กินเสร็จเนี่ยชิงหลวนไม่อยากจะออกไปรับลมเย็น จึงได้แต่นั่งกัดเล็บอยู่ในห้อง ฆ่าเวลาด้วยการครุ่นคิดถึงสถานการณ์ในภายภาคหน้า
ขณะกำลังคิดนั่นเอง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าสับสนดังขึ้นด้านนอก
เนี่ยชิงหลวนจึงเรียกชิงเอ๋อร์ “ชิงเอ๋อร์ ออกไปดูที เกิดอะไรขึ้น”
ชิงเอ๋อร์ขานรับคำหนึ่ง กำลังจะออกไป แต่ยังไม่ทันได้ออกก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามา
สวมเสื้อเกราะสำหรับออกรบ ดูก็รู้ว่าเป็นทหาร
เนี่ยชิงหลวนตกใจจนสะดุ้งโหยงลุกขึ้นมาจากเก้าอี้
คงไม่ใช่เพราะการที่นางหลับไปบนเตียงของจั่วหลิงทำให้เขายังโกรธไม่หาย ตอนนี้จึงส่งลูกน้องมาหาเรื่องจะลากตัวนางออกไปกระมัง
แต่ทหารหลายนายที่เข้ามาล้วนแสดงความเคารพยำเกรงต่อนางมากไม่ว่าจะคำพูดหรือท่าที
หัวใจที่เต็มไปด้วยความหวาดหวั่นตั้งแต่คืนวานของเนี่ยชิงหลวนจึงค่อยๆ สงบลงจนเป็นปกติ จากนั้นจึงค่อยพบว่าบนบ่าของทหารเหล่านั้นแบกอะไรบางอย่างมาด้วย
“พวกเจ้าต้องการอะไร”
เนี่ยชิงหลวนถามอย่างลังเล ใครจะรู้ นี่อาจเป็นเครื่องลงทัณฑ์ที่จั่วหลิงคิดขึ้นเพื่อจับนางทรมานก็เป็นได้
เวลานี้คนผู้หนึ่งที่อยู่ด้านหลังก็เดินเข้ามาหา เนี่ยชิงหลวนมองดู เป็นคนคุ้นหน้านี่เอง
อันที่จริงจะว่าไปแล้วก็ไม่นับว่าคุ้นหน้ามากนัก แค่คุ้นหน้ากว่าเมื่อเทียบกับคนแปลกหน้าเหล่านี้ต่างหาก
คนที่มาคือจ้าวเสี่ยวเป่ย เวลานี้เขาไม่ได้สวมเสื้อเกราะออกรบ แต่สวมชุดเครื่องแบบตามสบาย ดูๆ ไปแล้วระดับความอบอุ่นเป็นมิตรเพิ่มขึ้นทันที
เนี่ยชิงหลวนถามคำถามเดิมกับเขาด้วยความงุนงงสงสัย
ใครจะรู้ พอเจ้าหนุ่มเงยหน้าก็ทำสีหน้าเหมือนจะบอกว่าคนธรรมดาสามัญที่แสนโง่เขลาอย่างเจ้า จะไปเข้าใจปัญหาที่ลึกซึ้งเช่นนี้ได้เช่นไร แล้วตอบกลับมาว่า “พวกเรามาเปลี่ยนเตียง”
เดิมทีเนี่ยชิงหลวนก็งุนงงเหมือนเดินอยู่ปลายสายหมอก ตอนนี้จึงยิ่งเหมือนผลุบหายเข้าไปกลางกลุ่มหมอกเลยทีเดียว
“เปลี่ยนเตียงอะไรกัน”
จ้าวเสี่ยวเป่ยคางตกลงมาเล็กน้อย แล้วตอบกลับอย่างเย่อหยิ่ง “ท่านแม่ทัพของเราติดที่นอน”
…แค่ติดที่นอน มีอะไรให้เย่อหยิ่งกันเล่า
ทหารกลุ่มนั้นรีบย้ายเตียงหลังเดิมออกไป จากนั้นก็พากันต่อโครงเตียงสี่เสาให้นางเสียงดังโครมคราม
เนี่ยชิงหลวนจึงรู้ว่าของที่ทหารเหล่านั้นแบกไว้บนบ่า ที่แท้ก็คือชิ้นส่วนแต่ละชิ้นของเตียงนั่นเอง
ผีผาเองก็พลอยงงงันไปด้วย รอจนจ้าวเสี่ยวเป่ยกับทหารเหล่านั้นออกไปหมดแล้ว จึงค่อยถามว่า “คุณหนู นี่มันเรื่องอะไรกันเจ้าคะ”
เนี่ยชิงหลวนสอดมือทั้งสองข้างไว้ในชายแขนเสื้อ ตอบไปด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก “อ้อ นี่เป็นเรื่องดี แสดงว่าจั่วหลิงยกห้องนอนห้องนี้ให้ข้า ส่วนตนเองไสหัวไปนอนที่อื่นแล้วน่ะสิ”
ผีผาแย้ง “แต่คุณหนู พวกท่านเพิ่งจะแต่งงานก็แยกห้องกันแล้วจริงหรือ คนอื่นจะมองอย่างไร”
เนี่ยชิงหลวนคิด ช่างหัวคนอื่นปะไร ถึงอย่างไรข้าก็ไม่อยากจะนอนกับจั่วหลิงอยู่แล้วนี่
หวนนึกถึงรสชาติการถูกมีดเย็นเฉียบวางพาดลำคอแล้ว นางก็รู้สึกว่าชั่วชีวิตนี้แทบไม่อยากจะพบหน้าจั่วหลิงอีกต่อไป