ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 4

หน้าที่แล้ว1 of 8

บทที่ 4

ละครเล่นสมบทบาทจนหลับใหลไปหนนี้อวี๋ไฉ่หลิงถึงกับฝันไป ในฝันเธอเห็นพี่ชายข้างบ้านที่เป็นคนตำบลเดียวกัน เขาหล่อเหลาสูงโปร่งเหมือนต้นอู๋ถง*** ในลานบ้านของคุณย่าต้นนั้น เธอที่ตัวเล็กๆ ยืนอยู่ข้างกายเขาแล้วแหงนมองพร้อมความชมชอบล้นใจ

เธอมีความยึดมั่นถือมั่นเรื่องหนึ่งมาตั้งแต่เล็ก ทั้งที่ข้างบ้านก็เป็นการจับคู่ระหว่างหนุ่มพื้นถิ่นกับปัญญาชนสาวที่มาทำงานในชนบทเหมือนๆ กัน เพราะเหตุใดคนคู่นี้จึงเป็นสามีภรรยาที่รักใคร่กลมเกลียว ต่อให้หลังการปฏิรูปเปิดประเทศจีนแล้วร่ำรวยขึ้นมา วิธีโอ้อวดของสามีก็เป็นการอ่านหนังสือตามภรรยาให้มากๆ บริจาคห้องสมุดสาธารณะหรือมอบทุนการศึกษาให้โรงเรียนประถมในตำบล ไม่ใช่ไปอุดหนุนธุรกิจเริงรมย์เหมือนอย่างพ่ออวี๋ของเธอ

วัยเด็กอวี๋ไฉ่หลิงมักเกาะขอบกำแพงมองครอบครัวสามคนที่สุขสมบูรณ์นี้อย่างทั้งอิจฉาทั้งริษยา รอจนโตขึ้นหน่อย เธอก็เริ่มปลื้มลูกชายของพวกเขา แต่ผลที่รออยู่คือเขาพาแฟนสาวกลับมาบ้าน ชี้มือมาที่เธอแล้วแนะนำปนยิ้ม ‘นี่คือน้องสาวข้างบ้านของผม’ …

ฮือๆ อนาถยิ่งกว่าได้รับแจกบัตรคนดี ก็คือการถูกแจกบัตรพี่ชายหรือบัตรน้องสาวนี่เอง

จะว่าไปตอนที่อยู่ชมรมการแสดงในมหาวิทยาลัย ประธานปลาเค็ม* ก็แอบมีใจให้เธออยู่ ถ้าไม่ใช่เพราะตลอดมายังคงคิดถึงเขาคนนั้นในวัยเยาว์ อวี๋ไฉ่หลิงก็คงไม่ถึงกับตายไปโดยไม่เคยคบหาดูใจใครเลยสักครั้งหรอก ช่างขาดทุนย่อยยับแท้ๆ

ไม่รู้ว่าจมจ่อมกับอดีตอยู่นานเท่าใด อวี๋ไฉ่หลิงในห้วงกึ่งฝันกึ่งตื่นรู้สึกว่ามือเท้าอ่อนปวกเปียกจนไม่อาจขยับเขยื้อน เพียงรับรู้ได้ว่ามีคนประคองเธอลุกขึ้นนั่ง แล้วป้อนยารสเผ็ดเย็นเข้าปากมาทีละคำ เธอกลืนลงไปไม่กี่อึกก็รู้สึกว่าหัวสมองปลอดโปร่งขึ้นไม่น้อย จึงทดลองลืมตาดู ทว่าเปลือกตากลับเหมือนหีบที่ปิดสนิทใบหนึ่ง ขณะถูกใช้กำลังงัดแงะจนแย้มร่อง คล้ายสามารถได้ยินเสียงเสียดสีดังเอี๊ยดอ๊าดของสลักหีบ

“ฟื้นแล้ว ฟื้นแล้ว!”

อวี๋ไฉ่หลิงฟังออกว่านี่เป็นเสียงยินดีโล่งใจของเก่อซื่ออาสะใภ้คนดีนั่น

“หมอหลวงจากในวังยอดเยี่ยมจริงเสียด้วย กินยาลงไปไม่กี่เทียบก็เห็นผลแล้ว ยินดีด้วยท่านแม่ ยินดีด้วยพี่ใหญ่ ยินดีด้วยพี่สะใภ้…”

ไม่รอให้เก่อซื่อพูดแสดงไมตรีอันเร่าร้อนต่อไป เสียงพูดกระทบกระเทียบของหญิงชราผู้หนึ่งก็ดังมาให้ได้ยิน “อย่ามัวมีน้ำใจไปข้างเดียวเลย ผู้อื่นยังนึกว่าพวกเราทำอะไรบุตรสาวของพวกเขาด้วยซ้ำ สิบปีไม่มาเหลียวแล พวกเราสู้เช็ดก้นเปลี่ยนผ้าอ้อม ช่วยเลี้ยงดูให้จนโต ไม่มีความดีก็นับว่ามีความทุ่มเท เด็กน้อยคนใดบ้างไม่เจ็บป่วย แค่ไข้ขึ้นไม่กี่วันก็ต้องร้องไห้โวยวายจนอลหม่านไปทั่ว ไม่วางใจกันถึงขั้นนี้ มิสู้เลี้ยงเองสิ”

ไม่ง่ายเลยกว่าอวี๋ไฉ่หลิงจะลืมตาขึ้นจนได้ เห็นในห้องมีสตรีที่แต่งกายเช่นบ่าวรับใช้สิบกว่าคนนั่งคุกเข่าระเกะระกะ เมื่อมองไปตามเสียงที่ได้ยินเมื่อครู่ จึงเห็นหญิงชราร่างสูงใหญ่บึกบึนผู้หนึ่งถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มสาวใช้ นั่งเป็นสง่าอยู่บนเก้าอี้พับไม้จันทน์ที่เคลือบเงาจนมันปลาบ สวมชุดยาวคอตรงสีม่วงเข้ม เห็นเลาๆ ว่าบนนั้นปักลายไหมทองจำนวนมาก ช่วงเอวรัดหลวมๆ ด้วยสายคาดหยกที่กว้างราวสี่ห้านิ้วมือ หลังศีรษะมุ่นมวยกลมเพียงกลุ่มเดียวตรึงด้วยปิ่นยาวๆ พิจารณาในรายละเอียดพบว่าปิ่นยาวนั้นถึงกับเป็นทองคำตลอดอัน ซ้ำใหญ่หนาดุจไม้เขี่ยฟืน บนติ่งหูยังคล้องต่างหูทองคำแท้ขนาดมหึมาอีกหนึ่งวง แทบจะถ่วงใบหูจนยานลงมา ภายใต้แสงเทียนยามค่ำคืนยิ่งดูมลังเมลืองเป็นพิเศษ

อวี๋ไฉ่หลิงมองดูจนฉุนกึก คิดในใจว่า เจ้าเปิดร้านทองหรือไร เหตุใดไม่เสียบตะเกียบทองสองอันเข้ารูจมูกสองข้างเป็นแม่ช้างงาทองคำไปเสียเลย!

หญิงชราผู้นี้สีหน้าบึ้งบูด แววตามองเหยียดราวไม่พอใจตลอดเวลา ผู้ที่นั่งคุกเข่าอยู่ข้างกายมีเก่อซื่อ ตลอดจนกลุ่มสาวใช้ซึ่งบ้างยกถาดเคลือบเงาบ้างถือเตาอุ่นมือ แลดูยิ่งใหญ่เกรียงไกรยิ่ง มีเพียงเก่อซื่อที่สองมือว่างเปล่า มองมาทางอวี๋ไฉ่หลิงอย่างไม่สบายใจ

อวี๋ไฉ่หลิงเพิ่งค้นพบว่าข้างเตียงของตนมีบุรุษสตรีวัยกลางคนนั่งอยู่คู่หนึ่ง บุรุษสูงใหญ่กำยำ ใบหน้าไว้หนวดดกทำให้เห็นรูปโฉมไม่ชัดเจน บนร่างสวมชุดยาวผ้าฝ้ายสีแดง ด้านนอกทับเฉียงๆ ด้วยเสื้อคลุมสีม่วงเข้มเผยให้เห็นแขนขวา ข้อมือสองข้างล้วนสวมสนับเหล็กเขียนลายทองอ่อนๆ เป็นรูปแบบการแต่งกายของนักรบ

 

*** อู๋ถง หรือ Chinese parasol Tree  เป็นไม้ยืนต้น ใบหยักคล้ายรูปฝ่ามือ ดอกเป็นช่อสีขาวม่วง ไม้เนื้อเหนียวนิยมใช้ทำเครื่องดนตรี

* ปลาเค็ม ใช้เปรียบเปรยถึงคนที่ตายด้าน หรือคนที่อยู่เฉย ไม่ขวนขวาย ไม่มีความใฝ่ฝัน

หน้าที่แล้ว1 of 8

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 5-6

บทที่ 5 สังหารภูต   หลี่เจาเกอกลั้นหายใจเพ่งสมาธิ นิ้วมือวางบนด้ามกระบี่ ท่ามกลางหมู่ใบไม้แว่วเสียงความเคลื่อนไหวดังแซกซ...

คืนลมพัดต้องเหมยงาม

ทดลองอ่าน คืนลมพัดต้องเหมยงาม บทที่ 1-2

บทที่ 1 ลมตะวันตกพัดมา สุริยันจมลับประจิม แสงสายัณห์สาดส่องขอบฟ้า เสิ่นเฉียนเปลี่ยนม้าไปตัวหนึ่งแล้วในจุดพักม้า เช่นนี้จ...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 87-88

บทที่ 87 ข้อห้าม กู้หมิงเค่อถูกหลี่เจาเกอยั่วโมโหจากไปแล้ว นางอมยิ้มรับช่วงหลักฐาน เอ่ยกับผู้ใต้บัญชาที่ติดตามนางมา “จงข...

community.jamsai.com