เขาคิดว่าที่ฮูหยินของตนกล่าวมามีเหตุผล อีกทั้งเฉิงเต๋อฉิงก็แค่ถูกคุณชายสกุลเถียนกระชากแขนเสื้อเล็กน้อยเท่านั้น ต่อให้โดนคนเห็นเข้าก็แค่คิดกันไปว่าพวกเด็กๆ ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่เคารพขนบธรรมเนียมเท่านั้น ขอเพียงแต่งงานกันก็ไม่มีปัญหาแล้ว
ในเมื่อไม่เสียหายอันใดต่อศักดิ์ศรีหน้าตา เขาก็ยินดีจะแสร้งทำเป็นเลอะเลือน เร่งเร้าการแต่งงานนี้ให้สำเร็จ
แต่เขาคิดไม่ถึงว่าเฉิงเต๋อฉิงกลับจะแขวนคอฆ่าตัวตาย ส่วนเฉิงเทียนฟู่ก็พากำลังทหารบุกเข้ามาที่นี่ราวกับคลุ้มคลั่งเสียสติ ซ้ำยังพาใต้เท้าผู้ว่าการมาเป็นพยานอีกด้วย หลังจากผ่านการสอบสวนของผู้ว่าการก็ทำให้เรื่องสัมพันธ์ลับของหนุ่มสาวกลายเป็นคดีเจตนาบังคับขืนใจเพื่อแย่งชิงทรัพย์สินไปเสียดื้อๆ
ทันใดนั้นเขาเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าควรจะรับมืออย่างไร ทำได้เพียงถลึงตาใส่พวกเถียนเพ่ยหรงสองป้าหลานพร้อมเอ่ย “พะ…พวกเจ้าทำเรื่องพรรค์นี้จริงๆ รึ ไม่เห็นกฎหมายกฎตระกูลอยู่ในสายตาเลยหรืออย่างไร”
เถียนเพ่ยหรงเองก็คิดไม่ถึงว่าเฉิงเทียนฟู่จะบุกมาถึงที่อย่างไม่กลัวเกรงเช่นนี้ พอเห็นว่าพวกบ่าวรับใช้พากันสารภาพความจริงออกมา นางก็ตัดสินใจเด็ดขาด เอ่ยแก้ตัวน้ำขุ่นๆ ว่า “ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะเฉิงเทียนฟู่ทรมานให้สารภาพ หลานชายบ้านข้าก็แค่เห็นว่าเต๋อฉิงรูปโฉมสะสวย มีใจให้ตั้งแต่แรกพบก็เท่านั้น
บัดนี้พวกเขาถูกคนอื่นเห็นตอนที่ฉุดกระชากกันแล้ว หากเขาเป็นห่วงน้องสาวจริงก็ควรทำเรื่องใหญ่ให้เล็กลง ช่วยให้การแต่งงานครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วสกุลเถียนและสกุลเฉิงของพวกเราก็จะเกี่ยวดองแน่นแฟ้นกันยิ่งขึ้นไปอีก หากมิเช่นนั้นชื่อเสียงของเต๋อฉิงได้รับความเสื่อมเสีย นางก็คงหาบ้านสามีในเมืองหลวงแห่งนี้ไม่ได้อีกแล้ว!”
“ท่านพี่ ต่อให้ข้าต้องออกบวชเป็นแม่ชี หรือว่าต้องตายเสียบัดเดี๋ยวนี้ ข้าก็ไม่มีวันแต่งให้พวกต่ำทรามไร้ยางอายพรรค์นี้เด็ดขาด!” ในขณะนี้เอง เฉิงเต๋อฉิงก็เดินเข้ามาโดยมีสาวใช้คอยประคับประคอง
เมื่อนางได้ยินว่ามารดาไล่ตามพี่ชายไปยังสกุลเฉิง ถึงแม้ร่างกายจะเจ็บปวดทรมาน แต่ก็ยังฝืนลุกขึ้นมา รีบไล่ตามมาด้วยความร้อนรนใจ พลทหารจำคุณหนูสกุลเฉิงได้ ดังนั้นจึงปล่อยนางเข้ามา
เมื่อคืนนางคิดสั้นไปชั่ววูบ ทำให้มารดาต้องเศร้าโศกาถึงเพียงนั้น เท่านี้นางก็นึกเสียใจภายหลังอย่างสุดซึ้งแล้ว ถ้าหากพี่ชายต้องมาก่อเรื่องใหญ่เพราะนาง ทำให้ต้องหมดสิ้นอนาคต เช่นนั้นนางคงจะมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้จริงๆ
สีหน้าของพี่ชายกับหยวนกวงต๋าเมื่อครู่นี้ล้วนระคนด้วยจิตสังหารคุกรุ่น นางยิ่งคิดก็ยิ่งหวาดกลัวจริงๆ ตลอดทางที่มานางร้อนใจจนเกือบจะร้องไห้ออกมา
บัดนี้พอเห็นว่าพี่ชายยังสบายดี ไม่ได้ก่อคดีฆ่าคนตาย ในใจของนางก็พลันผ่อนคลายลงเช่นกัน
ยามนี้เฉิงเผยเหนียนถึงได้เห็นรอยรัดบนลำคอของเฉิงเต๋อฉิง ในใจก็แตกตื่นตกใจไปเช่นกัน เขาพลันเข้าใจแล้วว่าเหตุใดบุตรชายถึงบุกเข้ามาอาละวาดที่สกุลเฉิงราวกับคนบ้าเสียสติ
อย่างไรเขาก็เป็นบิดาของเฉิงเต๋อฉิง ครั้นเห็นบุตรสาวอยู่ในสภาพเช่นนี้ในใจก็เริ่มโกรธแค้นเถียนซื่อขึ้นมา แต่ต่อมาก็โมโหบุตรสาวที่ทำอันใดมุทะลุบุ่มบ่าม ทำเรื่องเล็กให้บานปลายจนควบคุมไม่ได้เช่นนี้
เฉิงเทียนฟู่เห็นน้องสาวมาก็ขมวดคิ้วเอ่ย “ข้าจะจัดการแทนเจ้าให้เรียบร้อยเอง เจ้ากลับจวนไปก่อนเถิด”
แต่เฉิงเต๋อฉิงกลับส่ายศีรษะ มองไปทางเสนาธิการหยวนซึ่งยืนอยู่ข้างกายเฉิงเทียนฟู่ เอ่ยถามเขาตรงๆ ว่า “เจ้าเคยมีความคิดจะสู่ขอกับท่านพี่ อยากแต่งข้าเป็นภรรยาใช่หรือไม่ ตอนนี้ข้าถูกคนชั่วแซ่เถียนผู้นี้เกาะแกะ ถูกเขากระชากแขนเสื้อต่อหน้าธารกำนัล เจ้าถือสาหรือไม่”
หยวนกวงต๋าไม่คาดคิดแม้แต่น้อยว่าคุณหนูสกุลเฉิงที่ไม่เคยทำสีหน้าดีๆ ให้เขาเลยสักครั้งจู่ๆ จะเอ่ยปากถามขึ้น ภายใต้ความตื่นตะลึง เขาพลันเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มทึ่มทื่อทันที “ขอแค่เจ้ายินดีแต่ง ข้าย่อมยินดีรับเจ้าเป็นภรรยา ถ้าเจ้าโกรธแค้นที่เขากระชากแขนเสื้อเจ้า ข้าก็จะตัดแขนเขาเป็นการแก้แค้นให้เจ้าประเดี๋ยวนี้!”
พูดจบ หยวนกวงต๋าผู้มุทะลุก็ชักดาบหมายจะเข้าไปฟันแขนของเถียนเต๋อซิว ทำเอาเถียนเต๋อซิวแตกตื่นตกใจจนปัสสาวะราด ตะโกนพร้อมกับน้ำหูน้ำตาไหลว่า “ท่านวีรบุรุษชายชาตรีโปรดไว้ชีวิตด้วย!”
เฉิงเต๋อฉิงเองก็ถูกเขาทำให้ขำขันเล็กน้อยขึ้นมาเช่นกัน นางรีบตะโกนห้ามเขาเอาไว้ แล้วพูดกับพี่ชายว่า “ท่านพ่อกังวลว่าข้าจะแต่งไม่ออกมิใช่หรือ มีคนที่ไม่ถือสาอยู่ที่นี่แล้ว หากเขายินดีรับข้าเป็นภรรยา ข้าก็ยินดีแต่ง ไม่ทราบว่าท่านพี่กับท่านแม่พอใจในการแต่งงานครั้งนี้หรือไม่”
ครั้นวาจานี้โพล่งออกไป คนที่อยู่เต็มห้องโถงก็รู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออกอยู่บ้าง เพราะนอกจากหลิ่วจือหว่านที่ล่วงรู้ถึงปฏิสัมพันธ์ระหว่างเฉิงเต๋อฉิงกับเจ้าหนุ่มหยวนกวงต๋าในยามปกติแล้ว คนอื่นๆ ล้วนไม่เคยสังเกตเห็นทั้งสิ้น
แต่หลังจากเฉิงเทียนฟู่หันกลับมามองทั้งสองอยู่หลายปราดก็ดูเหมือนจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง จึงเปิดปากเอ่ยว่า “หนนี้เสนาธิการหยวนสร้างคุณูปการในสนามรบแนวหน้ามากมายนับไม่ถ้วน อีกทั้งยังอายุใกล้เคียงกับเจ้า ถ้าพวกเจ้ามีใจจะแต่งงานเป็นสามีภรรยากัน คนเป็นพี่ชายอย่างข้าก็ไม่มีอันใดต้องขัดขวาง…”