บทที่ 67
คิดมาถึงตรงนี้สุยอ๋องก็ก้าวยาวๆ ลงจากเรือ เดินไปถึงตรงหน้าหลิ่วเหมียนถังที่กำลังถูกฟางเซียช่วยประคองเดินช้าๆ แล้วยิ้มทักทาย “พวกเรามีวาสนากันน่าดู ได้มาเจอกันที่นี่ด้วย”
แต่หลิ่วเหมียนถังกลับเงยหน้ามองสำรวจบุรุษในชุดหรูหราตรงหน้าอย่างสงสัย เห็นว่าเขามีร่างกายกำยำสูงใหญ่ แม้หน้าตาจะไม่สำอาง ทว่ามีกลิ่นอายสูงศักดิ์ออกมา เอาเป็นว่าเป็นบุรุษที่บึกบึนผู้หนึ่ง
นางเหมือนจะไม่เคยเห็นเขามาก่อน ดังนั้นจึงขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม “ท่าน…เป็นใครกัน”
ไม่แปลกที่หลิ่วเหมียนถังจะจำไม่ได้ สมัยก่อนสุยอ๋องหลิวเพ่ยแต่งตัวแบบภิกษุไว้ผมยาว ทั้งยังเต็มไปด้วยหนวดเครา
แต่ตอนนี้เขากลับคืนสู่ทางโลกแล้ว เกล้าผมสวมกวนทอง มีเพียงหนวดบนริมฝีปาก ตัดแต่งสะอาดสะอ้าน เพียงมองก็มีบุคลิกเฉกเช่นท่านอ๋องสูงศักดิ์ จะให้คนจดจำได้ได้อย่างไร
สุยอ๋องเห็นนางจำตนเองไม่ได้ รอยยิ้มยิ่งล้ำลึกกว่าเดิม “ก่อนหน้านี้ข้าเคยซื้อเครื่องเคลือบดินเผาที่ร้านเจ้า เจ้ายังต้อนรับข้าด้วยตนเอง เหตุใดจึงลืมแล้วเล่า”
หลิ่วเหมียนถังได้ยิน ที่แท้ก็เป็นลูกค้าที่ร้านเครื่องเคลือบดินเผาที่ตำบลหลิงเฉวียน เพียงแต่ลูกค้าที่ดูสูงศักดิ์เพียงนี้นางจำไม่ได้เลยได้อย่างไร
ยามนั้นนางเพียงยิ้มน้อยๆ ตอบรับ ก่อนหันร่างกลับเตรียมไปขึ้นเรือ
แต่สุยอ๋องไม่ยอมให้นางไป ยังคงขวางนางไว้พร้อมเอ่ย “ข้ามาซีโจวเป็นครั้งแรก ไม่คุ้นกับสถานที่และผู้คน บังเอิญได้เจอเจ้าพอดี มิสู้ตามเจ้าไปเที่ยวทั่วซีโจวด้วยกัน”
หลิ่วเหมียนถังปรายตามองเขาอีกครั้ง รู้สึกว่าความหน้าด้านหน้าทนเช่นนี้เหมือนนางจะเคยรู้จักมาก่อน
ขณะนั้นเองหลี่มามาเอ่ยเตือนขึ้นมาจากด้านหลังหลิ่วเหมียนถังเงียบๆ “คุณหนู เขาคือสุยอ๋องเจ้าค่ะ…”
หลี่มามาย่อมเคยเห็นสุยอ๋องสมัยวัยหนุ่ม ตอนนั้นเขาก็ตัวสูงใหญ่แล้ว แค่ว่าไม่ได้ไว้หนวด ทว่าสุยอ๋องกลับจำไม่ได้ว่าหลี่มามาเป็นบ่าวรับใช้ของจวนไหวหยางอ๋อง
เห็นเพียงหลังบ่าวหญิงผู้นั้นกระซิบบางอย่าง แววตาของหลิ่วเหมียนถังก็เปลี่ยนเป็นเฉียบคม มองเขาอย่างลึกซึ้งอีกครั้งก่อนเอ่ย “ใต้เท้าขวางหญิงสาวกลางถนน ให้คอยช่วยนำทางตนเองเช่นนี้เสมอหรือ”
สุยอ๋องยิ้มน้อยๆ “แล้วแต่คน ไม่ใช่ว่าใครก็คู่ควรจะอยู่เคียงข้างข้า…”
“ท่านพ่อบุญธรรม พวกเขาบอกว่ารถม้าเพลาหักกลางทาง ต้องรอสักพักถึงส่งคันใหม่มาได้…” ซุนอวิ๋นเหนียงเพิ่งลงมาจากเรือ เมื่อครู่นี้ได้ยินองครักษ์บอกจึงรีบมาแจ้งกับสุยอ๋อง
สุยอ๋องแผ่นหลังกำยำล่ำสัน บดบังหลิ่วเหมียนถังที่อยู่ตรงหน้าเขาพอดี
จนกระทั่งซุนอวิ๋นเหนียงเดินเข้ามาใกล้ถึงได้เห็นหลิ่วเหมียนถังยืนอยู่ตรงนั้น
ซุนอวิ๋นเหนียงคาดไม่ถึงว่าจะได้มาเจอกับหลิ่วเหมียนถังที่นี่ นางพูดอะไรไม่ออกอีกเสมือนถูกคนบีบคอเข้า
ขณะที่หลิ่วเหมียนถังมองซุนอวิ๋นเหนียงอย่างลึกซึ้งไปหนหนึ่ง ท่านลุงใหญ่บอกว่านางเคยอยู่ที่ภูเขาหยั่งซานมานาน ส่วนซุนอวิ๋นเหนียงผู้นี้คล้ายจะเป็นคนที่ปลาบปลื้มคุณชายจื่ออวี๋เช่นกัน สุดท้ายดูเหมือนว่าจะอยู่กับเขาอย่างไม่มีความสุขเช่นกัน
มิหนำซ้ำ…นางคิดถึงช่วงเวลาที่ตำบลหลิงเฉวียน ซุนอวิ๋นเหนียงเคยจ้างคนอ้วนมาปลอมตัวเป็นชุยจิ่ว ไม่ใช่คนดีอะไรจริงๆ!
หลิ่วเหมียนถังคลำข้อมือตนเองอย่างอดไม่ได้ ตอนนั้นนางถูกคนตัดเส้นเอ็นมือเท้าแล้วโยนทิ้งลงแม่น้ำ จะเป็นฝีมือของซุนอวิ๋นเหนียงผู้นี้หรือไม่
ครั้งสุดท้ายที่ซุนอวิ๋นเหนียงเจอหลิ่วเหมียนถังก็คือที่ตำบลหลิงเฉวียน ซ้ำยังถูกนางตบตีจนหน้าบวม ตอนนี้พอได้เห็นนางถูมือลูบหมัดก็ตกใจจนกระถดถอยหลังทันที
สุยอ๋องเหลือบมองซุนอวิ๋นเหนียงไปทีหนึ่ง นางหลบไปอย่างรู้กาลเทศะ ไม่รบกวนการพูดคุยของบิดาบุญธรรมอีก
เขาถึงได้ยิ้มเอ่ยต่อ “ดูเหมือนเจ้าจะมีธุระ ไว้วันหน้าข้าจะไปหาเจ้าอีกที…” พูดจบไม่ได้ถามว่าหลิ่วเหมียนถังพักอยู่ที่ใดก็ยิ้มแย้มหันหลังกลับจากไปแล้ว
หลิ่วเหมียนถังรู้ว่าจากความสามารถของสุยอ๋อง การจะสืบข่าวหาว่าตนเองพักอยู่ที่ใดเป็นเรื่องง่ายดายมาก เพียงแต่นางคิดไม่ตกว่าเหตุใดเขาจึงมาอยู่ที่นี่ ทั้งไฉนถึงเอาแต่ตามวอแวนางไม่เลิกรา
สุยอ๋องไม่ได้มาที่นี่เพื่อหาหลิ่วเหมียนถังจริงๆ ครั้งนี้เขากำลังเดินทางกลับจากเมืองหลวง เดิมตั้งใจว่าจะมาหายอดฝีมือคนหนึ่งที่ซีโจว
คนผู้นี้สมัยก่อนเป็นทั่นฮวาในการสอบเตี้ยนซื่อ* ความรู้โดดเด่นกว่าผู้อื่น น่าเสียดายที่พัวพันกับคดีเล่นพรรคเล่นพวก ดังนั้นจึงถูกลดขั้นแล้วส่งไปอยู่นอกเมืองหลวง เขาเคยรับตำแหน่งว่างๆ ที่เจินโจวอยู่สักพัก เมื่อเร็วๆ นี้กลับมาทำงานอีกครั้ง ทว่าเป็นเพียงผู้ช่วยนายอำเภอตัวเล็กๆ ของซีโจว
ข้างกายสุยอ๋องมีพวกชอบประจบประแจงไม่น้อย แต่คนมีความรู้ความสามารถทำงานได้ดีกลับมีไม่มาก หลี่กวงไฉผู้นั้นมากความสามารถ แต่สมัยก่อนใกล้ชิดสนิทสนมกับชุยสิงโจว น่าเสียดายที่เขาฝากฝังตัวไว้กับเจ้านายผิดคน ทุกวันนี้ชุยสิงโจวกำลังมีอำนาจ แต่เขากลับถูกลดขั้นกลายมาเป็นผู้ช่วยนายอำเภอของซีโจว คิดว่าในใจจะต้องไม่สบอารมณ์อย่างแน่นอน