แม้จะเป็นเช่นนี้ พอทุกคนในอุทยานได้เห็นพระองค์ก็ยังพากันคุกเข่าคำนับ เปล่งเสียงถวายพระพรให้ทรงพระเจริญนับหมื่นปี
เนี่ยชิงหลวนคิด ดูจากหน้าตาของฮ่องเต้หลงอันตี้ในตอนนี้ ร้องอวยพรให้ทรงพระเจริญนับร้อยปีก็ยังเป็นไปได้ยาก แต่คนตั้งมากมายกลับยังหลับหูหลับตาถวายพระพรให้ทรงพระเจริญถึงหมื่นปี
หลงอันตี้นั่งลงแล้วยกมือขวาขึ้นโบก สีหน้าเปี่ยมด้วยรอยยิ้มดูมีเมตตาพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงสนิทชิดเชื้อว่า “เหล่าขุนนางที่รักทั้งหลายโปรดลุกขึ้น ในเมื่อเป็นงานกินเลี้ยงในครอบครัว เช่นนั้นก็ไม่ต้องมากพิธีแบ่งแยกเจ้านายกับขุนนาง ว่าไปแล้วทุกคนก็ล้วนเป็นญาติพี่น้อง เชิญตามสบายเถอะ”
แม้ฮ่องเต้จะกล่าวว่าให้ทำตัวตามสบาย แต่ใครเล่าจะรู้ว่าพระองค์คิดเช่นนี้จากใจจริงหรือเพียงเอ่ยไปอย่างนั้น ในอุทยานจึงไม่มีใครกล้าทำตัวตามพระประสงค์เลยสักคน
ฮ่องเต้หลงอันตี้วางตัวสนิทสนมอย่างเป็นมิตร ด้วยอยากจะสนทนาถามไถ่ทุกข์สุขกับเหล่าพระราชวงศ์ในอุทยานเพื่อเพิ่มพูนความรักใคร่ผูกพันระหว่างกัน แต่น่าเสียดาย ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นไม่กล้าปล่อยตัวตามสบายและพูดคุยถามไถ่อย่างสนิทสนมกันจริงๆ ถ้อยคำที่พูดจายังแฝงนัยประจบประแจงฮ่องเต้หลงอันตี้ทั้งอย่างโจ่งแจ้งและแอบแฝง
ครู่หนึ่งก็เห็นเสนาบดีกรมทหารลุกขึ้น
บุตรีคนโตของเสนาบดีกรมทหารคือพระชายาซูเฟยของฮ่องเต้หลงอันตี้ ดังนั้นหากจะว่ากันตามจริงแล้ว เขานับว่าเป็นพระสัสสุระของฮ่องเต้หลงอันตี้นั่นเอง
แต่พระสัสสุระผู้นี้ไม่กล้าทำตัวโอ้อวด ยังคงเป็นฝ่ายยืนขึ้นและคำนับฮ่องเต้หลงอันตี้อย่างพินอบพิเทา จากนั้นจึงหยิบฎีกาออกมาจากชายแขนเสื้อ ร้องบอกทรงพระเจริญนับหมื่นปีก่อนเริ่มอ่านฎีกา
เนื้อหาในฎีกาสั้นกระชับ เพียงรายงานว่าเมื่อเดือนก่อนจั่วหลิงแม่ทัพแดนพายัพได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ สังหารศัตรูไปเท่าใด จับกุมเชลยได้มากเท่าใด
แต่เนื้อหาเกินครึ่ง เสนาบดีกรมทหารมุ่งกล่าวสรรเสริญพระบรมเดชานุภาพและพระเมตตาอันเปี่ยมล้นของฮ่องเต้หลงอันตี้
แม้เขาทูลจบแล้วแต่ยังไม่จบสิ้น ยังมีคนกลุ่มใหญ่ลุกขึ้นมา แย่งกันฉวยโอกาสกล่าวคำสรรเสริญเยินยอพระอัจฉริยภาพและความห้าวหาญของฮ่องเต้หลงอันตี้ว่าทรงเก่งกาจสุขุมคัมภีรภาพเพียงใด ราวกับว่าชัยชนะที่ได้รับในแดนพายัพไม่ได้มาจากความสามารถในการสั่งการของแม่ทัพจั่วหลิง แต่เป็นเพราะพระบารมีของฮ่องเต้หลงอันตี้ซึ่งอยู่ไกลถึงเมืองหลวงคอยปกแผ่ไปทั่วหล้า ทำให้พวกชาวหูตกใจปัสสาวะเล็ดจนต้องหนีกลับบ้านเกิดไป
ต่อให้หลงอันตี้จิตใจบริสุทธิ์สูงส่งสักเพียงใด เมื่อฟังผู้ใต้บังคับบัญชาเหล่านี้พากันเยินยอได้สักพักก็ยังเคลิบเคลิ้มจนถึงกับลูบเคราพลางอมยิ้ม คิดแล้วเพลิดเพลินเจริญใจยิ่งนัก
ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีใครเอ่ยถึงคุณูปการของจั่วหลิงแม้แต่ผู้เดียว