บทที่ 3
ด้านนอกลานเรือนของเนี่ยหยวนหวา เนี่ยฮูหยินกับผีผาสาวใช้ของเนี่ยชิงหลวนกำลังยืนรออย่างร้อนใจ
พอเห็นเนี่ยชิงหลวนเดินออกมา เนี่ยฮูหยินกับผีผาก็รีบเดินเข้าไปหาทันที
“หลวนเอ๋อร์” เนี่ยฮูหยินคว้ามือทั้งสองข้างของนางไว้ ถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง “เมื่อครู่นางเรียกให้เจ้ารั้งอยู่เพียงลำพัง นางทำอะไรเจ้าหรือไม่”
หลายปีมานี้เนี่ยหยวนหวาทำอะไรเนี่ยชิงหลวนมาบ้าง เนี่ยฮูหยินย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ แต่เพราะหวั่นเกรงที่เนี่ยหยวนหวาเป็นบุตรีของเนี่ยฮูหยินคนก่อน ตระกูลฝั่งท่านตาของนางก็นับว่ามีอำนาจ เนี่ยฮูหยินจึงไม่กล้าลงมือทำอะไร
เนี่ยชิงหลวนจึงเกิดความรู้สึกที่ซับซ้อนกับความเอื้ออาทรที่เนี่ยฮูหยินมีให้อยู่บ้าง
จะว่าไปนางก็เป็นมารดาแท้ๆ ของเจ้าของร่างที่ตนได้มาอาศัย ตลอดหลายปีมานี้นางปฏิบัติต่อเนี่ยชิงหลวนด้วยดีอย่างแท้จริง ทว่าพอหวนนึกถึงเรื่องที่เนี่ยฮูหยินกับซิ่นหยางโหวทำลงไปในอดีต เนี่ยชิงหลวนก็รู้สึกว่าเนี่ยฮูหยินช่างเหมาะสมกับคำว่า ‘สาวชาเขียว’ ที่ภายนอกดูบริสุทธิ์ดุจดอกบัวขาวจริงๆ
เนี่ยชิงหลวนไม่เชื่อว่าในตอนที่เนี่ยฮูหยินมาหาซิ่นหยางโหว นางไม่มีความคิดจะมาเป็นภรรยาอีกคนของท่านโหว ไม่เช่นนั้นตอนที่นางตกพุ่มม่าย อยู่บ้านสามีต่อไม่ได้ก็ควรจะกลับไปบ้านมารดาสิ ไฉนต้องมาขอพึ่งพิงซิ่นหยางโหว นอกจากนี้หลังจากนางกับซิ่นหยางโหวกลิ้งบนผ้าปูเตียง เมื่อใดที่เนี่ยฮูหยินคนก่อนส่งคนมาขับไล่นางออกไปจากจวนโหว เรื่องก็มักจะบังเอิญแพร่ไปถึงหูซิ่นหยางโหวได้ทุกครั้ง สุดท้ายนางยังได้อุ้มท้องจนขึ้นเป็นภรรยาเอกอีก
หากบอกว่านางเป็นผู้มีความดีและใสซื่อบริสุทธิ์ สุนัขผ่านมาได้ยินเข้าก็ยังต้องหัวเราะ
เนี่ยชิงหลวนค่อยๆ ดึงมือของตนเองออกจากมือเนี่ยฮูหยินด้วยความรู้สึกซับซ้อน ลอบถูมือกับเสื้อผ้าของตนเอง จากนั้นจึงพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า “ไม่มีอะไรสำคัญ พี่สาวก็แค่เรียกข้าไว้คุยอะไรด้วยสักหน่อยเท่านั้นเอง”
เนี่ยฮูหยินรีบถาม “นางพูดอะไรกับเจ้าหรือ”
“นางบอกว่าข้าทั้งเฉลียวฉลาดทั้งน่ารัก ต่อไปรอให้นางได้เป็นฮองเฮาเสียก่อน แล้วจะแต่งตั้งข้าให้เป็นองค์หญิง”
ที่เนี่ยชิงหลวนโกหกเช่นนี้เพราะนางไม่อยากให้เนี่ยฮูหยินเป็นกังวล เรื่องแย่ๆ อย่างการมีดาบห้อยอยู่เหนือหัวพร้อมฟาดฟันลงมาทุกคืนวันนั้นให้นางรับรู้เพียงผู้เดียวก็พอ ไม่จำเป็นต้องให้เนี่ยฮูหยินต้องพลอยเป็นห่วงไปด้วย นอกจากนี้นางไม่ชอบเล่าเรื่องของตนเองให้ผู้อื่นฟังเลยจริงๆ
เห็นได้ชัดว่าขืนทำเช่นนั้นความเป็นส่วนตัวของนางก็คงไม่เหลือ
“พูดจริงหรือ” เนี่ยฮูหยินดูจะไม่เชื่อคำพูดนี้พลางถามกลับอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่า “นางจิตใจดีถึงเพียงนี้เชียว หลวนเอ๋อร์ อย่ามาหลอกแม่เลย”
เนี่ยชิงหลวนจึงกล่าวว่า “โธ่ ข้าจะหลอกท่านแม่ไปเพื่ออันใดกัน ว่าไปแล้วเราต่างก็เป็นพี่น้อง เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ นางยังจะทำอะไรข้าอีกเล่า”
ผีผาได้ยินดังนั้นก็ถึงกับเอามือตบอก ทำสีหน้ายินดียิ่งหลังดูตื่นตกใจในตอนแรก บอกว่า “โอ้โห คุณหนูเจ้าคะ เมื่อครู่นี้คุณหนูทำเอาข้าตกใจแทบแย่ ยังคิดว่าที่คุณหนูใหญ่รั้งตัวคุณหนูไว้เพียงลำพัง ไม่แน่อาจหาทางกลั่นแกล้งทรมานคุณหนูก็เป็นได้”
เนี่ยชิงหลวนชายตามองสาวใช้ที่อายุไล่เลี่ยกัน แย้มยิ้มแล้วเอ่ยว่า “กลั่นแกล้งทรมานข้า? เจ้าไม่ใช่ไม่รู้ว่าคุณหนูของเจ้าเป็นพวกกระดูกเหล็กหนังทองแดง อยากจะกลั่นแกล้งข้าหรือ คงต้องคิดดูให้ดีก่อนว่าตนเองมีกำลังพอจะทำได้หรือไม่”