ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 6 – หน้า 6 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 1 บทที่ 6

6 of 6หน้าถัดไป

ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงร่ำไห้กล่าวต่อ “ก่อนสิ้นลมท่านตาของเจ้าฝากฝังให้แม่ดูแลทางบ้านให้มากๆ ทว่าแม่ดูแลบกพร่อง น้าชายคนอื่นๆ ของเจ้าที่ตายก็ตาย ที่พลัดพรากก็พลัดพราก เหลืออยู่แค่คนเดียวนี้ แม่รู้สึกผิดต่อบิดามารดาผู้ล่วงลับ จึงได้คิดจะช่วยเหลือสกุลต่งมากหน่อย ต่อไปหากเจ้าไม่ยินดี แม่จะไม่เรื่องมากอีกเด็ดขาดได้หรือไม่เล่า…”

ในใจเซียวฮูหยินทึ่งในตัวต่งหลี่ว์ซื่อ นี่เพิ่งจะครึ่งวันกว่าก็โน้มน้าวฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงจนเปลี่ยนจุดยืนโดยสิ้นเชิงแล้ว นางเหลือบมองสามีแวบหนึ่ง เฉิงสื่อก็เข้าใจความนัย “ท่านแม่ น้องสะใภ้แซ่หลี่ว์ยังว่าอย่างไรอีก”

ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงจดจำถ้อยคำของต่งหลี่ว์ซื่อได้ขึ้นใจ…แสดงความอ่อนแอ ต้องแสดงความอ่อนแอ ดังนั้นนางจึงตอบเสียงอ่อยๆ “นางบอกว่า…ขอเพียงเจ้าเลื่อนยศสร้างผลงาน สกุลต่งย่อมได้พึ่งพาบารมี ให้น้าต่งของเจ้าไปทำงานในกองทัพกลับจะเป็นตัวถ่วงขุดฐานกำแพง* ของเจ้า” เอ่ยมาถึงตรงนี้ น้ำเสียงของนางพลันเปลี่ยนวูบ เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันกล่าว “ที่แท้หลายปีที่ผ่านมา สกุลต่งเองก็ไม่ได้เก็บสะสมเงินทองไว้สักเท่าใด หากไม่ใช่ถูกน้องต่งของเจ้าเอาไปเที่ยวสตรีหาความสำราญ ก็ถูกน้าสะใภ้ของเจ้าที่ชั่วร้ายไร้หัวจิตหัวใจเอาไปเจือจานสกุลเดิม!”

ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงแม้ชอบจุนเจือสกุลเดิมของตน ทว่าจงเกลียดจงชังผู้อื่นที่กระทำเช่นนี้ เมื่อแรกเซียวฮูหยินจุนเจือสกุลเดิม นางก็ก่นด่าเรื่องนี้ตั้งหลายปี บัดนี้รู้ว่าเงินที่ตนเกื้อหนุนน้องชายจำนวนไม่น้อยถูกน้องสะใภ้ขนไปปรนเปรอสกุลเดิม ย่อมจะเดือดดาลสุดระงับ ในใจคิดว่าวันใดมีเวลาจะต้องบุกไปถึงบ้าน จิกกระชากเรือนผมน้องสะใภ้แล้วตบระบายแค้นให้เต็มที่สักยก

“ลูกแม่” ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงตีแขนเฉิงสื่อติดๆ กัน “เจ้าก็ช่วยน้าต่งของเจ้าสักครั้งเถิดนะ พวกเขามีที่นาแล้ว มีบ้านช่องแล้ว ย่อมจะไม่หิวโหยไม่เหน็บหนาว ต่อไปแม่จะไม่สร้างความยุ่งยากแก่เจ้าอีกเด็ดขาด!” นางหันไปหาเซียวฮูหยินก่อนเอ่ย “วันหน้าเรื่องในจวนล้วนให้เจ้าเป็นผู้ตัดสินใจ ข้าแก่แล้ว พักผ่อนเสพสุขเป็นพอ”

แววตาของเซียวฮูหยินประหนึ่งบึงน้ำลึก นิ่งสนิทไร้ระลอก เข้ามาในห้องเนิ่นนานป่านนี้ค่อยปริปากกล่าว “เห็นทีท่านแม่จะคิดได้กระจ่างแล้ว อันที่จริงใช่ว่าท่านน้าจะไร้ซึ่งหนทางช่วย…”

เดิมทีฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงกำลังปาดน้ำตาพลางแอบกลอกลูกตาอยู่ วาจานี้ของเซียวฮูหยินยังไม่ทันเอ่ยจบ ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงก็เต้นผางจนตัวลอยสูงสามจั้ง* ระเบิดเสียงโวยวาย “ดีนักนะ! น้องชายข้าถูกพวกเจ้าคนไร้หัวใจสองคนให้ร้ายเพื่อจะมาเล่นงานข้าจริงเสียด้วย ข้าเป็นแม่เจ้านะ! เป็นแม่เจ้า เจ้าถึงกับกล้าทำเยี่ยงนี้ ข้าจะ…ข้าจะ…”

“ท่านแม่จะทำอันใดข้า” เซียวฮูหยินตัดบทเสียงเย็น “ท่านแม่สามารถทำอันใดข้าได้หรือ”

ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงจนคำพูดไปชั่วขณะ เฉิงสื่อเองก็ยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ในห้องจึงเงียบกริบไปทั่วบริเวณ

เซียวฮูหยินลุกขึ้นช้าๆ ปิดม่านประตูให้มิดชิดขึ้น ก่อนหมุนตัวมากล่าว “ก็แค่หย่าข้าเท่านั้น คิดว่าท่านแม่น่าจะได้ยินเสียงเล่าลือมาบ้าง หลายปีมานี้หลังเสร็จศึกข้าที่อยู่ในเมืองก็พอจะมีผลงานอันน้อยนิดเช่นกัน ยังไม่เอ่ยถึงว่าท่านจะสามารถบังคับให้ใต้เท้าหย่าข้าได้หรือไม่ ต่อให้หย่าได้แล้วอย่างไร ข้าก็ยังคงมีชีวิตอยู่…”

นางคลี่ยิ้มน้อยๆ มุมปากประดับเส้นโค้งที่ให้อารมณ์เยาะหยันอันพิเศษชนิดหนึ่ง ก่อนเอ่ยเน้นทีละคำ “ข้ายังคงมีชีวิตอยู่ ผู้อื่นนั้นกลับไม่แน่แล้ว”

ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงแข็งค้างไม่ไหวติง ราวกับถูกสาดด้วยน้ำเย็นเฉียบหนึ่งอ่าง

เซียวฮูหยินนิ่งมองอีกฝ่ายชั่วครู่ค่อยเอ่ยต่อ “ต่งหลี่ว์ซื่อพูดไปตั้งมากมาย หรือว่าไม่ได้พูดถึงข้อนี้?”

ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงเนื้อตัวสั่นเทิ้มขึ้นทุกที บุตรชายเล่นงานนางด้วยเรื่องของน้องชาย ใช่ว่านางไม่เคยคิดจะเล่นงานบุตรชายด้วยเรื่องของลูกสะใภ้ ทว่าถ้อยคำของต่งหลี่ว์ซื่อยังคงชัดก้องอยู่ข้างหู…

‘ข้าอยู่ข้างนอกได้ยินว่าพี่สะใภ้เซียวอยู่แนวหน้าช่วยคนเจ็บ ปลอบขวัญชาวบ้านที่ประสบภัยสงคราม ผู้คนมากมายทั้งเบื้องบนเบื้องล่างต่างยกย่องชื่นชม แม้แต่ราชสำนักยังปูนบำเหน็จชมเชย ต่อให้ท่านฝืนบังคับให้ใต้เท้าหย่านาง นั่นแล้วอย่างไร จะทำให้นางหิวตาย แข็งตาย อับอายตายได้หรือ รังแต่จะทำให้ผู้อื่นหาว่าท่านใจดำเลอะเลือน ซ้ำไฟโทสะที่สุมเต็มท้องของใต้เท้ามิใช่ยังคงระเบิดมาบนศีรษะสกุลต่งอีก น้องชายกับหลานชายของท่านยังจะรอดชีวิตได้อย่างไร! รอจนท่านล่วงลับไป ใต้เท้าค่อยแต่งนางกลับมา นางก็เสพสุขมีลูกหลานเต็มเรือนเช่นเดิม ทว่าสกุลต่งเล่า…’

เพียงเห็นใบหน้าของเซียวฮูหยินนิ่งสนิทปานน้ำแข็งยะเยือก สุ้มเสียงของฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงก็ถูกสกัดอยู่ในลำคอ นิ้วมือสั่นระริก ได้แต่หันหน้าไปเอ่ยกับเฉิงสื่อ “ลูกแม่ เจ้าจะมองดูนางรังแกแม่เยี่ยงนี้น่ะหรือ”

เฉิงสื่อกล่าวเสียงหนัก “ข้ารู้ท่านแม่มักรู้สึกว่าข้าเข้าข้างหยวนอี ทว่าท่านแม่ตรองดูเอาเถิด พอข้าแต่งงานก็เป็นเช่นนี้เลยหรือไร สิบกว่าปีมานี้ทุกการกระทำของหยวนอีกับทุกการกระทำของท่านแม่ ข้าล้วนเห็นอยู่ในสายตาทั้งสิ้น” เขาหันไปพิศมองภรรยา ก่อนหันกลับมาเอ่ยกับฮูหยินผู้เฒ่าเฉิง “ประสงค์ของหยวนอี…ก็คือประสงค์ของข้า สกุลต่งไม่อาจปล่อยปละต่อไป ท่านแม่ ท่านเองก็ควรวางมือพักผ่อนได้แล้ว อันใดไม่ควรที่ท่านจะยุ่งเกี่ยว ต่อไปท่านก็อย่าได้ยุ่งเกี่ยวอีก”

ฮูหยินผู้เฒ่าเฉิงพลันทรุดนั่งลงกับพื้น ทั่วร่างไร้เรี่ยวแรง จะพูดก็พูดไม่ออก จะด่าก็ด่าไม่ออก

ในใจเฉิงสื่อบังเกิดความสงสาร ครั้นเงยหน้ามองเซียวฮูหยิน เห็นนางผงกศีรษะให้นิดๆ เขาจึงเอ่ยปาก “เจ้ากลับห้องไปก่อน ให้คนปิดประตูแน่นหนาหน่อย”

เซียวฮูหยินมองสามีพลางขานรับปนยิ้มน้อยๆ “เจ้าค่ะ”

 

 

* ขุดฐานกำแพง หมายถึงบ่อนทำลาย เฉกเช่นกำแพงที่ถูกขุดฐานด้านล่างจนเสียสมดุลพังครืนลงมาทั้งหมด ปัจจุบันยังหมายถึงการดึงเอาบุคลากรกับเทคโนโลยีของคู่แข่งไป ทำให้ตนเองได้รับประโยชน์สูงสุด และสร้างความเสียหายถึงฐานรากแก่คู่แข่ง

* จั้ง เป็นหน่วยมาตราวัดของจีน เทียบได้ระยะประมาณ 3.33 เมตร

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 15 .. 65  เวลา 12.00 .

6 of 6หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com