ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 2 บทที่ 34 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 2 บทที่ 34

เห็นชัดว่าวั่นซงไป่ได้ยินบทสนทนาก่อนหน้านี้ จึงหันไปกล่าวว่า “ท่านแม่ขอรับ ดวงตาชราภาพของท่านมองไม่ถนัด อันที่จริงชีชีแต่งตัวเช่นนี้น่ามองยิ่ง”

วั่นชีชีเงยหน้ามองบิดา นัยน์ตาท่วมท้นด้วยประกายวิบวับแห่งความยินดี

ฮูหยินผู้เฒ่าวั่นเอ่ย “แม่ชอบความสมถะ พ่อเจ้าชอบความเรียบง่าย ทว่าเจ้ากลับเป็นเยี่ยงนี้มาแต่เล็ก ไม่รู้เมื่อแรกหมอตำแยผู้นั้นอุ้มเจ้ามาผิดใช่หรือไม่ แต่ชีชีน่ะ…อุ้มมาไม่ผิดแน่”

วั่นฮูหยินกับเฉิงเซ่าซางต่างก้มหน้าลง พยายามสุดชีวิตที่จะไม่หลุดเสียงหัวเราะออกมา

วั่นซงไป่เม้มปากดังแจ๊บๆ ก่อนเอ่ยกับบุตรสาว “คือว่า…เซ่าซางยังท้องว่างอยู่เลย เจ้ารีบพานางไปกินอาหารสิ เอ่อ เจ้าแวะเปลี่ยนเสื้อผ้าด้วย อีกอย่าง…แค่กๆ ต่อไปเครื่องประดับก็ใส่น้อยชิ้นลงหน่อย”

วั่นชีชีขานรับคอตก ก่อนจูงเฉิงเซ่าซางที่ยังกลั้นหัวเราะอยู่กล่าวอำลาจากไป

วั่นซงไป่เห็นเด็กสาวสองคนออกไปแล้ว ค่อยหันมายิ้มกล่าว “ท่านแม่ วันนี้ลูก…”

“เรื่องสัพเพเหระไว้ค่อยมาว่ากัน วันนี้หลิงปู้อี๋มาเยือน ต้องมิใช่เพื่อมาดูสภาพเจ้าเมาสุรา กุนซือรอหารือกับเจ้าอยู่ที่โถงบัญชาการแล้ว จงรีบไปเถิด”

วั่นซงไป่แจ้งใจว่านี่เป็นเหตุผลอันถูกควร จึงจากไปอย่างอาลัยอาวรณ์

เห็นสามีกับบุตรสาวล้วนออกไปแล้ว วั่นฮูหยินก็โบกมือให้สาวใช้ผู้ติดตามถอยไป ตนเองลองสัมผัสชามยาก่อนถามเสียงเบา “ท่านแม่ ยาค่อนข้างเย็นแล้ว มิสู้อุ่นร้อนสักหน่อยค่อยดื่ม”

ฮูหยินผู้เฒ่าวั่นกลับบอกว่า “ไม่ต้องหรอก” จากนั้นรับชามไม้เคลือบเงาไปดื่มจนหมดในรวดเดียว วั่นฮูหยินรีบส่งน้ำสะอาดให้แม่สามีบ้วนปาก แล้วใช้ตะเกียบเงินส่งผลไม้แช่อิ่มให้หนึ่งชิ้น ทว่าถูกอีกฝ่ายส่ายหน้าปฏิเสธ

“หนนี้ดียิ่ง บรรดาเด็กสาวที่ชีชีคบหาก่อนหน้านี้ล้วนไม่ได้มาเมืองหลวง ยามนี้มีเซ่าซางเคียงข้าง นางคงไม่ร่ำร้องจะไปเที่ยวล่าสัตว์ทุกวันอีก ถึงอย่างไรก็เป็นสาวเป็นนาง อายุก็ไม่น้อยแล้ว ควรหัดเรียบร้อยเป็นกุลสตรีเสียที” วั่นฮูหยินก้มหน้าจัดวางจานชาม

“มีคำพูดก็เอ่ยมาตามตรงเถิด” ฮูหยินผู้เฒ่าวั่นกล่าว “อย่าลีลาอ้อมค้อม อีกอย่างฝีมือเลี้ยวอ้อมของเจ้าก็ไม่ได้สูงส่งนัก”

วั่นฮูหยินหน้าแดงระเรื่อ “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านไม่ได้เห็น พอพูดจาไม่ลงรอยนางก็ตรงเข้าต่อยตี นี่เป็นการกระทำของกุลสตรีตระกูลลือนามที่ใดกัน ข้ารู้ว่าคำพูดของสวี่เอ๋อไม่เหมาะสม แต่ต่อให้ได้รับความไม่เป็นธรรมก็มีวิธีอื่นสะสาง ไยต้องกระทำป่าเถื่อนสุดโต่งเยี่ยงนี้เล่า”

“เช่นนั้นเจ้าลองว่ามา ควรสะสางด้วยวิธีใดถึงจะระบายลมขุ่นที่คับอกนี้ได้ ทั้งไม่หมางใจกัน”

วั่นฮูหยินอึกอัก “ข้า…ข้าไหนเลยจะรู้ได้เจ้าคะ เพียงแต่ อาจจะ…แจ้งผู้ใหญ่ก่อน…”

“ต่อให้หยวนอีสองสามีภรรยารู้แล้ว เรื่องเล็กแค่นี้มีหรือจะป่าวร้องได้ อย่างมากก็ทำให้แม่นางอิ่นผู้นั้นถูกตำหนิเล็กน้อย จะระบายลมขุ่นที่คับอกได้อย่างไร”

วั่นฮูหยินผู้มีจิตใจอ่อนโยนเสมอมาเอ่ยอย่างกลัดกลุ้ม “เหตุใดต้องระบายด้วยเล่าเจ้าคะ อดกลั้นสักนิดก็สิ้นเรื่องแล้วมิใช่หรือไร”

“คนเรามีชีวิตอยู่ก็ด้วยลมหนึ่งเฮือก สิ้นลมไปก็คือสังขารที่ไร้ชีวิต”

วั่นฮูหยินก้มหน้าเงียบงัน

ฮูหยินผู้เฒ่าวั่นกล่าว “เดิมเจ้าอยากให้ชีชีเป็นสหายกับเฉิงยางมิใช่หรือ ตลอดหนึ่งวันนี้นางกับเฉิงยางกินดื่มร่วมโต๊ะ เดินเคียงร่วมทาง แต่กลับบ้านมาแล้วเจ้าได้ยินชีชีเอ่ยถึงอีกฝ่ายสักครึ่งประโยคหรือไม่ กลับห่วงหาเซ่าซางอยู่ทุกคำ คาดว่าคืนนี้พวกนางสองคนยังจะนอนเท้าชนกันอย่างสนิทสนมด้วย ข้าเองก็มองพลาดไป ที่แท้เด็กคนนั้นเมื่อก่อนตอนอยู่กับเก่อซื่อล้วนแสร้งเขลามาโดยตลอด”

วั่นฮูหยินถอนหายใจเบาๆ

“ไม่ทำจึงจะไม่ผิด ทำแล้วย่อมจะมีข้อผิดพลาด แม้วิถีแห่งทางสายกลางจะมีจุดที่น่าฝึกฝนเรียนรู้ ทว่าเดินสายกลางเกินไปหนึ่งก้าว ก็จะกลายเป็นคนขลาดที่เอาแต่รักษาตัวรอด” ฮูหยินผู้เฒ่าวั่นเอ่ย “หากแม่ทัพเฉิงก็หัดเดินสายกลางอันใดนั่น เจ้านึกว่าข้าจะให้ซงไป่สาบานเป็นพี่น้องกับเขาหรือ! ในกลียุคพี่น้องร่วมสาบานที่ไม่อาจยืดอกสกัดขวางดาบแจ้งธนูลับแทนเจ้าในห้วงคับขัน ยังจะเอามาทำอันใด”

วั่นฮูหยินเอ่ยอย่างหวาดหวั่น “ท่านแม่!”

“ชีชีเหมือนซงไป่ เซ่าซางก็เหมือนแม่ทัพเฉิง บิดากับบุตรสาวคู่นั้นล้วนเป็นคนใจคอกว้างขวางไม่ยึดติดเรื่องหยุมหยิม เมื่อครู่ที่เซ่าซางสวมเป็นชุดเก่าของชีชีกระมัง ความจริงสองปีก่อนชีชียังเหลือชุดใหม่ที่ไม่เคยใส่อีกตั้งมาก เพียงแต่รีบร้อนจะมาคารวะข้าจึงไม่ได้ไปรื้อหาที่คลังสิ่งของ ขณะที่ตนเองหยกอัญมณีเต็มร่าง ทั่วห้องวิจิตรหรูหรา แต่กลับให้แขกสวมชุดเก่า เซ่าซางมีสีหน้าไม่ดีให้เห็นสักนิดหรือไม่”

ฮูหยินผู้เฒ่าวั่นเบิกดวงตาซ้ายขึ้นช้าๆ ลูกนัยน์ตาฝ้าฟางแล้ว ทว่าประกายอันเฉียบคมยังคงอยู่ “ไม่มีเลย ข้าเห็นเด็กคนนั้นอากัปกิริยาเป็นปกติ แววตาสะอาดหมดจด ไม่ติดใจเรื่องพวกนี้โดยสิ้นเชิง ความสนิทชิดเชื้อกับความรู้สึกขอบคุณที่มีต่อชีชีล้วนออกมาตามธรรมชาติ”

วั่นฮูหยินไม่ได้สังเกตสิ่งเหล่านี้เลย ต่อเมื่อได้ยินแม่สามีเอ่ยถึงจึงค่อยพยายามหวนระลึกสิ่งที่ได้เห็นเมื่อครู่

“สิบกว่าปีก่อนพวกเราเมื่อแรกมาถึงเมืองหลวง ตอนที่ซื้อคฤหาสน์หลังเก่าได้ยกเรือนข้างให้สกุลเฉิงไป เดิมนี่เป็นเจตนาดี แต่หากอีกฝ่ายเป็นพวกใจแคบ คงไม่แคล้วคิดว่า ‘ข้ากับท่านคบหาเป็นพี่น้อง ท่านกลับมองข้าเสมือนบ่าวรับใช้ ให้ข้าอาศัยอยู่เยื้องหลังคฤหาสน์อันใหญ่โตของท่าน’ ทว่าแม่ทัพเฉิงไม่ได้ใส่ใจสักนิด ยังยินดีที่สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายหนึ่งก้อน และสามารถฝากให้บ้านเราช่วยดูแลครอบครัวเขาอยู่ด้านข้าง ข้าคิดตั้งแต่ตอนนั้นแล้วล่ะ ให้เขาเป็นเพื่อนซงไป่ไปออกรบ ข้าก็สามารถวางใจได้แล้ว”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com