ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 4 บทที่ 86 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 4 บทที่ 86

หน้าที่แล้ว1 of 5

บทที่ 86

ท่านพ่อเฉิงวุ่นกับงานมาหนึ่งฤดูคิมหันต์เต็มๆ ระหว่างนั้นได้กลับเข้าจวนแบบรีบเร่งหลายหน ทว่ารีบเสียจนไม่ทันได้เจอหน้าใครทั้งสิ้น ในที่สุดวันนี้เขาก็เสร็จสิ้นชีวิตการฝึกทหารกลางแจ้งประจำฤดูร้อนอันรันทดเสียที กรำแดดจนมีสภาพราวอาบแช่ในหมึกดำของปลาหมึกมาอย่างไรอย่างนั้น ครั้นเห็นเซียวฮูหยินกำลังทาขี้ผึ้งรักษาผิวไหม้แดดบนลำคอกับใบหน้าให้เฉิงสื่อ เฉิงเซ่าซางก็จงใจทำทีรังเกียจรังงอน “ท่านพ่อ สภาพท่านในตอนนี้ดูอายุห่างกับท่านแม่ยี่สิบปีเป็นอย่างน้อย หากคนแปลกหน้ามาเห็นเข้า ต้องนึกว่าพวกท่านเป็นคู่บิดากับบุตรสาว!”

“ไปเลยนะๆๆ! แม่เจ้าไม่ตื้นเขินถึงขั้นตัดสินคนที่หน้าตาหรอก! ชายชาตรีน่ะ อันดับแรกต้องดูที่อุปนิสัย ถัดไปดูที่ความสามารถ ถัดไปอีกดูที่น้ำใสใจจริง…เนอะหยวนอี ใช่หรือไม่”

ท่านพ่อเฉิงทอดมองไปทางภรรยาอย่างออดอ้อน เซียวฮูหยินมิได้ตอบคำ เพียงใช้แววตาดั่งระลอกน้ำไหวค้อนใส่สามีหนึ่งวงกึ่งแง่งอน เท่านี้กระดูกกระเดี้ยวของเฉิงสื่อก็พลันระทดระทวยไปกว่าครึ่งแล้ว

“คราวก่อนท่านพ่อพูดเองว่าเลือกสามีให้ข้าจะดูแต่หน้าอย่างเดียว ไฉนในกรณีสามีของข้า ท่านพ่อถึงไม่พิจารณาอุปนิสัยชายชาตรีอันใดนั่นแล้ว!” เฉิงเซ่าซางพลันตระหนักได้ถึงคำถามข้อนี้

“เหตุผลแรก…หลิงปู้อี๋ผู้นั้นไม่ใช่พ่อเป็นคนเลือกมาสักหน่อย หน้าตาพ่อยังไม่ใหญ่โตถึงขั้นนั้น เหตุผลที่สอง…แม่เจ้าเลือกพ่อ บ่งชัดว่านางไม่ตื้นเขิน ส่วนหลิงปู้อี๋เลือกเจ้า บ่งชัดว่าเขาตื้นเขินยิ่ง เกี่ยวอันใดกับพ่อเล่า” เอ่ยถึงเรื่องปะทะฝีปาก เฉิงสื่อในอดีตก็เป็นที่หนึ่งในตำบล ยากจะพบผู้ต่อกร

เฉิงเซ่าซางตรึกตรองความนัยอันลึกซึ้งในวาจานี้ชั่วครู่…นี่ไม่เท่ากับว่านอกจากหน้า ข้าก็ไม่มีดีอย่างอื่นแล้วสินะ! เฉิงเซ่าซางฉุนกึกจนดวงตาแดงฉาน จากไปอย่างหัวฟัดหัวเหวี่ยง

ท่านพ่อเฉิงจิ้มนิ้วชี้ไปทางเงาหลังของบุตรสาว ก่อนหันมาเอ่ยกับภรรยา “หนูน้อยทึ่มนี่ตาไม่ดีเลยสักนิด เจ้ากับข้าสองสามีภรรยาเพิ่งพบกันหลังแยกจากไปนาน มีถ้อยคำจะกล่าวต่อกันไม่รู้สิ้น พวกบุตรชายล้วนรู้จักหลบเลี่ยง มีก็แต่นางยังอุตส่าห์มายืนปักหลัก!”

เซียวฮูหยินอมยิ้มกล่าว “เป็นเพราะเหนียวเหนี่ยวคิดถึงท่านน่ะสิ จื่อเซิ่งกำนัลม้าดีให้นางสองตัว เป็นม้าดีร่างพ่วงพีที่วิ่งได้วันละพันหลี่อย่างแท้จริง พี่ชายคนใดนางล้วนไม่อนุญาตให้แตะต้อง จะเก็บไว้ให้ท่านทั้งสองตัว เฮ้อ อาซ่งมองตาเป็นมันวาวอย่างกับอะไรดี”

เฉิงสื่อลูบเคราสั้นอย่างกระหยิ่ม ในดวงตาเปี่ยมล้นด้วยความรักเอ็นดู “เหนียวเหนี่ยวดื้อรั้นแต่ปาก จิตใจยังคงดีงามยิ่ง รู้จักกตัญญูมีน้ำใจ เอาใจใส่บิดา หนนี้ข้านำของดีกลับมาให้นางหนึ่งหีบ จะเพิ่มเข้าไปในสินเจ้าสาวของนาง เอ่อ มีแบ่งให้ยางยางด้วยเล็กน้อย จริงสิ ยังมีขี้ผึ้งน้ำมันแกะจากซีอวี้อีกสองกระปุกเล็ก ทีแรกแม่ทัพใหญ่หานแบ่งให้ข้ากระปุกเดียว ข้าใช้ผ้าใยป่านสามสิบพับแลกมาเพิ่มอีกกระปุกให้หนูน้อยทึ่ม ฤดูสารทอากาศแห้ง ถึงเวลาพวกเจ้าสองแม่ลูกใช้ทามือทาหน้า ดีกว่าน้ำมันหอมในเมืองหลวงแน่นอน”

เซียวฮูหยินคลี่ยิ้มไม่เอ่ยคำ ในใจคิดว่าชาตินี้ความขุ่นแค้นที่สามีตนมีต่อเก่อซื่อคงจะไม่มีวันสลายแล้ว ทว่าย่อมไม่อาจให้ยางยางกับเหนียวเหนี่ยวสองพี่น้องได้รับการปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียม นี่เป็นข้อพึงระวังอันสำคัญต่อความเจริญของวงศ์ตระกูล เอาไว้ค่อยแบ่งจากส่วนของตนให้ยางยางไปจำนวนหนึ่งแล้วกัน

“ใต้เท้า! แย่แล้วเจ้าค่ะใต้เท้า!” ชิงชงฮูหยินวิ่งกระหืดกระหอบมาจากนอกประตู “คุณหนูเล็กจะกำนัลม้าดีสองตัวนั้นให้คุณชายใหญ่กับคุณชายรอง บอกว่าไม่มอบให้ท่านแล้ว!”

เฉิงสื่อตบโต๊ะอย่างโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “เด็กหญิงอกตัญญูนี่! หยวนอี ขี้ผึ้งน้ำมันแกะสองกระปุกนั้นล้วนมอบให้เจ้า เจ้าทาหนึ่งกระปุกโยนทิ้งหนึ่งกระปุกก็ได้ แสดงถึงความมั่งมีของพวกเรา!”

เซียวฮูหยินฟุบร่างกับโต๊ะในอาการไหล่สั่น กลั้นเสียงหัวเราะไว้โดยตลอด

 

ในเมื่อเฉิงสื่อกลับมาแล้ว งานฉลองหมั้นอันล่าช้าก็ได้เวลาที่จะจัดชดเชย เซียวฮูหยินรู้ถึงผลได้ผลเสียในเรื่องนี้ ย่อมไม่กล้าวางมือให้เฉิงยางดูแล นางไม่เพียงจัดซื้อสุราอาหารพืชผลด้วยตนเอง ยังยืมตัวคนครัวมาจากสกุลวั่นด้วย สำรับจึงจัดการออกมาได้อุดมสมบูรณ์ยิ่งยวด ไม่ผิดจากที่คาดไว้ ฮ่องเต้ราวกับส่งสุนัขลาดตระเวนตัวหนึ่งมาประจำอยู่หน้าประตูจวนสกุลเฉิงอย่างไรอย่างนั้น ครั้นได้ข่าวว่าสกุลเฉิงมิได้ละเลยบุตรบุญธรรมของพระองค์ ฮ่องเต้ก็ประทานสุราจินเซียงของวังหลวงมาให้ถึงสามสิบไห

ท่านพ่อเฉิงตากแดดจนดูเหมือนหัวหน้าเผ่ากินคนในทวีปแอฟริกาใช่ว่าไม่มีข้อดี เหตุใดจึงเป็นเผ่ากินคนน่ะหรือ ก็เพราะพอท่านพ่อเฉิงฉีกยิ้ม แนวฟันขาววาวดุจหิมะสองแถวนั้นชวนให้สะพรึงยิ่งยวด ส่วนข้อดีที่ว่าก็คือขณะเขาเผชิญหน้าบรรดาผู้บังคับบัญชาเก่า บริวารเก่า และสหายเก่า ต่อให้ท่านพ่อเฉิงกระอักกระอ่วนจนหน้าแดงก็มองไม่ออก สามารถพาเขยคนใหม่ไปแนะนำตัวกับญาติมิตรรอบหนึ่งได้อย่างราบรื่นไม่สะทกสะท้าน

หน้าที่แล้ว1 of 5

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com