ทดลองอ่าน ตกรางวัลอย่างงามให้การแสดงของพระชายา บทที่ 5-6 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ตกรางวัลอย่างงามให้การแสดงของพระชายา

ทดลองอ่าน ตกรางวัลอย่างงามให้การแสดงของพระชายา บทที่ 5-6

4 of 4หน้าถัดไป

หลังจากฉินหลิงกลับมาถึงบ้านก็รีบส่งจดหมายถึงฉินสุยจือทันที

สถานการณ์เร่งด่วน ไม่ถึงสามวันฉินสุยจือก็เร่งรุดกลับมาถึงบ้าน

เวลานี้อยู่ห่างจากการคัดเลือกหญิงงามเพียงสิบวัน

ฉินสุยจือเห็นหลักฐานเหล่านี้แล้ว แววตาก็ล้ำลึกขึ้นทุกที “อาหลิง เรื่องนี้เจ้ามอบให้ข้าก็แล้วกัน”

ฉินหลิงนั่งอยู่บนม้านั่งกลม เอ่ยเสียงต่ำ “แต่ข้า…ยังปิดบังท่านอยู่เรื่องหนึ่ง”

“เรื่องอันใดหรือ”

ฉินหลิงเอาหีบที่ใส่จดหมายไว้เต็มวางลงตรงหน้าฉินสุยจือ

ฉินสุยจือสูดลมหายใจเข้าลึกๆ สองทีแล้วเอ่ยขึ้น “เหตุใดเจ้าจึงเลอะเลือนเช่นนี้! ถ้าเจียงหลันเยวี่ยนำจดหมายเหล่านี้เผยแพร่ต่อธารกำนัล เจ้าจะทำอย่างไร!”

ฉินหลิงไม่อยากโกหกฉินสุยจือ แต่เพื่อจะไม่ให้เขาพบสายสนกลใน นางจำต้องทางหนึ่งเช็ดหางตา ทางหนึ่งหลั่งน้ำตา

ฉินหลิงหลุบนัยน์ตา ในดวงตาเต็มไปด้วยความเสียใจ

ฉินสุยจือเห็นแล้วใจแทบแหลกสลาย

“อาหลิง อย่าร้องไห้…อย่าร้องไห้เลย ข้าไม่ควรว่าเจ้า” ฉินสุยจือยีเส้นผมของฉินหลิง ยอบตัวลงบอก “ข้ากลับมาแล้ว ไม่มีเรื่องอะไรหรอก”

ฉินหลิงพูดเบาๆ “เรื่องนี้…ต้องบอกท่านพ่อหรือไม่”

ฉินสุยจือแววตาเคร่งขรึม พูดเสียงเย็น “ต้องบอก แต่ไม่ใช่ตอนนี้”

เท่าที่ฉินสุยจือเห็น ความรู้สึกที่ฉินวั่งมีต่อเจียงหลันเยวี่ย บอกว่าความรักแข็งแกร่งกว่าโลหะก็ไม่เกินไป

หลายปีมานี้บ้านสกุลฉินมีเหตุขัดแย้งกันรุนแรงชนิดตาต่อตาฟันต่อฟัน ทุกครั้งฉินวั่งจะยืนหยัดอยู่ข้างเจียงหลันเยวี่ย เขาเชื่อมั่นว่าเจียงหลันเยวี่ยอ่อนโยนจิตใจดี ใจกว้างและมีคุณธรรม และเชื่ออย่างแน่วแน่ว่ามารดาของพวกตนอิจฉาผู้มีคุณธรรมริษยาผู้มีความสามารถ สนใจแต่ตนเองไม่คำนึงถึงผู้อื่น

ถ้าแม้แต่ความตายของมารดาของพวกตนยังไม่อาจทำให้ฉินวั่งเมินเฉยเจียงหลันเยวี่ยแม้แต่ครึ่งส่วน เช่นนั้นสิ่งที่อยู่ตรงหน้าเหล่านี้จะทำให้เขาเอือมระอาและทอดทิ้งเจียงหลันเยวี่ยได้จริงหรือ

ความผูกพันสิบกว่าปี หยาดน้ำตาของเจียงหลันเยวี่ย เพียงพอที่จะทำให้ฉินวั่งทำให้เรื่องใหญ่เป็นเรื่องเล็ก ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นไม่มีเรื่องได้

เว้นเสียแต่จะทำให้เรื่องใหญ่โตขึ้นมา

ฉินหลิงคิดไปคิดมาแล้วเอ่ยถาม “ท่านเตรียมจะจัดการเรื่องนี้อย่างไรหรือ”

ฉินสุยจือบอก “ขอให้ข้าคิดดูก่อน”

ถ้าไปหาจูเจ๋อโดยตรง ดีไม่ดีอาจมีปัญหาไปถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล ถ้าเรื่องใหญ่โตขึ้นมา ใครก็ไม่ได้ประโยชน์

ขณะกำลังครุ่นคิด ฉินหลิงก็โน้มตัวไปที่ข้างหูฉินสุยจือ พูดไปสองสามประโยค “ซื่อเยวี่ยบอกกับข้า…”

ฉินสุยจือมีท่าทีประหลาดใจแล้วพยักหน้า

 

ประตูตงจื๋อ บ่อนพนันสกุลหง

ฉินสุยจือส่งคนไปจับตาดูที่บ่อนทุกวันติดกันสามวัน ในที่สุดก็รอจนจูเจ๋อในชุดสีครามเดินเสื้อปลิวสะบัดเข้ามา

จูเจ๋อไม่ได้รับจดหมายตอบจากฉินหลิง เจียงหลันเยวี่ยก็ไม่ยอมเอาเงินให้เขา เขาก็ได้แต่ต้องมาที่บ่อนเสี่ยงดวงดู

เวลานี้ชำระหนี้ไปได้พอสมควรแล้ว จูเจ๋อก็ค่อยๆ สำรวมใจ เขาไม่กล้าพนันมาก เพียงถือเงินสิบตำลึงเดินดูไปทั่ว

ฉินหลิงสวมชุดคลุมยาวสีขาวนวล สวมหน้ากากสีเงิน นั่งอยู่ตรงมุมด้านตะวันออกเฉียงเหนือเล่นทายลูกเต๋ากับผู้อื่นอยู่ แต่ละตาเงินเดิมพันมากขึ้นทุกที คนรอบข้างที่มาล้อมวงชมเรื่องสนุกก็ยิ่งมากขึ้นทุกขณะ

“ไอ้หยา! น่าเสียดาย!”

“อีกนิดเดียวเท่านั้น!”

จูเจ๋อยื่นคอไปสังเกตการณ์ ครู่เดียวเขาก็ได้ข้อสรุป…คุณชายน้อยที่สวมหน้ากากท่านนี้ วันนี้ดวงตกอย่างที่สุด

เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูปคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามฉินหลิงลุกขึ้น กุมมือคารวะบอก “เพิ่งนึกได้ว่าวันนี้ยังมีธุระ ขัดอารมณ์สุนทรีย์ของคุณชายแล้ว ขออภัยด้วย วันหน้าเราค่อยนัดกันใหม่!”

จูเจ๋อหัวเราะออกมาคำหนึ่ง

ผีถึงจะเชื่อว่าเขายังมีธุระ กลับบ้านนับเงินมากกว่า เห็นชัดว่าตักตวงไปมากพอแล้ว

จูเจ๋อปัดๆ ตัวเสื้อด้านหน้า เดินเข้าไปยิ้มน้อยๆ “ให้ข้าเล่นกับคุณชายสักครู่ดีหรือไม่”

ฉินสุยจือหยักยกมุมปากเล็กน้อย ทำมือเชิญเขานั่ง

ตอนแรกจูเจ๋อยังยึดมั่นในหลักการ ‘เดิมพันเล็กน้อยเล่นสนุกๆ’ แต่หลังจากชนะติดกันหลายตาเข้าก็เริ่มติดใจอย่างเห็นได้ชัด

สีหน้าท่าทางของเขาดูปล่อยตัวมากขึ้น ตัวเสื้อด้านหน้าเปิดอ้าเล็กน้อย เส้นผมยุ่งเหยิง มุมปากแทบจะฉีกไปถึงหู

ฉินหลิงดื่มน้ำชาคำหนึ่ง กดเสียงต่ำพูดกับจูเจ๋อ “เล่นอย่างนี้น่าเบื่อ คุณชายท่านนี้ ไม่สู้เราเล่นใหญ่หน่อยเป็นอย่างไร”

จูเจ๋อมีความคิดเช่นนี้อยู่แล้ว เพียงแต่เขาชนะมาตลอด ดังนั้นจึงไม่สะดวกจะเอ่ยปาก

จูเจ๋อมือถือพัดพับ โบกไปมา แสร้งทำท่าทำทางบอก “ก็ดี”

ฉินหลิงหยิบตั๋วแลกเงินออกมาสองใบ รวมสองหมื่นตำลึง เท่ากับจำนวนหนี้ที่จูเจ๋อติดค้างอยู่พอดี

“สามตา หรือตาเดียว”

จูเจ๋อมองตั๋วแลกเงิน ใจเต้นตึกๆ

โอกาสที่จะลืมตาอ้าปากก็อยู่ตรงหน้านี้แล้ว

ขอเพียงเขาชนะครั้งเดียวก็จะลืมตาอ้าปากได้แล้ว

เขาไม่เพียงสามารถลืมตาอ้าปาก ยังสามารถเอาจดหมายของคุณหนูใหญ่สกุลฉินไปเจรจาต่อรองราคาที่ดีกับอี๋เหนียงบ้านสกุลฉินได้

คิดมาถึงตรงนี้จูเจ๋อก็พูดเสียงดัง “ตาเดียว!”

เด็กหนุ่มในบ่อนพนันสกุลหงชูมือขึ้นเริ่มเขย่า เสียงดังแกรกๆ ทำให้ปลายนิ้วของจูเจ๋อพลอยสั่นตามไปด้วย

เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้น “สองท่าน สูงหรือต่ำ”

ฉินหลิงพูดเสียงเบาหวิวเหมือนเมื่อครู่ “สูง”

จูเจ๋อพูดในใจ ท่าน สูง แพ้มาทั้งวัน ถึงกับยังกล้าเลือก สูง

จูเจ๋อบอก “ข้าเลือกต่ำ”

ครู่เดียวเด็กหนุ่มก็ยกมือขึ้น

…เป็นสูง

จูเจ๋อตบโต๊ะลุกพรวด “จะเป็นไปได้อย่างไร!”

ฉินสุยจือเดินเข้ามา แววตาเฉียบขาด พูดเบาๆ “คุณชายจู หยิบเงินเถิด”

จูเจ๋อไหนเลยจะมีเงิน บอกด้วยสีหน้าแดงก่ำ “พวกท่านจะต้องวางแผนเล่นงานข้าเป็นแน่!”

จูเจ๋อกำลังจะหมุนตัว ฉินสุยจือก็กดเขาลงบนโต๊ะ

ฉินสุยจือบุกใต้ตะลุยเหนือ ฝึกฝนทักษะยุทธ์ไว้ทั้งตัว ไม่ใช่เด็กหนุ่มที่ทั่วร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายของปัญญาชนนานแล้ว

จูเจ๋อแพ้พนันต่อหน้าผู้คน ตามกฎเกณฑ์ของยุทธภพ หลังจากควบคุมตัวได้แล้ว ฉินสุยจือจะทำอะไร บ่อนจะไม่ขัดขวาง ทางการก็ไม่ยุ่งเกี่ยว

เขาลากตัวจูเจ๋อเข้าไปที่หมู่บ้านนอกเมือง

ฉินสุยจือกลัวฉินหลิงจะใจอ่อน ไม่กล้าจัดการจูเจ๋อต่อหน้านาง เพียงบอกให้นางรออยู่นอกหมู่บ้าน

ระหว่างทางกลับบ้าน ฉินสุยจือถามฉินหลิง “อาหลิง ความสามารถในการฟังลูกเต๋าเปลี่ยนลูกเต๋า ก็เป็นแม่นางซื่อสอนเจ้าหรือ”

ฉินหลิงส่งเสียง “อืม” ต่ำๆ คำหนึ่ง

ครู่หนึ่งนางก็คลายมือที่กำอยู่ออก มองลูกเต๋าในฝ่ามือใจลอยเล็กน้อย

ทักษะการพนันของนางหาใช่ซื่อเยวี่ยเป็นผู้สอน

หากแต่เป็นคนผู้นั้นสอนด้วยตัวเอง

ปลายปีที่สามสิบหกของรัชศกหย่งชาง ฮ่องเต้จยาเซวียนมอบหมายให้เซียวอวี้ไปทำคดีในท้องที่

นางเองก็ไปด้วย

จำได้ว่าริมแม่น้ำฉินไหวในคืนนั้นแสงไฟสว่างไสว ไอหมอกหนาทึบ

บนเรือที่ประดับประดาอย่างสวยหรูสั่นไหวโคลงเคลง เซียวอวี้กุมลูกเต๋าสองลูกขยับเข้ามาใกล้นาง ใกล้จนปลายจมูกแตะปลายจมูก

‘อาหลิง พนันกับข้าสักครั้ง’

เขายิ้ม นางพยักหน้ารับคำ

นางในตอนนั้นช่างโง่เขลา ยังไม่รู้ว่าแพ้ชนะล้วนอยู่ในมือของเขา

คิดมาถึงตรงนี้ฉินหลิงก็ยกมือขึ้นโยนลูกเต๋าออกไปนอกรถม้า

คิดถึงเขาไปไย

ว่างมากไม่มีอะไรทำหรือ

 

บ้านสกุลฉิน เรือนอุดร

หมัวมัวกล่าวเสียงต่ำ “ฮูหยิน ดูเหมือนจูเจ๋ออยู่ข้างนอกจะแพ้พนันอีกแล้ว เขาบอกอยากพบท่านสักครั้ง”

เจียงหลันเยวี่ยย่นหัวคิ้วแล้วเอ่ยถาม “เขาแพ้พนัน จะพบข้าทำอะไร”

“เขาขอให้ท่านเอาเงินสิบหมื่นตำลึงไปที่หมู่บ้านนอกเมือง หาไม่จะเผาจดหมายเหล่านั้นทิ้งทั้งหมด”

เจียงหลันเยวี่ยเอ่ยว่า “เงินสิบหมื่นตำลึง เขาช่างละโมบยิ่งนัก!”

หมัวมัวก็พูดด้วยความโมโหตามไปด้วย “บ่าวว่าเจ้าหนุ่มสกุลจูผู้นี้เป็นสุนัขจนตรอกกระโดดกำแพงเห็นชัดว่าต้องการจะข่มขู่ท่าน”

เจียงหลันเยวี่ยนวดคลึงหัวคิ้ว หลับตาลง

ถึงรู้ว่าข่มขู่แล้วอย่างไร

เวลานี้อยู่ห่างจากการคัดเลือกหญิงงามเพียงห้าวัน ถ้าปล่อยให้เขาเผาจดหมายไปจริง หรงเอ๋อร์ก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว

ฉินวั่งดีต่อนางเพียงใด นางก็ไม่ใช่นายหญิงของสกุลฉิน หรงเอ๋อร์ก็ไม่ใช่บุตรสาวภรรยาเอก วันหน้าแม่สื่อมาทาบทาม หรือจะหาคุณชายที่เกิดจากอนุที่ฐานะทัดเทียมกันจริงๆ

“พรุ่งนี้ข้าจะไปพบเขา”

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 6 .. 66 เวลา 12.00 .

4 of 4หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ตกรางวัลอย่างงามให้การแสดงของพระชายา

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com