ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 5 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 5

เดิมทีมุมมองความงามของคนยุคนี้ก็ชอบสตรีที่สูงแข็งแรงมากกว่า ไม่รู้วันหน้าบำรุงให้เต็มที่แล้วคุณหนูจะสูงขึ้นอวบอิ่มขึ้นกว่านี้ได้หรือไม่ วัยสาวฮูหยินผู้เฒ่าเซียวอ่อนแอก็จริงอยู่ ทว่ารูปร่างไม่มีอันใดด้อยเลย…ขณะที่ชิงชงกำลังคิด บังเอิญเบนสายตาไปเห็นเด็กสาวตัวน้อยกำลังมองพิจารณาเฉิงสื่อกับเซียวฮูหยินอย่างสนอกสนใจ ดวงตาคู่โตที่มีสีดำตัดขาวชัดเจนนั้นเปี่ยมพลังมีชีวิตชีวา เฉียบแหลมทว่าแก่นพยศประหนึ่งลูกสัตว์แรกเกิดในผืนป่า นี่ทำให้ชิงชงตะลึงค้างไปทันที

ขณะนี้อวี๋ไฉ่หลิงกำลังมองพิจารณาผู้อื่น หากมองในระดับสายตาจากตำแหน่งที่ตนนั่งคุกเข่าอยู่จะเป็นช่วงใต้หน้าอกของเซียวฮูหยินพอดิบพอดี เด็กสาวแอบยิ้มร่าอยู่ในใจ…ตามที่อาจู้เล่า หากนับรวมลูกที่เสียไปแต่เล็ก เซียวฮูหยินผู้นี้เคยให้กำเนิดบุตรมาเจ็ดแปดคนแล้ว ทว่ารูปร่างยังคงเผ็ดร้อนถึงเพียงนี้ หน้าหลังโค้งเว้าได้สัดส่วน ท่านพ่อเฉิงช่างมีวาสนาจริงเชียว

เซียวฮูหยินไม่รู้ว่าคนสนิทกับบุตรสาวต่างกำลังคิดเลอะเทอะอันใดบ้าง เพราะนางกำลังปั้นหน้าดุสามีอยู่ “ใต้เท้าอย่าได้ออกไปพูดจาส่งเดช คุยโวทั้งวี่วันว่าบุตรสาวโฉมงาม นั่นจะมีประโยชน์อันใด มีคุณธรรมความรู้มากหน่อยต่างหากจึงเป็นสิ่งสำคัญ” ผู้รู้จักสามีไม่มีใครเกินภรรยา นางมองทะลุในปราดเดียวว่าสามีคิดจะทำอันใด เฉิงสื่อจึงหน้าเจื่อนลงอย่างช่วยไม่ได้

เซียวฮูหยินเห็นท่าทางนี้ของเขา พาให้นึกถึงว่าตั้งแต่บุตรสาวถือกำเนิด สามีดีใจมากเพียงใด แต่ด้วยมารดากับภรรยายืนกราน ทำให้เขาจำต้องพรากจากบุตรสาวนานนับสิบปี ยามนี้กำลังปลื้มปริ่มจนไม่รู้จะว่าอย่างไรดีแล้ว เซียวฮูหยินจึงให้ใจอ่อน ถอนหายใจก่อนเอ่ยเสียงนุ่มนวล “ทุกคนล้วนมีดวงตา รอจนพวกลูกๆ กลับมาพร้อมขบวนรถของครอบครัวแม่ทัพวั่น พวกเราก็พาเหนียวเหนี่ยวไปชมสวนร่วมงานเลี้ยงที่ข้างนอกกัน ใครเล่ายังจะมองไม่เห็น ต่อให้พวกเราไม่พูด ผู้อื่นก็รู้ได้”

คนในครอบครัวกำลังสนทนาสัพเพเหระ ทว่ายังไม่ทันรอจนอวี๋ไฉ่หลิงมีโอกาสพูด กลับได้ยินเสียงร้องที่ทั้งแหลมทั้งห้าวของหญิงชราดังมาแต่ไกลก่อน เสียงช่วงต้นเจืออารมณ์ชอกช้ำตามด้วยโศกรันทดนิดๆ น้ำเสียงหลักคือเป็นเดือดเป็นแค้น โดยเฉพาะหางเสียง ‘อ๊าก…’ ในตอนท้ายสุดนั้นลากยาวต่อเนื่องถึงชั่วระยะเวลาหนึ่งโดยไม่ขาดห้วงเลย

อวี๋ไฉ่หลิงบังเกิดความเลื่อมใสอันแปลกพิสดารขึ้นในใจ นอกจากสามารถทอดเสียงร้องอันยาวนานก้องกังวานแล้ว ยังบรรจุอารมณ์ความรู้สึกเข้าไปได้ในเวลาเดียวกัน เสียงดีนี้ระดับเดียวกับนักแสดงงิ้ว จากนั้นเด็กสาวก็ฉุกคิดว่าต่อให้เสียงร้องก้องกังวานสักเพียงไหน หากสามารถถ่ายทอดมาแจ่มชัดถึงขั้นนี้ เห็นทีว่าจวนสกุลเฉิงคงจะไม่ใหญ่โต ที่แท้ท่านพ่อเฉิงผู้นี้การงานเป็นอย่างไรกันแน่นะ

คิดเรื่องเหลวไหลเหล่านี้จบ เห็นสีหน้าของชิงชงที่อยู่ด้านข้างไม่มีสั่นไหวสักนิดเดียว ส่วนเฉิงสื่อกับเซียวฮูหยินที่อยู่เบื้องบนก็สบตากันและกันอย่างรู้ใจ อวี๋ไฉ่หลิงจึงค่อยตระหนักได้ว่า…ละครเด็ดกำลังจะเปิดฉากแล้ว

ไม่ช้าเสียงร้องของฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงก็เปลี่ยนเป็นเสียงตะโกนเรียกหนแล้วหนเล่า “สื่อเอ๋อร์ลูกแม่!…ลูกแม่…” เสียงเคลื่อนที่จากระยะไกลเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว อวี๋ไฉ่หลิงยิ่งรู้สึกได้ว่าจวนหลังนี้ไม่ค่อยใหญ่โตนัก

สองสามีภรรยาส่งสายตาให้กันเสร็จ เฉิงสื่อก็กระแอมให้โล่งคอ ยืนขึ้นตั้งท่าจะไปต้อนรับฮูหยินผู้เฒ่าเฉิง ทว่าเซียวฮูหยินกลับช่วยสามีจัดเครื่องแต่งกายอย่างไม่รีบไม่ร้อน ทั้งไม่ลืมที่จะกำชับอวี๋ไฉ่หลิงหนึ่งประโยค “อย่ามัวนิ่งอยู่ รีบดื่มยาลงไปเสีย”

ขณะที่สองสามีภรรยากำลังจะออกไป กลับประเมินการเคลื่อนไหวของฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงต่ำไปเสียแล้ว ชิงชงที่เดินนำอยู่ข้างหน้ายังไม่ทันจะเลิกม่านประตูขึ้นก็ถูกพลังมหาศาลปะทะกลับมา เห็นฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงพุ่งชนเข้ามาราวหมูป่าที่ต้องเกาทัณฑ์ หวิดจะกระชากม่านประตูลงมาด้วย

ครานี้ด้านหลังของนางไม่ได้จัดขบวนหญิงรับใช้เป็นพรวนยาวเช่นเดิมแล้ว พามาเพียงเก่อซื่อกับสตรีอีกสองคนที่อวี๋ไฉ่หลิงไม่รู้จัก คนที่อยู่ข้างหน้าอายุรุ่นราวคราวเดียวกับฮูหยินผู้เฒ่าเฉิง ระดับความหยาบกร้านของรูปโฉมก็สูสีกัน ซ้ำน้ำมูกกับน้ำตายังคลุกเคล้าไปทั่ว ผิดกับอีกคนที่หน้าตาสะสวยหลักแหลม ดูอายุราวสามสิบกว่าปี เพียงแต่ทาแป้งหนาไปสักหน่อย กำลังร่ำไห้อยู่เช่นกัน

ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงมีสภาพทุลักทุเลยิ่งยวด ชุดงามวิจิตรถูกดึงสาบเสื้อจนหย่อนคลาย ปิ่นทองคำที่ใหญ่โตราวไม้เขี่ยฟืนก็ไม่ได้เสียบมา ต่างหูทองคำขนาดมหึมาปานวงล้อไฟของนาจาก็คงเหลือเพียงข้างเดียว น้ำตาผสมน้ำมูกเปรอะใบหน้า ขณะที่ปากยังขยับไม่หยุด “เจ้าต้องช่วยน้าชายของเจ้านะ…นี่ถึงชีวิตคนเชียวนะ!”

ทันทีที่เห็นเฉิงสื่อ นางก็โถมตรงไปคร่ำครวญราวว่าจะขาดใจ คนทั้งหมดได้แต่เบิกตามองกำปั้นสองข้างที่ใหญ่ดุจไหสุราทุบลงบนหน้าอกที่อิ่มหนาของนางเอง บังเกิดเสียงทุ้มหนักชวนพรั่นพรึง ขณะเดียวกันนางก็ไม่ลืมเจียดมือมาทุบบุตรชายเสียงทึบดังตุบๆ ต่อให้เฉิงสื่อรูปกายกำยำก็ยังถูกทุบจนซวนเซไปหลายก้าว

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 66-67

บทที่ 66 ผืนฟ้าเหนือฉางอันมืดลง ม่านราตรีคลี่คลุมอีกครั้ง เสียงย่ำกลองแจ้งเวลาวิกาลลอยมาจากหอกลอง หลังกำแพงสูงตระหง่านขอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 1-2

บทที่ 1 อาจเป็นเพราะสภาพอากาศขมุกขมัวหนาวเย็นยาวนานถึงครึ่งปี ทำให้เครื่องหอมเป็นที่โปรดปรานของชาวต้าเว่ย ได้เติมเครื่อง...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 62-63

บทที่ 62 เพียงตวัดตามอง สีหน้าของซู่เซิ่นฮุยก็เคร่งเครียดขึ้นทันที เขาหมุนตัวเดินกลับเข้ามาข้างในแล้วแกะตราครั่งภายใต้แส...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 64-65

บทที่ 64 จวงไท่เฟยหลบร้อนมาพักอยู่บนเขาเซิ่งซานทางตอนเหนือของเมือง วันนี้ซู่เซิ่นฮุยขี่ม้าออกจากที่พักตั้งแต่ฟ้ายังไม่สา...

community.jamsai.com