เซิ่งกุ้ยเหนียงฟังจนตะลึงงันไปอยู่ข้างๆ มองดูหยวนกวงต๋าที่อยู่ตรงหน้าซึ่งตัวดำราวกับไข่มูลลาผู้นี้อย่างอึ้งงัน รู้สึกว่าชายฉกรรจ์หยาบกร้านเช่นนี้จะคู่ควรกับบุตรสาวได้อย่างไรกัน
เฉิงเผยเหนียนก็รู้สึกว่าการแต่งงานนี้ตกลงปลงใจกันอย่างกับเด็กเล่นขายของเกินไป จึงตบเข่าฉาดพลางเอ่ย “นี่มันใช้ได้ที่ใดกัน ใช้ได้ที่ใดกัน มีเด็กสาวบ้านใดบ้างไปถามผู้อื่นว่าจะรับหรือไม่รับตนเองเป็นภรรยา นี่มันใช้ไม่ได้เกินไปแล้ว!”
แต่เฉิงเต๋อฉิงกลับตัดสินใจเด็ดขาดแน่วแน่แล้ว เมื่อวานนางไปเยือนประตูผีมาแล้วรอบหนึ่ง จึงปลงอนิจจังกับหลายๆ เรื่องแล้ว
ตนเองโชคไม่ดี ต้องมามีบิดาและมารดาเลี้ยงที่เลวร้ายเช่นนี้
เดิมทีเพราะเรื่องที่บิดามารดาหย่าร้างกันทำให้นางหาบ้านสามียากอยู่แล้ว ทั้งตนเองยังมีสินเดิมก้อนใหญ่พานให้แม่เลี้ยงอิจฉาตาร้อน
หากสามีเป็นบัณฑิตอ่อนแอปวกเปียก ในวันข้างหน้าก็จะยังต้องถูกพวกเขารบเร้าราวีอย่างมิอาจเลี่ยง
นางมิสู้หาบุรุษที่เป็นวรยุทธ์อย่างพี่ชายสักคน ไม่ต้องเคารพกฎระเบียบ ขอแค่รู้จักรักใคร่เอ็นดูนางก็พอแล้ว
พอถึงตอนนั้นหากบิดากับท่านลุงใหญ่มาหาเรื่องอีก สามีของนางสามารถถือดาบไปมีเรื่องกับพวกเขาได้ ไม่ต้องสนใจหลักเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น เท่านี้ก็จะลดปัญหาวุ่นวายไปได้มาก
ครั้นประสบชะตากรรมในคราวนี้มา เฉิงเต๋อฉิงก็รู้สึกว่าชาติกำเนิดวงศ์ตระกูลไปจนถึงรูปโฉมล้วนมิได้สลักสำคัญทั้งสิ้น นางต้องการแค่สามีที่หน้าตาเหมือนกับจงขุย* มาช่วยข่มขวัญพวกภูตผีปีศาจที่ตามหลอกหลอนนางไม่ยอมปล่อยเหล่านั้นให้ล่าถอยไป
วันนี้ตอนที่พี่ชายมาหาตนเอง หยวนกวงต๋าผู้นั้นก็อยู่ด้วย พี่ชายยังไม่ทันได้เอ่ย หยวนกวงต๋าก็เอ่ยถามขึ้นก่อนด้วยดวงตาแดงก่ำว่าผู้ใดรังแกนาง เขาจะสังหารคนผู้นั้นล้างแค้นให้นาง
ด้วยถ้อยคำประโยคนี้ทำให้เฉิงเต๋อฉิงถูกใจเจ้าไข่มูลลาผู้นี้ขึ้นมาทันที ในขณะเดียวกันก็ตัดสินใจแล้วว่าหากเขาไม่ถือสา เช่นนั้น…ก็เป็นเขาแล้วกัน!
ขอแค่นางแต่งให้ผู้อื่นไปแล้ว ถึงจะสามารถหยุดความคิดของเถียนซื่อที่ต้องการจะวางแผนแย่งชิงสินเดิมของนางลงได้ และนับแต่นี้ไปเรื่องวุ่นวายจากการที่ถูกเถียนเต๋อซิวลวนลามก็จะได้สงบลง รักษาชื่อเสียงของพี่สาวน้องสาวคนอื่นๆ ในจวนเอาไว้ได้
ตอนนี้พอได้ยินบิดาซักไซ้เสียงดัง เฉิงเต๋อฉิงก็เอ่ยเสียงเยียบเย็นว่า “ท่านฟังคำยุยงส่งเสริมของสตรีแพศยานี่ ล่มการแต่งงานของข้ากับสกุลฉี แต่กลับยัดเยียดคนที่รู้จักแต่กินดื่มเที่ยวหาความสำราญผู้นี้ให้ข้า!
ท่านเหมือนบิดาที่ใดกัน นี่ท่านเจตนาจะทำให้ข้าขยะแขยงตายมากกว่ากระมัง วันนี้หากท่านยังไม่รับปาก ยังดึงดันจะล่มงานแต่งงานของข้าให้ได้ เช่นนั้นข้า…ข้าก็จะเอาเชือกมาแขวนคอตายหน้าประตูใหญ่ของสกุลเฉิงท่าน! ให้เรื่องที่ท่านขายบุตรสาวแลกเกียรติยศแพร่กระจายให้คนทั้งเมืองหลวงรู้กันจนทั่ว! จะได้สร้างชื่อเสียงให้ใต้เท้าเฉิงอย่างท่าน!”
พอพูดถึงช่วงท้ายนางก็เสียงแหบแห้งหมดเรี่ยวหมดแรง สั่นเทิ้มไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย ส่วนหยวนกวงต๋าก็เหมือนกับสุนัขที่ได้รับคำสั่งก็ไม่ปาน สายตาเผยแววดุร้าย ถลึงตาจ้องมองเฉิงเผยเหนียนอย่างพร้อมที่จะกระโจนเข้าใส่ ท่าทางเหมือนว่าหากเขาไม่ยอมรับปากก็จะฟาดค้อนจินกวาใส่ว่าที่พ่อตาให้ตาย
“จะ…เจ้ามันบุตรสาวอกตัญญู! เซิ่งกุ้ยเหนียง เจ้าดูซิว่าเจ้าสั่งสอนบุตรสาวจนกลายเป็นเช่นไร”