ท่าทางเช่นนี้อีกแล้ว เมื่อเห็นท่าทางที่เป็นเช่นนี้ เขามักจะหวั่นไหวอยู่ร่ำไป
แต่นี่มิใช่สิ่งที่ควรจะเป็น…
พอนึกถึงตรงนี้เขาก็หุบยิ้มลง สะบัดมือของบุรุษผู้นั้นออก บุรุษผู้นั้นร่างคว่ำลงกับพื้นราวกับโคลนเหลว
เยวี่ยซย่าหมั่งดึงผ้าเช็ดมือออกมาเช็ดถูมือด้วยความรังเกียจเดียดฉันท์ จากนั้นก็โยนผ้าเช็ดมือทิ้งส่งเดช ขณะที่กำลังจะก้าวเท้าเดินจากไป ซั่นซือฮุ่ยก็ปรี่เข้ามาตรงหน้าด้วยฝีเท้ารวดเร็ว “คุณชาย ขอบคุณท่าน ขอบคุณท่านมากจริงๆ”
“ไม่ต้อง ไม่ใช่ว่าข้าตั้งใจช่วยเจ้าเสียหน่อย ข้าแค่ไม่ชอบคนพรรค์นี้เท่านั้น” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉยชา
ซั่นซือฮุ่ยผงะอึ้งไปเล็กน้อย แต่แล้วก็ยิ้มพลางเอ่ยทันทีว่า “แต่ไม่ว่าอย่างไรสุดท้ายท่านก็ได้ช่วยข้าไว้ ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าจะตอบแทนท่านอย่างไรดี”
มาอยู่ที่โลกนี้นางเคยได้รับความช่วยเหลือและก็เคยถูกเมินเฉยเช่นกัน นางไม่ถือโทษที่ผู้อื่นนิ่งดูดายนาง เพราะอย่างไรเสียผู้อื่นก็ไม่ได้มีหน้าที่ต้องช่วยเหลือนาง ดังนั้นนางจึงนึกขอบคุณและเห็นคุณค่าของความช่วยเหลือที่ได้รับจากผู้อื่นมากเป็นพิเศษ เพียงแต่นางยากจนข้นแค้นจริงๆ ไม่มีสิ่งใดพอจะหยิบจับออกมาได้ ต่อให้อยากทดแทนบุญคุณก็ไร้กำลัง
“ไม่ต้องตอบแทนหรอก” แววตาของเขาเฉยชา เขายิ้มเย็นชาราวกับเกล็ดน้ำแข็ง ผลักไสไล่ส่งผู้คนให้ไกลห่างออกไปนับหมื่นหลี่*
“ต้องตอบแทนสิ” ซั่นซือฮุ่ยคิดไปคิดมา ครุ่นคิดอย่างจนปัญญาว่าตนเองมีความสามารถเพียงอย่างเดียวที่พอจะถือเป็นการทดแทนบุญคุณได้ “คุณชาย ข้าดูเรื่องเนื้อคู่ให้ท่านโดยไม่คิดเงินก็แล้วกัน”
ที่นี่ไม่มีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา หยุดอยู่ตรงนี้สักประเดี๋ยวคงจะไม่เป็นไร นอกจากนั้นก็ยังมีเขาอยู่ทั้งคน นางรู้ว่าเขาไม่ใช่คนชั่วช้าอย่างแน่นอน เพราะว่าคนชั่วช้าคงจะไม่ช่วยเหลือนางอย่างไร้เงื่อนไขใดๆ ถึงสองครั้งหรอก…ถูกหรือไม่
เยวี่ยซย่าหมั่งเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ “ดูเรื่องเนื้อคู่?”
“อืม แม่นมากนะเจ้าคะ ข้าช่วยดูให้ท่านดีหรือไม่” ถึงแม้นางจะไม่เคยดูเรื่องเนื้อคู่ให้บุรุษมาก่อน แต่นางคิดว่าโดยหลักพื้นฐานแล้วคงจะเหมือนๆ กัน การดูเรื่องเนื้อคู่ต่างหากถึงจะเป็นอาชีพหลักของนาง ขายซาลาเปาเป็นอาชีพรอง เพราะนางรู้ดีว่าซาลาเปาที่นางทำแค่พอกินได้เท่านั้น ขายไม่หมดก็เอามาเป็นอาหารสามมื้อของตนเองได้
เยวี่ยซย่าหมั่งแค่นเสียงดูถูกเบาๆ “ดูอย่างไร”
“ง่ายดายยิ่ง แค่ท่านแบมือ” นางได้ยินเขาแค่นเสียงดูถูกเบาๆ แต่ก็ไม่รู้สึกว่าถูกดูหมิ่นเลยสักนิด เพราะก่อนหน้านี้นางก็ได้ยินมาหลายครั้งแล้ว แต่ขอเพียงแค่นางดูดวงให้ หลังจากผ่านไประยะหนึ่งเสียงแค่นจมูกเบาๆ ก็จะกลายเป็นเสียงสูดลมหายใจ
เยวี่ยซย่าหมั่งไพล่มือไว้ด้านหลัง มุมปากยกเป็นรอยยิ้มเสียดสีหลายส่วน
ซั่นซือฮุ่ยเซื่องซึมเล็กน้อย เพราะว่าการที่เขาไม่ยอมให้ดูก็หมายความว่าเขาไม่เชื่อถือสักนิด “คุณชาย วันนี้ข้ามาที่นี่เพราะมีโอกาสได้พบเจอกับยอดบุปผาของที่นี่มาก่อน นางเคยเห็นข้าดูเรื่องเนื้อคู่ให้ผู้อื่น หลังจากคำทำนายกลายเป็นจริงถึงได้เชิญคนพาข้ามาดูเนื้อคู่ที่นี่ ข้าคำนวณเส้นเรื่องเนื้อคู่ให้นาง ไม่เกินสามเดือนนางจะได้ครองคู่กับชายในดวงใจอย่างแน่นอน”
“ยอดบุปผาของหอคณิกาอยากจะออกไปจากที่นี่มิใช่เรื่องง่าย”
“แต่นางทำได้ เนื้อคู่ของนางปรากฏขึ้นแล้ว ใครก็ห้ามไม่ได้”
“เจ้ามั่นใจถึงเพียงนี้เชียว”
“ข้าเอาชีวิตมาเดิมพันกับคุณชายก็ได้” นางพูดอย่างมั่นอกมั่นใจ หนักแน่นทรงพลัง
โม่เทากับตันเสิงสบตากันแวบหนึ่ง คิดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมายว่าแม่นางผู้นี้เดิมพันใหญ่หลวงยิ่งนัก
“แม่นางซั่น”
ทันใดนั้นก็มีคนร้องเรียกขึ้น ซั่นซือฮุ่ยหันหน้าไปก็เห็นว่าเป็นรั่วเฉินคณิกายอดบุปผาของที่นี่ จึงรีบร้อนเอ่ยถามว่า “แม่นางรั่วเฉินยังมีเรื่องใดอยากจะบอกข้าอีกหรือ”
“มิใช่ ชิวเยวี่ยบอกว่าท่านเจอปัญหาเข้า ข้าก็เลย…” แม้ในใจของรั่วเฉินจะร้อนรนกระวนกระวาย แต่บนใบหน้ายังคงไม่แสดงอาการใดๆ แม้แต่น้อย นางขยับฝีเท้านวยนาดมายังตรงหน้าซั่นซือฮุ่ย ยืนขวางตรงกลางระหว่างนางกับเยวี่ยซย่าหมั่ง “ไม่ทราบว่านายท่านผู้นี้เข้าใจผิดอันใดหรือไม่”