให้ดีกับใคร” สวีจ้งเซวียนยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเหลือบไปเห็นถุงพกในมือนาง เขาเห็นว่ามันเป็นลายกระต่ายตัวหนึ่ง ทว่าก็ดูไม่ค่อยคล้ายเท่าไรนัก ตัวอ้วนๆ ชวนให้คนเอ็นดู เขาจึงอดเอ่ยปากถามไม่ได้ “เจ้าเอาถุงพกใบนี้มาจากที่ใดกัน”