ตอนนั้นมู่ไคเวยอายุแปดขวบ แต่นางกลับจดจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นได้ดีว่าท่านลุงที่เอาฟืนมาส่งให้ที่จวนทุกวันบอกว่ามีคนวานเขาให้เอาของสำคัญมามอบให้ถึงมือนายท่านมู่
สิ่งที่ส่งมาถึงมือบิดาในวันนั้นคือห่อผ้าทรงสี่เหลี่ยมสีขาวหนึ่งห่อกับห่อของยาวๆ อีกหนึ่งห่อ บิดานางเปิดห่อของทั้งสองต่อหน้าบุตรสาว พบว่าในห่อทรงสี่เหลี่ยมคือโถใส่อัฐิสีดำสนิทหนึ่งใบ ส่วนห่อของยาวๆ อีกห่อคือกระบี่อ่อนหลิวเขียว อาวุธที่มารดานางนำติดตัวตระเวนไปทั่วยุทธภพ
ตอนนั้นมารดานางเดินทางไปเยี่ยมสหาย แต่ตอนกลับมากลับมีแค่โถใส่อัฐิหนึ่งใบ
ทั้งยังมีจดหมายแนบมากับโถใส่อัฐิและกระบี่ จนเมื่อมู่ไคเวยเริ่มทำงานในหน่วยประตูหกบานแล้ว นางถึงได้เปิดจดหมายออกอ่านร่วมกับบิดา จดหมายเขียนว่าดาบของศัตรูที่รุมเล่นงานมารดานางอาบยาพิษ ลิ่นเกิ่งเจินเสียเลือดมากและพิษกำเริบทำให้เสียชีวิต ด้วยเหตุนี้แม้จะเผาร่างเป็นเถ้าถ่านแล้วแต่พิษยังคงอยู่ ทำให้โถใส่อัฐิกลายเป็นสีดำ จำเป็นต้องผนึกโถใส่อัฐิไว้เป็นเวลาสามเดือน พิษในอัฐิจึงจะสูญสลายและสามารถเปิดผนึกได้อีกครั้ง
มู่ไคเวยเคยได้ยินบิดาพูดถึงคนที่ลงชื่อบนจดหมายว่าเป็นผู้อาวุโสหญิงที่เคยคบหากับผู้อาวุโสของครอบครัวนาง
ผู้อาวุโสหญิงคนนั้นช่วยมารดาของมู่ไคเวยไว้ตอนเผชิญภัยร้าย เสียดายที่สายเกินไป ทำให้มารดานางไม่มีโอกาสได้กลับบ้าน
ทว่าโถใส่อัฐิสีดำสนิทที่ผู้อาวุโสหญิงให้คนส่งกลับมาที่จวนสกุลมู่มีกลิ่นจางๆ ที่หญิงสาวไม่เคยลืม เป็นกลิ่นหอมใสบาดจมูกอ่อนเบาที่ตราตรึงถึงดวงวิญญาณของนาง และเป็นกลิ่นเดียวกับที่มู่ไคเวยเคยได้กลิ่นจากร่างของเฮยซานผู้ปิดบังโฉมหน้า
นางอยากรู้มาตลอดว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับมารดา อยากรู้ให้ชัดทั้งขั้นตอนและรายละเอียดทั้งหมดที่เกิดขึ้น แต่ความลับที่เกี่ยวกับราชวงศ์ไม่สามารถให้คนนอกล่วงรู้ บิดาจึงปิดบังนางมาตลอดจนถึงวันนี้
“มารดาเจ้าสอดมือเข้าไปขวางหมากลับโดยไม่ได้ตั้งใจ แม้ฮ่องเต้จะทรงทราบเรื่องนี้ในภายหลังแต่พระองค์ก็ไม่ได้ยุ่งกับสกุลมู่ของพวกเรา พ่อคิดว่าพระองค์คงอยากหยุดดูท่าทีไปก่อน แต่การที่ฮ่องเต้สนับสนุนพระราชทานสมรสของไทเฮาครั้งนี้ เป็นเพราะทรงมีพระดำริแอบแฝงที่เห็นได้ชัด พ่อคิดว่า…พระองค์มีพระราชประสงค์จะทดสอบอะไรบางอย่าง”
การมอบมู่ไคเวยให้คังอ๋องฟู่จิ่นซีแบบผลักเรือตามน้ำเพื่อให้นางไปอยู่ข้างกายฟู่จิ่นซี เป็นเพราะต้องการทดสอบเรื่องอะไร
ต้องการรู้ว่าสกุลมู่ของนางเป็นพวกของคังอ๋อง และจะช่วยคังอ๋องกำราบฮ่องเต้หรือไม่เช่นนั้นหรือ
สองวันมานี้ มู่ไคเวยต้องคิดหนัก
เพราะวันนั้นหลังจากคุยกันถึงช่วงสุดท้าย บิดาไม่อยากให้นางคิดมากจึงบอกว่าแม้การพระราชทานสมรสของไทเฮาจะได้รับการสนับสนุนจากฮ่องเต้ แต่เขาจะหาทางแก้ไขปัญหานี้ และจะไม่ยอมให้มู่ไคเวยไปเป็นชายาเอกของคังอ๋องเด็ดขาด
แต่…จะแก้ไขอย่างไรเล่า
ฮ่องเต้ต้องการให้ขุนนางตาย ขุนนางก็ต้องตาย นับประสาอะไรกับการพระราชทานสมรส
หากสกุลมู่ของนางขัดราชโองการทำให้โอรสสวรรค์พิโรธจนเลือดลมพลุ่งพล่าน ผลจะออกมาเป็นอย่างไรกัน