5
ปัจจุบัน
ประเทศไทย
ทันทีที่ประตูรั้วขนาดใหญ่เปิดอ้าจากระบบอัตโนมัติ รถยนต์คันหรูก็ทะยานเข้าสู่เขตบ้านตันติณรงค์ราวกับหอบพาด้วยแรงโทสะ ผ่านพื้นชื้นแฉะจากสายฝนไปจอดหน้าตัวตึก ก่อนที่ร่างสูงของกวิน ตันติณรงค์ ทายาทคนโตจะก้าวลงมาพร้อมประกายตาคมกริบแบบที่ไม่มีใครกล้าสบมองคู่นั้น มือหนาดึงเนกไทให้คลาย ค้างไว้แต่เพียงหลวมๆ และสิ่งเดียวที่เขาทำต่อจากนั้นก็คือการยืนนิ่ง ข่มกลืนลมหายใจหน่วงหนักอย่างเชื่องช้ากระทั่งดูสงบลง กับจดจ่อรอคอย ราวเสือในเร้นพรางของพุ่มหญ้า เขารู้วิธีการ สิบปีที่ผ่านมาไม่ได้ผ่านไปโดยเสียเปล่ากับการบ่มเพาะเด็กวู่วามคนหนึ่งให้กลายมาเป็นชายหนุ่มอย่างทุกวันนี้…
แล้วก็เป็นอย่างที่คาดไว้…ใช้เวลาไม่นานเลยตอนที่รถสปอร์ตสีขาวของกีรติขับตามเข้ามาเพียงเพื่อจะเห็นว่าคนเป็นพี่กำลังยืนรอตนอยู่ เด็กหนุ่มผู้มักจะมีท่าทีสดใสกับออกจะดูซื่อบริสุทธิ์เป็นประจำจับจ้องกวินด้วยสายตาแห่งคำถามโดยไม่ปิดบัง ในระลอกบางอย่างก็ยังกระเพื่อมไหวด้วยโทสะอันหาได้ยากยิ่งอีกด้วย
“แกรู้จักกับผู้หญิงคนนั้นนานแค่ไหนแล้ว”
ผู้มีลำดับศักดิ์อย่างคนเกิดก่อนเอ่ยพร้อมรอยยิ้มเหยียดเมื่อน้องชายเดินเข้ามาใกล้ ขณะที่กีรติกลับเปิดเผยความไร้เล่ห์เหลี่ยมออกมาอย่างง่ายดายด้วยการเริ่มขมวดคิ้วชัดเจน
“ผมสิต้องเป็นฝ่ายถามว่าพี่รู้จักคุณลีได้ยังไง”
“ฉันไม่จำเป็นต้องตอบแก”
คนถูกย้อนว่าพลางไหวไหล่อย่างไร้แยแส สร้างความขุ่นมัวให้ฝั่งน้องชายจนต้องตอบโต้แบบเดียวกันบ้าง
“งั้นผมก็ไม่จำเป็นต้องตอบพี่เหมือนกันครับ”
“…กับผู้หญิงที่แก่กว่าเป็นสิบปี แถมยังมีลูกติดเนี่ยนะ”
ร่างสูงสาวเท้าเข้าใกล้คู่สนทนาช้าๆ ขณะพินิจมองเข้าไปในประกายตากระจ่างใสอย่างที่ไม่เคยถูกทำร้ายให้แตกร้าวสักครั้งในชีวิตคู่นั้น ก่อนแค่นเสียงหัวเราะทั้งที่ไม่มีเรื่องใดให้ขำสักนิด
“แกไม่รู้อะไรเลยกีรติ…ไม่รู้อะไรแม้แต่อย่างเดียว”
ใช่…กีรติไม่รู้อะไรเลย เด็กคนนี้เกิดมาอย่างสมบูรณ์พร้อม ท่ามกลางความอบอุ่นซึ่งถูกจุนเจือไม่เคยขาดของทั้งพ่อ แม่ และย่า เขาคาดไม่ถึงหรอกว่าโลกใบนี้มันอุบาทว์บัดซบแค่ไหน และคงไม่คิดว่าใครต่อใครที่เดินพล่านไปมาแทบจะชนกันบนท้องถนนนั่นก็ด้วย…ปลิ้นปล้อนตลบตะแลง กับเอาแต่จะฉีกเฉือนกันและกันอย่างไร้ความปรานีเมื่อมีโอกาส กีรติไม่รู้อีกว่าฉากชีวิตงดงามที่เขาวางใจเหล่านั้นจะต้องพังครืนลงต่อหน้าต่อตาในสักวัน เพราะไม่มีอะไรเลยในโลกนี้ที่จะเป็นนิรันดร์…ทั้งผู้คน ความรัก หรือคำสัญญา…
“พี่วินหมายความว่าไง”
เด็กหนุ่มจ้องมองอีกฝ่ายพร้อมสีหน้ากังขา ขณะที่สายลมหอบหนึ่งพลันวูบผ่านสวนด้านหลังพัดเอาหยาดฝนคั่งค้างบนต้นไม้ใหญ่ให้พรูพร่างลงสู่พื้นเบื้องล่าง ทิ้งเอาไว้แต่ยอดใบเปียกปอนกับเสียงซ่าๆ ต่อกันเป็นทอดๆ
“มีเรื่องอะไรที่ผมไม่รู้…”
“ตาติ”
บทสนทนาชะงักลงเพียงเท่านั้น เมื่อบริเวณโถงในบ้านพลันปรากฏร่างอวบอิ่มของสตรีวัยกลางคนผู้หนึ่งกำลังก้าวเดินอย่างแช่มช้อยเข้ามาหาทั้งสอง ชะงักในท่าทีเล็กน้อยคล้ายสัมผัสถึงบรรยากาศหนักอึ้งบางอย่าง กระนั้นหล่อนก็พินิจกวินกับบุตรชายของตนต่ออีกชั่วขณะสั้นๆ ก่อนระบายยิ้มด้วยท่าทางใจดี