ฮองเฮาจัดงานเลี้ยงเชิญแขกสตรีมามากมาย จึงจัดงานขึ้นที่ตำหนักฉงฮว่าภายในวัง
เนื่องจากอวี้ฉือเฟยเยี่ยนเป็นตัวหลัก ตำแหน่งที่นั่งย่อมอยู่ใกล้ชิดกับฮองเฮามากที่สุด
อาจเพราะคุ้นชินกับความเย็นชาของฮองเฮาแล้ว อยู่ดีๆ ฮองเฮาเปลี่ยนมาเป็นมิตรด้วย ทำให้อวี้ฉือเฟยเยี่ยนรู้สึกกระวนกระวายอยู่เหมือนกัน โชคดีที่เสิ่นฮองเฮาผู้นั้นเองก็เป็นคนเฉยชาตั้งแต่เกิด ต่อให้อยากแสดงไมตรีก็ไม่มีทางกระตือรือร้นถึงขั้นทำให้คนรับมือไม่ถูก แค่เพียงพูดคุยกับอวี้ฉือเฟยเยี่ยนเยอะขึ้นบ้าง
คนเบื้องล่างต่างอ่านสีหน้าคนเป็น พอเห็นเสิ่นฮองเฮามีสีหน้าเป็นมิตรให้อวี้ฉือเฟยเยี่ยนก็กระจ่างแจ้งขึ้นโดยพลัน ยิ่งไม่กล้าดูถูกชายารองจวนเซียวอ๋องท่านนี้ด้วยฐานะอนุอีก
ตอนนั้นเองมีคนรายงานขึ้นข้างนอกตำหนักกะทันหันว่า “ฮุ่ยกุ้ยเฟยมาขอเข้าเฝ้าฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ!”
เสิ่นฮองเฮาได้ยินแล้วหัวคิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็น จากนั้นเอ่ยเสียงนุ่มนวล “เชิญฮุ่ยกุ้ยเฟยเข้ามา”
อวี้ฉือเฟยเยี่ยนเองก็เงยหน้ามองไปทางประตูตำหนัก ฮุ่ยกุ้ยเฟยผู้นี้แตกต่างจากสนมชายาคนโปรดจำนวนมากของฮ่องเต้ ถึงแม้ช่วงสองสามปีมานี้ฮั่วอวิ่นจะเริ่มยุ่งเกี่ยวกับสตรี แต่อย่างไรก็ยังคงไว้หน้าภรรยาที่ร่วมทุกข์มาด้วยกันอยู่บ้าง ตำแหน่งที่แต่งตั้งเป็นพวกขั้นเจาอี๋พวกนี้เท่านั้น ถ้าหากชาติกำเนิดดีมากก็จะมอบตำแหน่งเฟยให้ แต่ตำแหน่งกุ้ยเฟยที่เป็นรองเพียงตำแหน่งฮองเฮา ทั้งสามารถช่วยเหลือฮองเฮาดูแลหกตำหนักได้นี้สูงศักดิ์หาใดเปรียบจริงๆ และสตรีหนึ่งเดียวจากหกตำหนักที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟยผู้นี้มีนามว่าเซี่ยวยาง ไม่ใช่บุตรสาวจากตระกูลใหญ่โตอะไร เดิมทีบิดาเองก็เป็นแค่ผู้ช่วยนายอำเภอตัวเล็กๆ ของอำเภออู่หยางเท่านั้น
แต่สตรีผู้หนึ่งที่ไร้ชื่อเสียงเรียงนามเช่นนี้ในเวลาสามปีที่เข้าวังมากลับค่อยๆ ก้าวหน้าขึ้น ช่วงนี้เนื่องจากให้กำเนิดโอรสจึงถูกแต่งตั้งเป็นกุ้ยเฟย ช่างชวนให้คนพูดไม่ออกจริงๆ
ยามที่สตรีสวมชุดกระโปรงผ้าผืนบางลายดอกบัวสีชมพูคู่กลีบดอกเหมยสีม่วงเยื้องย่างเข้ามาข้างใน อวี้ฉือเฟยเยี่ยนเห็นดวงหน้ามีเสน่ห์ของฮุ่ยกุ้ยเฟยนั้นแล้วแอบสูดลมหายใจเย็นเข้าไป
รูปโฉมเช่นนี้…เป็นรูปโฉมสมัยมารดาบุญธรรมของเซียวอ๋องยังอ่อนเยาว์ชัดๆ! แต่ก่อนนางเห็นหน้าสนมชายาคนโปรดของฮ่องเต้เหล่านั้นก็รู้สึกว่าแต่ละคนดูคุ้นตา ทว่าไม่กล้าพูดจาเหลวไหล จวบจนวันนี้ได้เห็นเซี่ยวยางผู้นี้ นางพลันเกิดความรู้สึกว่าการคาดเดาในใจได้รับการพิสูจน์ขึ้นมา…
บุญคุณความแค้นเก่าก่อนระหว่างฮ่องเต้กับฮองเฮาถูกปูแผ่ให้เห็นต่อหน้าหมดจดโดยไม่ทันตั้งตัว เพียงคิดว่าในใจฮ่องเต้ปรารถนาภรรยารักของสหายสนิทซึ่งเป็นมารดาบุญธรรมของเซียวอ๋อง ในใจอวี้ฉือเฟยเยี่ยนรู้สึกเจ็บปวดหน่วงๆ แทนเซียวอ๋องที่ถูกหนีบไว้ตรงกลางด้วยซ้ำ เขาน่าจะอ่านความคิดของฮ่องเต้ออกเช่นกันใช่หรือไม่ ก็ไม่แปลกที่เสิ่นฮองเฮาจะไม่สนิทใจกับเซียวอ๋องมาตลอด นอกจากสาเหตุเรื่องคลอดยาก เกรงว่ามารดาบุญธรรมที่เลี้ยงดูเซียวอ๋องโตมาจะเป็นปมในใจที่ยากคลี่คลายของนางด้วยเช่นกัน…
เวลานั้นฮุ่ยกุ้ยเฟยคารวะให้เสิ่นฮองเฮาเสร็จแล้ว ในเมื่อไม่ว่าอย่างไรก็เป็นคนโปรดคนปัจจุบันของฮ่องเต้ ทั้งยังมีตำแหน่งเป็นกุ้ยเฟย การแสดงออกภายนอกยังคงต้องปรองดองผ่านไปให้ได้
เสิ่นฮองเฮาจึงยกที่นั่งด้านขวามือของตนเองให้กับฮุ่ยกุ้ยเฟย
หลังจากฮุ่ยกุ้ยเฟยผู้นั้นนั่งลงแล้วก็มองอวี้ฉือเฟยเยี่ยนที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือฮองเฮาปราดหนึ่ง ก่อนแย้มยิ้มเอ่ย “คิดว่าท่านนี้คงเป็นชายารองจวนเซียวอ๋องใช่หรือไม่ รูปโฉมช่างงามสง่านัก!”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 13 พ.ค. 68