ณัฐนนท์คิดไว้ตั้งแต่ตอนได้ทุนไปเรียนต่อว่าจะกลับมาส่งต่อความรู้ให้เด็กไทย ด้วยโพรไฟล์ของเขาทำให้มหาวิทยาลัยพร้อมรับเขาเข้าเป็นอาจารย์โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากนัก ติดที่ระบบและกฎเกณฑ์การเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยในปัจจุบันนั้นวุ่นวายน่ารำคาญมากสำหรับเขา หลังจากพยายามหาทางออกกับคณบดีอยู่พักหนึ่ง เขาก็ตกลงใจจะเป็นแค่อาจารย์พิเศษแทน
เมื่อไม่นานมานี้เพื่อนชาวจีนซึ่งเป็นหนึ่งในคณะวิจัยแคปซูลอินซูลินเพิ่งย้ายกลับมาจีน อีกฝ่ายมีไอเดียจะพัฒนาคอนแทกเลนส์อัจฉริยะและเห็นว่าเขาอยู่ไม่ไกลเลยชวนมาช่วยกันอีกครั้ง พอไทโรนได้ข่าวก็หอบผ้าหอบผ่อนตามมาทำงานวิจัยกับเขาที่เมืองไทยด้วยเสียอย่างนั้น ตอนนี้งานวิจัยคอนแทกเลนส์มีแล็บอยู่ในสองประเทศคือจีนกับไทย อาศัยเทคโนโลยีช่วยในการทำงานแม้จะอยู่กันคนละที่ อีกอย่างไทยกับจีนก็ไม่ได้ไกลกันมาก ถือว่าเดินทางไปมาหาสู่ไม่ลำบาก
ปัจจุบันณัฐนนท์ไปสอนที่มหาวิทยาลัยสัปดาห์ละสองวัน อาจจะมีงานพิเศษอื่นเช่นงานบรรยายบ้างแล้วแต่ใครติดต่อจ้าง ทว่ารายได้หลักที่ทำให้เขาสามารถซื้อบ้านและทำงานวิจัยที่สนใจได้แบบสบายๆ ก็มาจากสิทธิบัตรแคปซูลอินซูลินนั่นเอง เพราะนอกจากเงินก้อนแรกกับเงินเก็บจากการทำงานที่อเมริกาแล้ว บริษัทยายังต้องจ่ายค่าสิทธิบัตรให้ทุกคนในคณะวิจัยเมื่อมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ใดๆ ซึ่งปัจจุบันบริษัทก็เอาบางส่วนของงานวิจัยไปดัดแปลงใช้ผลิตผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ออกมาขาย ทุกวันนี้เขาเลยมีรายได้เข้ามาอย่างสม่ำเสมอไม่เดือดร้อน
“ณัฐ จะเอามะม่วงไปฝากคุณคนสวยด้วยไหม พรุ่งนี้นัดเจอกันนี่”
เสียงถามลอยมาขณะที่ณัฐนนท์กำลังล้างจานใบสุดท้าย และมันก็ทำให้เขาทั้งขำทั้งหมั่นไส้เพื่อน แต่ก็ด่ากลับไปเสียงเข้ม
“ไม่เอาโว้ย ไม่ต้องมาทำเป็นรู้ดี”
“เขาเรียกหวังดีโว้ย ไม่ใช่รู้ดี…จะได้สนิทกันเร็วๆ ไง”
“ก็เพราะแกออกนอกหน้าแถมรีบแบบนี้ไง ผู้หญิงถึงกลัวหนีไปหมด” หนุ่มไทยพาดพิงถึงเรื่องราวในอดีตซึ่งเพื่อนเคยคลั่งผู้หญิงคนหนึ่งมาก แต่ผลสุดท้ายกลับทำสาวเจ้ากลัวจนรีบปฏิเสธแล้วชิ่งไป
“ไอ้หอก!” ไทโรนหันมาด่ากลับ “เดี๋ยวฉันจะรอดูแก”
“รอดูอะไรฉันวะ ฉันไม่ได้จะจีบเขาเสียหน่อย ก็แค่ตีสนิทนิดๆ หน่อยๆ…ดูก็ไม่น่ายากเท่าไหร่”
“มั่นหน้าว่ะ” คำพูดสุดแสนจะมั่นใจของเพื่อนทำให้หนุ่มอเมริกันหมั่นไส้อย่างช่วยไม่ได้
ณัฐนนท์หันไปดึงผ้าขนหนูมาเช็ดมือ มุมปากยกเป็นรอยยิ้มเล็กๆ โดยไม่ได้พูดอะไรอีก
เมื่อสัปดาห์ก่อนเขายังไม่เคยได้ยินชื่อณัฐรัมภาด้วยซ้ำ และต่อให้เขากำลังมองหามัณฑนากรก็คงจะไม่ได้เฉียดใกล้ไปติดต่อเธอ แต่เพราะเกิดเรื่องกับงานวิจัยทางฝั่งแล็บจีน มีชื่อจตุภูมิผุดขึ้นมา อีกฝ่ายมีเพื่อนสนิทชื่อปรพล นั่นก็คือพี่ชายของหญิงสาว ต่อให้ทั้งสองไม่ได้เป็นพี่น้องแท้ๆ โดยสายเลือดก็ตาม ด้วยความที่ปรพลอยู่เมืองไทยเขากับไทโรนเลยคิดว่าควรจะลองตรวจสอบเบื้องต้นเองก่อน เพื่อไม่ให้กลายเป็นเรื่องเอิกเกริกเกินไป ซึ่งเมื่อพิจารณาจากอาชีพนักการตลาดของปรพลแล้วหนทางที่น่าจะง่ายที่สุดในการเข้าถึงตัวปรพลก็คือการเข้าไปผ่านทางสมาชิกครอบครัวคนอื่นๆ นั่นเอง
ตอนแรกพอตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นแล้วทราบว่าณัฐรัมภาเป็นมัณฑนากร เขาก็คิดว่าจะติดต่อจ้างเธอมาตกแต่งบ้าน แต่โชคก็เข้าข้างเพราะนักสืบเอกชนซึ่งเขาใช้บริการแจ้งว่าเธออยู่ในร้านอาหารกึ่งผับใกล้กับร้านที่พวกเขานั่งอยู่พอดี ณัฐนนท์กับไทโรนจึงย้ายร้านตามไปดูจนทำให้เกิดการสลับมือถือกันขึ้น ซึ่งจะโทษเขาก็คงไม่ได้ ในเมื่อเธอทำมือถือตก สร้างสถานการณ์เป็นใจให้เขาเอง
และถ้าหญิงสาวจะไม่พอใจที่เขาเข้าไปตีสนิทกับเธอด้วยจุดประสงค์แอบแฝง เธอก็คงต้องไปต่อว่าพี่ชายเอาเอง
(ติดตามตอนต่อไปวันที่ 14 ส.ค. 62)