บทที่ 8
รอยยิ้มของเนี่ยหยวนหวามักดูงดงามติดตาตรึงใจอย่างยิ่ง
นางมีรูปโฉมงามสะคราญ ยามยิ้มราวกับดอกโบตั๋นแย้มบาน งดงามโดดเด่นเหนือใคร
ทว่าเนี่ยชิงหลวนนึกอยากจะฉีกทึ้งดอกโบตั๋นนี้ให้แหลกคามือเสียจริง
“น้องสาวช่างคิดในแง่ดีเสียจริง เจ้าคิดว่าพระชายาจิ้นอ๋องเป็นกันได้ง่ายๆ หรือ ไม่ต้องพูดถึงว่าเมืองชายแดนกันดารยากแค้น ขาดแคลนปัจจัยที่จำเป็น ได้ยินว่าถึงเดือนเก้าก็มีหิมะตกแล้ว ในหนึ่งปีสิ้นเหมันต์ก็เข้าสู่คิมหันต์ วสันต์กับสารทเป็นเพียงชื่อฤดูกาลที่เคยได้ยินผ่านๆ เท่านั้น ตั้งแต่ยังเล็กเจ้าเติบโตอย่างคุณหนูสูงศักดิ์ กินอยู่หรูหรา จะรับได้หรือถ้าได้อาบน้ำเพียงปีละครั้ง ทั้งยังต้องทนกับเหมันต์อันหนาวเหน็บชนิดที่ว่าน้ำหยดลงมาก็กลายเป็นน้ำแข็งทันที และคิมหันต์ที่ดวงตะวันร้อนแรงแผดเผาจนออกไปเดินเล่นข้างนอกไม่ได้แม้แต่ก้าวเดียว ต้องเอาแต่คุดคู้อยู่ในบ้านทั้งวี่วัน”
เนี่ยชิงหลวนหัวเราะหึๆ
เจ้าดูแคลนข้าเกินไปจริงๆ หวนคิดถึงชาติก่อน เมืองที่ตนเคยอยู่ถูกเลือกให้เป็นหนึ่งในสี่เมืองที่ร้อนราวกับเป็นเตาอบของประเทศแทบทุกปี ถนนราดยางมะตอยตอนกลางวันร้อนระอุจนทอดไข่ได้ ส่วนเรื่องความหนาวเย็น ความหนาวของดินแดนทางใต้ช่วงหน้าหนาวก็หนาวจนเสียดกระดูก หาความอบอุ่นไม่ได้เลย ถ้าหมาป่าสักตัวจากทางเหนือมาอยู่ที่ภาคใต้ คงหนาวจนต้องกลายร่างเป็นหมาบ้าน ยังต้องกลัวอะไรกับแค่แสงแดดแผดเผากับหยดน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง
เนี่ยหยวนหวายังขู่ต่อไป “ส่วนจิ้นอ๋องจั่วหลิงผู้นี้ ไม่ใช่ว่าข้าจะขู่ให้เจ้ากลัว ใครบ้างไม่บอกว่าเขาเป็นพวกกระหายเลือด ตามที่ขุนนางผู้แทนพระองค์ผู้นั้นกลับมาเล่าให้ฟัง เขาหน้าตาราวกับอสูรร้าย ร่างสูงแปดฉื่อ ใบหน้าดำมะเมื่อม น่ากลัวเป็นที่สุด ได้ยินว่าแถบเมืองหล่ง ถ้ามีเด็กคนใดเกเร ขอเพียงพูดขึ้นมาประโยคหนึ่งว่าท่านแม่ทัพมาแล้ว เด็กน้อยผู้นั้นก็จะทำตัวว่าง่ายขึ้นมาทันที ไม่กล้าเกเรอีกเลย”
เนี่ยชิงหลวนได้ฟังดังนั้นก็หัวเราะขึ้นมาเช่นเดิม
“ขอบคุณพี่สาวที่เป็นห่วง แต่ไม่ว่าเขาจะหน้าตาเป็นเช่นไร บัดนี้เขาก็เป็นสามีของข้าแล้ว มีคำกล่าวว่าลูกไม่รังเกียจแม่อัปลักษณ์ ข้าผู้เป็นภรรยาก็ไม่รังเกียจรูปโฉมสามีเช่นกัน คงไม่ต้องให้พี่สาวลำบากมาช่วยเป็นกังวลหรอก”
เนี่ยหยวนหวาเห็นว่าขู่อย่างไรเนี่ยชิงหลวนก็ไม่ตกใจ หนำซ้ำอีกฝ่ายยังเอาแต่ทำเป็นไม่แยแสอะไรทั้งสิ้น ใบหน้านางก็เขียวคล้ำลง
“เนี่ย-ชิง-หลวน” นางเองก็คร้านจะตีสีหน้ายิ้มแย้มเหมือนเป็นกังวลเต็มแก่ จึงกัดฟันกรอดๆ แล้วเอ่ยว่า “ใต้หล้านี้ล้วนเป็นของราชัน ต่อให้เจ้าแต่งงานไปอยู่เมืองหล่งจริง ข้าก็ตั้งใจแน่วแน่แล้วว่าจะไม่ปล่อยให้เจ้าหนีพ้นเงื้อมมือไปได้ สักวันข้าจะทำให้เจ้ากลับมาคร่ำครวญอ้อนวอนต่อข้าแต่โดยดี”
ถึงตรงนี้นางก็พูดต่อด้วยความเคียดแค้น “แต่ก่อนจะถึงตอนนั้น ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าได้อยู่อย่างเป็นสุขที่เมืองหล่งเป็นแน่”
ว่าแล้วก็สะบัดชายแขนเสื้อ หันเดินจากไปอย่างชิงชัง
หลังนางไป รอยยิ้มก็เหือดหายไปจากใบหน้าเนี่ยชิงหลวนเช่นกัน
เนี่ยชิงหลวนหันกลับมา พูดกับผีผาที่ยืนอยู่ข้างๆ ด้วยสีหน้าเศร้าสลดว่า “ผีผา จั่วหลิงผู้นี้หน้าตาอัปลักษณ์เหมือนอสูรจริงหรือ”
ผีผาถึงกับหลุดขำ