ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 4 บทที่ 87 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

ทดลองอ่าน ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย เล่ม 4 บทที่ 87

ให้นางเดินดุ่มๆ ไปถามที่สกุลโหลวย่อมเป็นไปไม่ได้ คนสกุลโหลวได้ตกใจตายกันพอดี ซ้ำหลิงปู้อี๋ยังจะกินนางทั้งเป็นด้วย ทว่าจะไปถามมารดาตรงๆ ก็ขัดกับหลักความเป็นจริง หัวหน้าเซียวกลัวที่สุดว่าบุตรสาวกับโหลวเหยาจะตัดบัวเหลือใย แทบอยากปิดตายข่าวคราวของสกุลโหลวให้ได้ทุกช่องทาง ส่วนพี่ชายสามคนของตน มีถึงสองคนครึ่งจัดเป็นพวกไส้ศึกคาบข่าว หากอยู่ในโลกใบเก่า พอกระดิ่งจบคาบเรียนดังขึ้น นางให้พวกเขาไปสืบข้อมูล รับรองว่ากลับเข้าเรียนไม่ถึงสิบนาที หัวหน้าเซียวเป็นต้องพาครูประจำชั้นบุกมาถึงแน่…เช่นนั้นควรทำอย่างไรดีนะ

เมื่อถึงตอนนี้ชั่วขณะนี้ เฉิงเซ่าซางค่อยค้นพบว่าคนในมือที่ตนจะใช้สอยได้มีน้อยกว่าหยดน้ำหมึกแห่งความรู้ในท้องของตนเสียอีก

ความจริงตลอดมานางเป็นเด็กสาวที่มีใจแน่วแน่ต่องานการของตนอย่างยิ่ง เป็นอันธพาลหญิงก็เป็นอย่างรอบคอบแข็งขัน เรียนหนังสือก็เรียนอย่างอุตสาหะทุ่มเท ครั้นได้มาเกิดใหม่ในชนชั้นผู้ขูดรีด หายห่วงเรื่องความเป็นอยู่เช่นนี้ เดิมทีนางก็อยากกระทำสิ่งต่างๆ ให้เต็มที่สักตั้ง ไม่กล้าพูดว่ามั่งคั่งทัดเทียมแว่นแคว้นหนึ่ง แต่อย่างน้อยๆ ในขอบเขตความคุ้มครองของท่านพ่อเฉิง การสร้างตัวยืนบนลำแข้งตนเองย่อมจะไม่ใช่ปัญหา

ใครจะรู้มาถึงที่นี่ตั้งครึ่งปีกว่า แม้แต่สุสานบรรพชนสกุลเฉิงอยู่ที่ใดนางก็ยังไม่รู้กระจ่าง ซ้ำประสบดวงดอกท้อครั้งแล้วครั้งเล่า จวบจนบัดนี้นอกจากกำหนดแต่งงานหนึ่งราย คู่หมั้นสองคน รวมถึงเป็นข่าวกับชายหนุ่มสามหน นางถึงกับไม่มีงานการใดสำเร็จเลย!

คิดมาถึงตรงนี้ เฉิงเซ่าซางก็กลอกตาวูบ ความคิดหนึ่งพลันผุดขึ้นในใจ…เมื่อแรกคนปากดีนั่นบอกว่าติดค้างข้าหนึ่งหนไม่ใช่หรือ ตอนนี้ข้าติดตามหลิงปู้อี๋ ขึ้นสามารถเด็ดจันทร์บนยอดฟ้า ลงสามารถงมก้นสมุทรเปิดร้านหม้อไฟ* ความจริงไม่มีสิ่งใดให้เรียกใช้หยวนเซิ่นแล้ว คราวนี้ให้เจ้าคนนั้นตอบแทนตามคำสัญญาไปเสีย ไม่เหลือสิ่งติดค้างกัน ก็นับเป็นเรื่องมงคล จะได้อยู่เย็นเป็นสุข

เฉิงเซ่าซางเรียกเหลียนฝางมาทันที ยื่นหน้าไปข้างหูอีกฝ่ายแล้วกำชับเช่นนี้รอบหนึ่ง บัดนี้นางมิเพียงเอื้อมคว้าได้เขยเนื้อทอง ยังได้เข้าออกรั้ววังทุกวัน สถานะในบ้านจึงทวีคุณค่า มีบารมีเพิ่มพูนนานแล้ว บ่าวไพร่ไม่มีผู้ใดไม่เคารพนบนอบ บางคราวาจาของนางยังมีน้ำหนักกว่าเฉิงยางผู้คุมงานเรือนด้วยซ้ำ อีกอย่าง เดิมทีเหลียนฝางก็รับใช้คุณหนูของตนสุดจิตสุดใจอยู่แล้ว จึงขานรับโดยไม่มีอิดออด หันหน้าจากไปไม่มีรอช้า

หลังจัดการเรื่องนี้เสร็จ เฉิงเซ่าซางบิดขี้เกียจเต็มที่หนึ่งทีดุจตุ่นตัวกลมเตรียมตัวจะนอนกลางวันให้เต็มอิ่มหนึ่งงีบ ไม่คาดตอนนี้เซียวฮูหยินกลับส่งคนมาเรียกนางไปยังโถงเก้าอาชา ความว่าหลิงโหวฮูหยินมาเยือน

แขนของเฉิงเซ่าซางที่เพิ่งเหยียดออกไปได้ครึ่งทางชะงักค้างกลางอากาศ

อันที่จริงก่อนหน้านี้ฉุนอวี๋ซื่อฮูหยินของหลิงโหวเคยมาจวนสกุลเฉิงหลายหนแล้ว เพียงแต่เฉิงเซ่าซางกับท่านพ่อเฉิงไม่อยู่ ล้วนเป็นเซียวฮูหยินออกหน้าต้อนรับ ฝีมือของหัวหน้าเซียวเฉิงเซ่าซางย่อมรู้ดี ถนัดที่สุดเรื่องขุดหลุมพรางด้วยถ้อยคำอันเปี่ยมเหตุผลมีพลัง แม้ไม่อาจพูดให้ดอกไม้พลาสติกกลายเป็นเซียงสุ่ยไป่เหอ* แต่หลอกล่อว่าเป็นพลาสติกพีวีซีเกรดสูงนั้นไม่มีปัญหา เดี๋ยวนี้ภรรยาของคุณชายรองโหลวยังมองหัวหน้าเซียวเป็นครูผู้แนะแนวทางชีวิตไปแล้ว

หลังจากแต่งตัวให้เข้าที เฉิงเซ่าซางก็รุดไปถึงโถงเก้าอาชา แลเห็นฝั่งตรงข้ามของเซียวฮูหยินมีหญิงงามวัยกลางคนในอาภรณ์งามสง่านั่งตัวตรงอยู่ผู้หนึ่ง ด้านหลังของอีกฝ่ายยังมีสาวใช้หน้าแฉล้มวัยสิบห้าสิบหกปีสองนางนั่งคุกเข่าอยู่

ภายใต้การเอ่ยนำของเซียวฮูหยิน เฉิงเซ่าซางแสดงคารวะต่อฉุนอวี๋ซื่อด้วยพิธีการอันครบถ้วน ยามเงยศีรษะขึ้นอีกครา นางเผชิญหน้ากับฉุนอวี๋ซื่อตรงๆ พอดี พิจารณาดูรูปโฉมแล้ว รู้สึกว่าฉุนอวี๋ซื่อไม่ถึงขั้นพิลาสล้ำ แต่ก็มีความชดช้อยละมุนละไมอยู่ในตัว โดยเฉพาะยามที่หน้าผากงามได้รูปนั้นก้มต่ำเอ่ยเสียงนุ่มเบา ดูเหมือนยังอ่อนหวานบอบบางกว่าเฉิงเซ่าซางเสียอีก ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงหัวหน้าเซียวผู้องอาจ

เฉิงเซ่าซางอดไม่ได้ต้องแอบหัวเราะ ในชีวิตของเซียวฮูหยินชังน้ำหน้าสตรีที่มีรูปโฉมหวานใสแต่เปลือกเยี่ยงนี้เป็นที่สุด…มิผิด รวมถึงบุตรสาวของนางเองด้วย ช่วงที่ผ่านมาเซียวฮูหยินฝืนข่มตัวตนเพื่อรับมือฉุนอวี๋ซื่อ คาดว่าแอ่งรองรับภายในท้องคงจะใกล้ทะลักล้นออกมาอยู่แล้ว

“ก่อนหน้านี้เคยมาหลายครา ได้ยินมารดาเจ้าบอกว่าเจ้าอยู่ในวังทั้งวัน วันนี้ค่อยได้พบตัวจริงเสียที” ฉุนอวี๋ซื่อมีสุ้มเสียงอันทุ้มเบาไพเราะ พูดจาเฉยๆ ก็ยังคล้ายเสียงนกน้อยขับขาน “เจ้ามีรูปโฉมดีจริงเชียว ข้าเห็นแล้วยังนึกชอบ ไม่แปลกที่จื่อเซิ่งใจร้อนจะแต่งเจ้าเช่นนี้”

“ไม่นับว่าใจร้อนกระมัง ใต้เท้าหลิงอายุยี่สิบเอ็ดแล้วนะเจ้าคะ” เฉิงเซ่าซางหลุบขนตาลง ลูบแขนเสื้ออย่างไม่รีบไม่ร้อน “ได้ยินว่าปีนี้บุตรชายคนโตของฮูหยินเพิ่งอายุสิบห้า ยังเริ่มหารือเรื่องแต่งงานแล้วเลย”

รอยยิ้มน้อยๆ ของฉุนอวี๋ซื่อพลันแข็งค้าง คาดไม่ถึงว่าถ้อยคำทั่วไปประโยคเดียวนี้จะกวักเรียกคำตอบซึ่งไม่ต่างจากคมเข็มทิ่มแทง

เฉิงเซ่าซางเอียงหน้ามองไปทางมารดาบังเกิดเกล้า เซียวฮูหยินเองก็มองมาโดยไม่แสดงสีหน้า ชั่วสั้นๆ ที่สายตาสบประสาน สองคนก็รับรู้ความคิดในใจของกันและกันแล้ว แม่ลูกคู่นี้แม้มีความผูกพันธรรมดา ทว่าต่างประเมินคุณค่าสติปัญญาของกันและกันสูงยิ่ง

ก่อนหน้าจะรู้ว่าฮั่วจวินหวาฟั่นเฟือน เซียวฮูหยินยังรับหน้าฉุนอวี๋ซื่ออย่างไม่ร้อนไม่เย็นพอเป็นพิธี ยิ้มสนทนาประปรายเพื่อประคองบรรยากาศได้ ทว่าตอนนี้…รูปการณ์ไม่เหมือนเดิมแล้ว

“หึๆ ก็ใช่” ฉุนอวี๋ซื่อคืนสู่ท่าทีปกติอย่างรวดเร็ว จัดแต่งสาบเสื้อพลางก้มหน้าหัวเราะ “เซ่าซางจวินเป็นว่าที่ภรรยาของจื่อเซิ่ง ว่าที่ลูกสะใภ้ของพี่จวินหวา ย่อมจะมี…มุมมองบางอย่างต่อข้า แต่ว่านะเซ่าซางจวิน ถึงอย่างไรข้าก็อาวุโสกว่าเจ้ามาก มิสู้ฟังข้าสักประโยค อดีตล่วงผ่านไปแล้ว เรื่องที่ผ่านไปแล้วย่อมไม่อาจเปลี่ยนแก้กลับมาใหม่ พวกเราจะต้องมองไปข้างหน้า ดังคำว่าออกศึกพ่อลูกรบ ท่านโหวของข้ากับจื่อเซิ่งจะอย่างไรก็เป็นพ่อลูกแท้ๆ จะเอาแต่นิ่งเฉยเย็นชาดั่งน้ำแข็งเยี่ยงนี้ได้อย่างไรกัน ต่อให้เซ่าซางจวินไม่ยินดีจะแยแสข้า ก็มิอาจไม่ยอมรับท่านโหวของข้ากระมัง จื่อเซิ่งติดขัดที่พี่จวินหวา ทำให้ไม่สะดวกใจจะอ่อนข้อ ก็ต้องให้พวกเราเหล่าสตรีย่างก้าวนี้นำไปก่อนมิใช่หรอกหรือ…”

“หลิงโหวฮูหยิน” เฉิงเซ่าซางรำคาญจะฟังสตรีนางนี้พูดพร่ำ จึงคลี่ยิ้มเอ่ยตัดบท “ผู้เยาว์มีประโยคหนึ่ง ไม่รู้ควรถามหรือไม่”

“เซ่าซางจวินเชิญถามมาได้”

“หลิงโหวฮูหยินเป็นม่ายไปอาศัยอยู่ที่สกุลหลิงตั้งแต่เมื่อใด ก่อนที่ฮั่วฮูหยินจะแต่งเข้าไป หรือว่าหลังจากนั้น”

ฉุนอวี๋ซื่อสีหน้าชักไม่ชวนมอง เอ่ยตอบเสียงแผ่ว “ดวงข้าอาภัพ นับแต่อดีตสามีล่วงลับ ข้าก็ไม่มีที่ไป โดดเดี่ยวไร้ที่พึ่ง ได้แต่ขอพักพิงในบ้านน้าหญิง โชคดีที่พี่จวินหวาให้การดูแล” เท่ากับยอมรับว่าไปอยู่อาศัยหลังจากฮั่วจวินหวาแต่งเข้าไปแล้ว

เฉิงเซ่าซางไม่อำพรางนัยลุ่มลึกบนใบหน้าแม้แต่น้อย

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ดุจรักดั่งห้วงดาราพร่างพราย

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com