“คนรู้จักเหรอลี”
พี่ปิ่นโผล่หน้าแมวแหลมออกจากเคาน์เตอร์อีกครั้งทันทีที่มาลารินกลับเข้ามาในครัว หล่อนสอดส่ายสายตาไปมาด้วยความใส่ใจเกินจำเป็นที่ไม่เคยปิดมิด ขณะเดียวกัน มาลารินกลับทำได้เพียงลอบถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย…ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่จำกัดความ ‘เจ้านายยอดแย่’ ได้ถูกมัดรวมอยู่ในตัวเจ้านายของเธอหมดแล้ว ตระหนี่ ขี้บ่น เอารัดเอาเปรียบ แล้วตอนนี้ก็ยังเร่าร้อนไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นจนแทบจะลุกโชนนี่อีก
“สงสัยลีจะจำผิดค่ะ” หญิงสาวเอ่ยปัดส่งๆ
“แหม พี่ก็ว่า ทางนั้นแบรนด์เนมกันตั้งแต่หัวจรดเท้าทั้งคู่ จะมารู้จักคนหาเงินตัวเป็นเกลียวแบบลีได้ยังไง”
‘คนหาเงินตัวเป็นเกลียว’ ก้มมองรองเท้าผ้าใบขะมุกขะมอมของตน เก็บปอยผมทัดหูลวกๆ แล้วยกน้ำออกไปเสิร์ฟโดยไม่ได้เอ่ยอะไรกลับ
…จริงอย่างที่พี่ปิ่นว่า ความจริงแล้วคนสวยโดดเด่นอย่างเกวราไม่มีความจำเป็นจะต้องมารู้จักนักศึกษาหาเงินจ่ายค่าเทอมอย่างเธอสักนิด แต่ก็นั่นปะไร ในเมื่อความบังเอิญในโลกนี้มันมีเป็นกระบุงโกย
บอกไปใครจะเชื่อว่าเมื่อสามเดือนที่แล้วหญิงสาวต้องเจอหน้าเกวราทุกวัน วันละนานๆ หลายชั่วโมงเสียด้วย
…มาลารินทำงานเป็นบาริสต้าให้คาเฟ่ใกล้มหาวิทยาลัยช่วงกลางวัน และจำต้องวนเวียนในร้านท่ามกลางละอองรักหวานฉ่ำระหว่างเกวราและพี่ประณตเจ้าของคาเฟ่ผู้มีอายุห่างกันหลายปี แต่แล้วจู่ๆ วันหนึ่งหล่อนก็เงียบหายไป ไม่ปรากฏตัว เหลือทิ้งไว้แต่ยิ้มหม่นเศร้าของชายหนุ่ม ซึ่งถูกขังค้างไว้ในบรรยากาศเดิมๆ ที่มีแต่ความทรงจำของทั้งคู่หลงเหลือ และก็เหมือนกับเหตุบังเอิญอีกร้อยพันที่คนเราต้องมี มาลารินไม่คาดคิดด้วยซ้ำว่าจะได้มาเจอหล่อนอีกครั้งที่นี่ คืนนี้ เฉิดฉายเปี่ยมมนตร์สะกดดังเดิม ข้างกายผู้ชายคนใหม่
กระนั้นก็เถอะ เกวราจะมีความรักสักกี่ครั้งมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ มาลารินสลัดภาพเงาเหงาๆ ที่ทอดผ่านม่านแดดของพี่ประณตออกจากหัว ระบายยิ้มเป็นมิตรอย่างเด็กเสิร์ฟมืออาชีพก่อนยกผัดไทยออกไปบริการทั้งสอง
“ทานให้อร่อยนะคะ”
ไม่มีคำตอบกลับและหญิงสาวก็ไม่คิดจะรอฟัง มาลารินผละจากทั้งคู่อย่างรวดเร็วพอๆ กับท่าทีของเกวราที่ปรารถนาจะรีบกินรีบออกจากร้านอาหารแห่งนี้ชัดเจน
แต่เหมือนว่าอะไรๆ จะไม่ได้ง่ายดังที่เธอตั้งใจไว้…ให้ถูกคือเป็นเค้าลางความวุ่นวายระลอกใหญ่ทีเดียว
แกร๊ง!
เสียงช้อนตกพื้นเรียกให้มาลารินหันกลับทันที ในเสี้ยวขณะที่เกวราคู้ตัวลงพลางหอบหายใจ หล่อนก็ช้อนดวงตารื้นฉ่ำไปยังคู่เดตอย่างพรึงเพริด
“วิน…เกลแพ้กุ้ง”
“อะไรนะ!”
เด็กหนุ่มรีบเข้าไปประคองร่างบางอย่างรวดเร็วพร้อมกับพี่ปิ่นที่ลุกลนออกมาดูเหตุการณ์ด้วยใบหน้าซีดเผือด ขณะที่มาลารินรวบรวมสติก่อนเข้าไปช่วยประคองเกวราทันที
“ออกไป!”
เจ้าของดวงตาสีเทาปัดมือหญิงสาวออกพลางเหลือบมองอย่างเย็นชา บริกรสาวแทบอ้าปากหวอ เธอเคยเจอแขกไร้มารยาทมามากมายแต่ไม่เคยมีใครแสดงกิริยาไม่ถนอมน้ำใจกันถึงเพียงนี้ ขณะที่เจ้าของร้านเองก็ร้อนรนไม่แพ้กัน
“ให้…ให้โทรเรียกรถพยาบาลมั้ยคะ”
“ไม่ต้อง!” เกวราแผดเสียงบ้าง