มาลารินลอบมองพี่ประณตเป็นระยะขณะเดินกลับขึ้นไปนั่งรับลมบนชั้นดาดฟ้าตามเดิม เจ้านายของเธอยังคงมีรอยยิ้มอ่อนๆ ระบายอยู่บนใบหน้าตลอดเวลา แต่หากจะมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเปลี่ยนไปก็คงเป็นเงาหม่นจางๆ ซึ่งลอบปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา ทออ่อนระหว่างสับสนกับจนใจ และทำให้คนลอบมองต้องสะบัดร้อนสะบัดหนาวอยู่กับความกังวลอย่างไร้สุ้มเสียงและทำได้เพียงปล่อยให้ความเงียบไหลผ่าน เธออยากเอ่ยคำพูดเท่ๆ ปลอบโยนชายหนุ่ม อาจจะลอกมาจากหนังสักเรื่องหรือนิยายสักเล่ม เกือบจะเค้นสมองออกมาได้แล้วด้วยซ้ำ ก่อนจะต้องชะงักงันเมื่อจู่ๆ ร่างสูงของเด็กหนุ่มก็เดินตามเข้ามา โดยมีเกวราซึ่งแสดงออกชัดเจนว่าไม่เต็มใจอย่างยิ่งกำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามหลัง
“มาทำอะไรเนี่ย”
มาลารินอดถามด้วยความประหลาดใจกึ่งจะฉุนนิดๆ ไม่ได้ ทว่ากวินกลับไม่คิดตอบคำถามเธอ ร่างสูงพาตัวเองนั่งลงตรงข้ามกัน ปรายตาเพียงผาดๆ พร้อมแสยะยิ้มเยาะก่อนหันไปเอ่ยกับชายอีกคนแทน
“ไม่ยักรู้ว่าคุณอาก็มาเที่ยวที่แบบนี้ด้วย”
“คุณอาเหรอ…”
คราวนี้กลับเป็นเกวราที่เผลอทวนคำด้วยสีหน้าตื่นตะลึง ใบหน้าเนียนซีดลงอย่างรวดเร็ว หล่อนไม่ได้ถามหาคำอธิบายจากกวินด้วยซ้ำ ดวงตากลมโตเหลือบมองประณตเพียงครู่สั้นๆ แววปริวิตกกะเทาะผ่านปราการข้างในก่อนรีบเบนไปทางอื่นทันที กลับกลายเป็นเด็กหนุ่มต่างหากที่กล่าวต่ออย่างไม่สนใจใคร
“ผมลืมแนะนำเหรอ เกล นี่อาประณต คุณอาของผมเอง”
ไอ้เด็ก…
หญิงสาวสะเทือนเลือนลั่นอยู่ในใจคนเดียวท่ามกลางความพยายามกลบซ่อนท่าทีกระอักกระอ่วนของเกวรา รายนั้นหน้าซีดเผือดคล้ายจะล้มอยู่รอมร่อแล้ว
มาลารินยกขวดไซเดอร์ในมือขึ้นซดอึกๆ จนเกลี้ยง ปล่อยให้อวลฟองชุลมุนพลุ่งพล่านลงท้องด้วยหวังจะกลบเสียงหัวใจครึกโครม ครั้นชำเลืองไปเห็นว่าดวงตาสีเทาคู่นั้นกำลังจับจ้องตนอยู่ก็ได้ให้มุ่นคิ้วพร้อมจ้องกลับ หมายมาดตอบโต้แต่เพียงสงัดงัน สายตาแบบนั้นหมายความว่าอย่างไร จะขุ่นเคืองอะไรกันนักหนาในเมื่อคืนนี้เธอให้อิสระเขาเต็มที่แล้ว…
“วิน ดูวิวตรงนั้นสิคะ สวยมากเลย”
เกวราตัดสินใจทำลายบรรยากาศขมึงตึงด้วยการเปลี่ยนหัวข้อสนทนา หล่อนลากแขนร่างสูงไปยังขอบระเบียงก่อนชี้ชวนดูระยับไฟเบื้องล่าง กีดกันเด็กหนุ่มออกจากความเป็นไปได้อันจะลุกลามถึงอดีตอย่างสุดความสามารถ และทิ้งให้มาลารินกับประณตถูกปกคลุมด้วยความเงียบใบ้ดังเดิม
สายลมยามราตรีพลิ้วผ่านทั้งสองไปวูบสั้นๆ นำความเย็นเข้าชำแรกบรรยากาศหนักอึ้ง ก่อนที่ประณตจะค่อยๆ หันหน้ามาหาหญิงสาว ระบายลมหายใจอย่างคนที่ตกตะกอนความคิดกับจัดระเบียบอะไรต่อมิอะไรข้างในเสร็จสิ้นแล้ว
“ลีรู้อยู่แล้วเหรอว่าเกลกำลังคบกับวิน”
มันเป็นคำถามที่ไม่ได้คาดคั้นหรือเจือกระแสรวดร้าวประเภทใดเป็นพิเศษ หากกลับสร้างความรู้สึกอันยากจะตอบกลับหรือโกหกได้ คนถูกถามยิ้มแหย น้ำเสียงของพี่ประณตบอกว่าเขาไม่ได้ต้องการคำตอบจากเธอ ฟองพรายจากไซเดอร์ในท้องยังผุดพล่านจนโลกของหญิงสาวเริ่มวูบไหว กระนั้นมาลารินก็ยังลอบผินหน้าไปพินิจท่าทีฉอเลาะของเด็กสาวกับสายตาร้ายกาจสีเทาควันบุหรี่ที่เอาแต่จะฉายแววหยามเหยียดกับเกลียดชังโลกทั้งใบนั่น ก่อนจะได้ให้ขำพรืดออกมาเบาๆ ห้ามตัวเองไม่ได้ซ้ำยังไร้สาเหตุ หันมาอีกครั้งก็เห็นแต่รอยยิ้มอบอุ่นของเจ้านายแบบที่ทำให้เผลอยิ้มตาม
“ถ้าลีเป็นเกวรา ลีจะเลือกพี่ณตแทนเด็กบ้านั่น”
เสียงเอ่ยออกจะอ้อแอ้เล็กน้อยเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ มาลารินพยักหน้าหงึกหงักยืนยันคำพูดราวจะย้ำว่าเป็นความจริงทุกประการ
“ยังไงก็ต้องพี่ณตอยู่แล้ว…แต่เสียดายที่ลีไม่ใช่น้องเกล ลีไม่มีสิทธิ์เลือกแทนเค้า”
กล่าวจบก็เอนตัวไปตามทิศทางพระพายพัดผ่านราวจะไหลกลืนไปในระบายสายลม หญิงสาวหลับตา ปล่อยให้ปอยผมเคลียคลอปรางแก้ม ใต้เวิ้งฟ้ามืดสนิทกับแว่วเสียงบทเพลงของคนหลงทาง มาลารินไม่รู้ว่าถ้อยคำของตนจะกลายเป็นผลึกติดค้าง และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชั่วขณะนั้นประณตจะพึมพำตอบกลับมา…ด้วยถ้อยคำเบาหวิวซึ่งมีแต่เขาเท่านั้นที่ได้ยิน
“แสดงว่าถ้าเลือกได้…ลีจะเลือกพี่เหรอ”
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 19 พ.ย. 64 เวลา 12.00 น.