ริมฝีปากอิ่มยิ้มพราย ยักคิ้วให้เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ทันที
“พี่ภพเลี้ยงปะ”
“แกเคยเห็นฉันขี้งกกับน้องกับนุ่งรึไง”
อีกฝ่ายเท้าเอวด้วยท่าทางฉุนเฉียวทว่าไม่จริงจัง เรียกเสียงหัวเราะปลอดโปร่งจากคนฟังจนเจ้าของร้านต้องลอบหันมายิ้มตามเงียบๆ ขณะที่เธอพยักหน้าหงึกหงักรับคำคู่สนทนาโดยไม่ทันสังเกตเห็นแม้แต่น้อย
“งั้นไม่เมาไม่กลับเลยนะพี่”
บาร์ที่ภพเลือกอยู่ไม่ไกลจากเขตซีบีดีเท่าใดนัก เป็นตึกสีดำสามชั้นในย่านซึ่งคึกคักยามค่ำคืน แยกโซนดื่มกินกับคลับเต้นชัดเจนทั้งยังมีบริเวณดาดฟ้าให้สังสรรค์ อย่างที่แม้มาลารินจะไม่เคยมาที่นี่มาก่อนแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเคอะเขินอะไร หญิงสาวค้นพบว่าการมองผู้คนท่ามกลางม่านเงาสลัวรางสร้างความรู้สึกเพลิดเพลินประการหนึ่ง
เสียงหัวเราะผสมดนตรีพลุกพล่าน รอยน้ำตาของหัวใจเมามายบางดวงวาววับผ่านหน้าเธอไป และทำให้หญิงสาวพลันว่างโหวงอยู่ลึกๆ เมื่อตระหนักว่าร่างกายซึ่งเคลื่อนไหวตามจังหวะเพลงบรรเจิดของราตรีลวงเหล่านั้นดูดุจจะลบเลือนเรื่องราวแล้วไขว่คว้าเพียงมายาฝัน แม้รู้ดีว่าท้ายที่สุดทุกอย่างจะกลับสู่ความจริงเมื่อย่ำรุ่ง
อาจเพราะเหตุนี้กระมังจึงมีคำว่าดื่มเพื่อเมามาย บางทีเราก็ไม่ได้ต้องการอะไรนอกจากเมา เมาให้ลืม เมาให้เลือน…
สัมผัสเย็นจากขวดแก้วแตะแก้มเรียกดวงตาดำขลับของเธอกลับมาพร้อมสายลมเย็นที่พัดผ่านบาร์ดื่มบนดาดฟ้า บริเวณซึ่งคนไม่พลุกพล่านนี้ทำให้หญิงสาวมองเห็นรอยยิ้มของพี่ประณตสะท้อนแสงไฟสีส้มนวลชัดเจน อีกฝ่ายหัวเราะขบขันขึ้นเบาๆ ขณะยื่นเครื่องดื่มมาให้ แม้มาลารินจะยิ้มแหยพลางอ้อมแอ้มตอบ
“ลีคออ่อนน่ะค่ะ กินเหล้ากินเบียร์ไม่เก่ง”
“พี่รู้ เลยเอาแอปเปิ้ลไซเดอร์* มาให้” ชายหนุ่มบอกพร้อมหันด้านฉลากขวดเป็นการยืนยัน
คนคออ่อนรับขวดไซเดอร์มาจิบ กลืนฟองซ่ารสหวานปะแล่มปนเปรี้ยวเฝื่อนๆ นั่นลงคอ ซ้ำยังเผลอทำปากจุ๊บจั๊บ ก่อนพึมพำขอบคุณพี่ประณตซึ่งนั่งลงข้างกันตอนที่ลมประสมไออุ่นจากฮีตเตอร์เชยผ่าน เธอชอบอากาศเย็นแต่ไม่เป็นมิตรกับความเหน็บหนาว การนั่งใกล้เครื่องทำความร้อนจึงชวนให้วางใจกว่าออกไปเกาะขอบระเบียงรับลม
หญิงสาวเบนสายตาออกไปมองทิวทัศน์ดาดฟ้าตึกอีกครั้ง ระยับแสงจากดวงไฟของเขตเมืองทอดยาวไกลลิบจรดรอยมืดดำซึ่งค่อยๆ กลืนหายไปบริเวณระหว่างเงาภูเขาตะคุ่มสักแห่งที่เธอไม่รู้จักชื่อกับท้องฟ้าเบื้องบน
“พออากาศเริ่มหนาว วิวข้างบนนี้ดูแปลกตายังไงก็ไม่รู้”
เสียงทุ้มข้างกันเรียกความสนใจจากมาลารินอีกครั้ง เธอไม่แน่ใจว่าชายหนุ่มชวนคุยหรือแค่รำพึง หากก็อดเอ่ยถามไม่ได้
“พี่ณตเคยมาร้านนี้ด้วยเหรอคะ”
“อ๋อ…อื้อ เกลเคยพามาน่ะ”
ประณตตอบเรียบง่าย ขณะที่คนฟังกลับรู้สึกเหมือนเพิ่งเหยียบกับระเบิดในดินแดนต้องห้ามจนแทบอยากกัดลิ้นเสียให้ตายประเดี๋ยวนั้น เธอลอบมองดวงตาซึ่งทอดเงาสีหม่นนั่นโดยไม่ได้ตั้งใจ ลังเลกับการสรรหาคำปลอบอย่างไรให้ดูแนบเนียน โดยไม่รู้เลยว่าอีกฝ่ายกลับสังเกตเห็นอาการทั้งหมดเช่นกัน
ประณตระบายยิ้มจางพลางเอ่ยต่อ