ทดลองอ่าน ดวงใจกลางสายลม – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

14 วัน 14 เรื่อง

ทดลองอ่าน ดวงใจกลางสายลม

คราวที่แล้วทำเขาเสียหน้ามาก เรื่องที่นายน้อยสำนักหลิ่วเยวี่ยกลัวหนูถูกแพร่ออกไปจนรู้กันทั่ว ไม่เพียงเท่านั้น เขายังตกเก้าอี้หัวกระแทกพื้นเสียอีก ตั้งแต่เล็กจนโตเขาไม่เคยขายหน้าเท่านี้มาก่อน ไม่ใช่แค่เขาที่เสียหน้า แม้แต่ท่านพ่อท่านแม่ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน โกรธไม่คุยกับเขาไปหลายวัน

เฮ้อ

โชคดีที่ตอนนั้นอู่เอ๋อร์กับลิ่วเอ๋อร์ไม่ได้ตามไปด้วย จึงไม่เห็นเขาเสียกิริยาเช่นนั้น แต่ถึงอย่างไรเรื่องก็ผ่านไปหลายปีแล้ว ความรู้สึกอับอายก็จางลง และแน่นอนว่าเขาเลิกกลัวหนูไปนานแล้ว

“บุตรสาวของนายท่านสกุลเฟิ่งอายุใกล้เคียงกับคุณหนูใหญ่ของเราไม่ใช่หรือ คราวนี้คุณหนูใหญ่จะได้มีเพื่อนแล้ว”

“ใช่ ดูท่าเทศกาลไหว้พระจันทร์ปีนี้บ้านเราคงคึกคักน่าดู”

หลิ่วมู่ชิงยิ้มน้อยๆ ฟังบ่าวสองคนคุยกัน เนื่องจากน้องสาวของเขาสุขภาพอ่อนแอและเป็นโรคหอบหืด จึงให้ท่านย่าช่วยดูแลอยู่ข้างกาย เติบโตมาที่เป่ยจิงตั้งแต่เล็ก จนกระทั่งเมื่อเดือนก่อนถึงย้ายกลับมาบ้าน บุตรสาวของท่านลุงเฟิ่งอายุใกล้เคียงกับน้องสาวเขา น่าจะเป็นเพื่อนเล่นกันได้ เป็นเช่นนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน

“พี่ใหญ่!” เสียงสดใสเสียงหนึ่งดังขึ้น

หลิ่วมู่ชิงชะงัก ที่แท้ลานฝึกวรยุทธ์ก็มีคนอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งก็คือน้องสาวของเขากับอาจารย์สอนวรยุทธ์หลายคนรวมถึงผู้ติดตามบางส่วน

หลิ่วอันเหอน้องสาวคนนี้อ่อนกว่าเขาสี่ปี เป็นพี่น้องเพียงคนเดียวของเขา อยู่ที่บ้านเก่าของท่านพ่อในเป่ยจิงตั้งแต่เด็ก ว่ากันว่าท่านพ่อของพวกเขาเคยเป็นเชื้อพระวงศ์ตำแหน่งสูงศักดิ์ แต่กลับละทิ้งยศเพื่อมาอยู่กับท่านแม่ ทว่าถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น ท่านพ่อกลับได้รับความเอาพระทัยใส่จากจักรพรรดิองค์ปัจจุบันเสมอมา ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่นใด แค่ตอนที่เขากับน้องสาวเกิดก็ได้รับของพระราชทานล้ำค่าไม่ด้อยกว่าลูกหลานเชื้อพระวงศ์แล้ว แม้กระทั่งชื่อของพวกเขาก็ล้วนเป็นฝ่าบาทพระราชทาน

มู่ชิงนามของเขานั้นมาจากบท ‘จี๋ฝู่สรรค์ทำนอง เสนาะพ้องดุจลมชาย’* ในคัมภีร์กาพย์กลอน ยกความหมายว่างดงามสอดคล้องกลมกลืน แฝงนัยแห่งสันติสุข ทั้งยังสามารถขยายความไปเป็น ‘มู่** ชิง’ ที่แปลว่าเคารพราชวงศ์ชิงได้อีกด้วย เพื่อให้เขาไม่ลืมว่าตัวเองเกิดในราชวงศ์ชิงเผ่าแมนจู ให้เขาเทิดทูนต้าชิงไว้ในใจเสมอ

ส่วนชื่อหลิ่วอันเหอของน้องสาวนั้นก็หมายถึงความสงบร่มเย็น บ่งบอกว่าเกิดในยุครุ่งเรืองที่มีสันติสุขนั่นเอง แน่นอนว่าชื่อของทั้งพี่ชายและน้องสาวแสดงนัยลึกซึ้งของการคาดหวังสันติสุขระหว่างสำนักหลิ่วเยวี่ยกับราชสำนัก เรื่องเหล่านี้เขาได้ยินมาจากท่านย่าและลุงป้าทั้งสิ้น ท่านพ่อของเขาไม่เคยพูดถึงเรื่องราชสำนักเลยสักครั้ง

“พี่ใหญ่ วันนี้ข้าตื่นเช้ากว่าท่านอีก เรามาประลองกันเถอะ!” หลิ่วอันเหอพูดพลางตั้งท่า

หลิ่วมู่ชิงมองดูน้องสาวตีลังกาพุ่งมาทางเขาด้วยความรู้สึกร่ำไห้ไม่ได้หัวเราะไม่ออก น้องสาวเขาอาจจะเคยอ่อนแอขี้โรคมาก่อน แต่ด้วยการดูแลเอาใจใส่ของท่านย่า ตอนนี้ไม่เพียงแต่ร่างกายจะแข็งแรงขึ้น สีหน้าเปล่งปลั่งตามลำดับ ยังได้ยินว่าเพื่อรักษาอาการหอบหืด ถึงกับต่อยมวยฝึกลมปราณทุกวันเลยทีเดียว เมื่อใส่ใจดูแลทั้งภายในและภายนอกควบคู่เป็นเวลาหลายปี ในที่สุดก็เลี้ยงดูจนนางแข็งแรง ‘กำยำ’

กำยำจริงๆ นะ! เขามองดูรูปร่างบึกบึนของน้องสาวก็ไม่แปลกใจที่ท่านแม่ตั้งข้อสงสัยบ่อยๆ ว่าน้องสาวถูกจับไปฝึกมวยปล้ำตอนอยู่ที่เป่ยจิงหรือไม่ ลับหลังท่านแม่พูดว่าอะไรนะ เหมือนจะพูดว่าไฉนเด็กผู้หญิงถึงได้ดูแข็งแกร่งทรงพลัง หลังพยัคฆ์เอวหมีอย่างนี้! แม้แต่ท่านพ่อก็ยังเคยหลุดปากพูดว่า ‘บำรุงมากเกินไปแล้ว’…

“อันเหอ เจ้าระวังหน่อย” เขาคว้าไหล่น้องสาวเอาไว้อย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้นางยืนมั่นคง ไม่ให้ล้มไปเพราะความตื่นเต้นเกินเหตุ

“ไม่ต้องห่วง แค่ลงมือก็พอ!” ใบหน้ากลมของหลิ่วอันเหอระบายยิ้มเต็มหน้า

“ข้าก็ลงมือแล้วนี่ไง” หลิ่วมู่ชิงยิ้มน้อยๆ มือขวาพลิกกลับไปแตะยอดศีรษะของนางอย่างว่องไว “มือแรกกันไหล่เจ้า ไม่ให้เจ้าโจมตี มือที่สองปัดหมัดเจ้าออกไป แย่งหัวเจ้ามาได้”

หลิ่วอันเหออึ้งไป แล้วแสดงสีหน้ารู้สึกตัวในฉับพลัน จับยอดศีรษะตัวเองร้องว่า “ไม่เอาๆ! เมื่อครู่ข้าไม่ได้ป้องกันตัวเลย พี่ใหญ่ขี้โกง เมื่อครู่ไม่นับ ข้าจะประลองใหม่!”

“ศัตรูไม่ให้เวลาเจ้าเตรียมตัวหรอกนะ” หลิ่วมู่ชิงอมยิ้ม พอเห็นน้องสาวร้องโวยวายก็ลูบศีรษะปลอบนาง “เอาล่ะๆ เรามาเริ่มใหม่ก็ได้”

ความเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดหลังจากหลิ่วอันเหอย้ายกลับมาบ้านก็คือบรรยากาศของสำนักหลิ่วเยวี่ยที่เคยเงียบสงัดจนแทบจะเยือกเย็นพลันถูกทำลายไปสิ้น ตอนนี้ที่ไหนที่มีคุณหนูหลิ่วอยู่ ที่นั่นก็ดูจะอบอุ่นคึกคักขึ้นมา นับเป็นความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงอย่างที่หลิ่วมู่ชิงไม่เคยสัมผัส อันที่จริงเขาเป็นคนนิสัยสุขุมเยือกเย็นเกินกว่าอายุ ค่อนข้างชอบบรรยากาศเงียบสงบมากกว่า จึงไม่ค่อยชินเท่าไรเมื่อจู่ๆ ในบ้านก็กลับคึกคัก ทว่าเขาก็ยังยินดีที่เห็นน้องสาวกลับมา ถึงอย่างไรนางก็เป็นน้องสาวเพียงคนเดียวของเขา ตั้งแต่เล็กได้อยู่ด้วยกันน้อยครั้ง ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็สมควรรักใคร่เอาใจใส่มากขึ้นด้วยซ้ำ

“ข้าจะลงมือแล้วนะ ระวังขาของเจ้าให้ดี” หลิ่วมู่ชิงเตือนล่วงหน้า จากนั้นก็กวาดเท้าไปทางน้องสาวอย่างว่องไว รอให้นางกระโดดหลบไปแล้วจึงค่อยลองออกหมัด “ข้าจะโจมตีแขนขวาของเจ้า ใต้รักแร้สองข้าง จากนั้นเป็นต้นขาขวา ดูให้ดีล่ะ!”

หลิ่วอันเหอลงมือป้องกันแต่ละหมัดๆ ตามคำเตือนของพี่ชาย ประมือกันไปเช่นนี้จนสิบกว่าเพลง นางทั้งตื่นเต้นทั้งภูมิใจในตัวเอง เต้นแร้งเต้นกาอย่างเบิกบาน ถึงแม้นางจะชอบท่านย่ามาก ท่านลุงกับท่านป้าก็เห็นนางเสมือนลูกแท้ๆ แต่นางก็ยังดีใจที่ได้กลับมาบ้านในที่สุด

ภายในลานกว้าง เห็นเพียงสองพี่น้องประลองยุทธ์กันไปมา เสียงประลองหมัดของคนสองคนก็ดังขึ้นเป็นระยะ เสริมด้วยเสียงพูดคุยสรวลเสเฮฮา…

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in 14 วัน 14 เรื่อง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com