ในห้องมีสภาพดูไม่ได้ตามคาด
เฉินวั่งซูใบหน้าไร้อารมณ์ ในใจกลับยิ้มแย้มสุขสม เกามู่เฉิงไม่ทำให้นางผิดหวังจริงๆ ชี้แนะนิดเดียวก็เข้าใจ
นางนั่งอยู่ด้านหนึ่ง เสื้อตัวนอกถูกฉีกขาด ผมยุ่งอยู่บ้าง ปิ่นสองสามอันร่วงกระจายบนเตียง ชาดทาปากสีสดสวยซึ่งถูกคนทำให้หายไปครึ่งหนึ่งแล้วเห็นได้ชัดเป็นพิเศษ
เฉินวั่งซูเห็นแล้วก็บีบมือแน่น ตัวสั่นสะท้านเล็กน้อยพลางถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ก่อนจะกลับมามีท่าทางปกติอย่างรวดเร็ว
‘ระบบ ชมทักษะการแสดงที่ตีบทแตกกระจุยของฉันมาเลยเร็วๆ! สาวน้อยชนชั้นสูงผู้เพียบพร้อมทั้งรูปโฉมและคุณธรรมฝืนสะกดกลั้นความปวดใจ อยากตีชายโฉดหญิงชั่วให้ตายใจแทบขาด กลับยังคงรักษาเกียรติของตระกูลไว้อย่างดื้อดึง…
ผู้เป็นภรรยาเอกทั้งหมดในใต้หล้าล้วนจะรู้ซึ้งถึงหัวอก…มองเห็นแววตาของบรรดาฮูหยินที่รายล้อมอยู่หรือยัง มีแววเวทนาอยู่สามส่วน และแววนับถืออีกเจ็ดส่วน!’
ระบบกระแอมเล็กน้อย ‘อะแฮ่ม สามส่วนเจ็ดส่วนมองออกได้ยังไง’
เฉินวั่งซูเห็นมันมีการตอบสนองแล้วก็คึกคักกระฉับกระเฉงขึ้นมาทันที หากนางแสดงอยู่คนเดียวไม่มีคนดูคงเหงาแย่
‘แค่กำหนดตัวเลขไปส่งๆ คุณจะบอกว่าเวทนาสี่ส่วน นับถือหกส่วนก็แล้วแต่ แต่ว่าในนิยายรักที่ฉันอ่านแบ่งส่วนแบบนี้ทั้งนั้น สามส่วนอย่างงี้อย่างงั้น…บางทีสามส่วนเจ็ดส่วนอาจจะเป็นอัตราส่วนทองคำ* ด้านความรักของตัวเอกล่ะมั้ง’
ระบบอึ้งงัน ก่อนจะเงียบไปอีกครั้ง
เกามู่เฉิงเหลือบมองเฉินวั่งซูปราดหนึ่ง ก่อนจะก้มหน้าลง โผเข้าอ้อมกอดของเกาฮูหยิน แล้วเริ่มร้องไห้คร่ำครวญขึ้นมา
“ท่านแม่เจ้าคะ ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกันว่าเป็นเรื่องอะไร ข้าทำชุดเปื้อนขณะอยู่ในสวนจึงมาเปลี่ยนที่นี่ พอเข้าห้องมาก็เห็นพี่เยี่ยเฉินนอนอยู่บนเตียง…ข้ากลัวว่าเขาจะเป็นอะไรจึงขยับไปดูใกล้ๆ คิดว่าเขาดื่มเยอะไป…
ในเมื่อคนไม่เป็นอะไร ข้าก็คิดว่าชายหญิงมิควรใกล้ชิดกันจึงจะออกจากห้องไป แต่พี่เยี่ยเฉินเขา…เขา…ท่านแม่ ลูกไม่มีหน้าจะมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว”
นางพูดพลางปิดหน้า ก่อนจะมองไปยังองค์ชายเจ็ดเจียงเยี่ยเฉินที่นั่งอยู่บนเตียงด้วยสีหน้าทำอะไรไม่ถูก แล้วพูดอย่างอ้ำอึ้ง “แต่ว่าพี่เยี่ยเฉินเป็นสุภาพบุรุษ เขาไม่ทำเรื่องฉวยโอกาสแน่…ต้องโทษ…ท่านแม่ ข้าเองก็ไม่รู้ว่าควรโทษผู้ใดดี”
เกาฮูหยินสีหน้าอึมครึม รับเสื้อคลุมจากมือบ่าวหญิงสูงวัยมาคลุมลงบนตัวเกามู่เฉิง ผูกสายให้นางเสร็จก็มองไปยังองค์ชายเจ็ดด้วยสายตาเยียบเย็น “องค์ชาย เรื่องนี้ต้องทรงมีคำชี้แจงนะเพคะ”
องค์ชายเจ็ดลุกขึ้นยืน มองไปที่เฉินวั่งซูก่อนสลับกลับมามองที่เกามู่เฉิง “เรื่องนี้มีคนใส่ความข้าแน่นอน ก่อนหน้านี้ข้าอยู่…ข้าอยู่ดีๆ ก็ผล็อยหลับไป…”
เขาพูดพลางพุ่งไปที่หน้าต่าง มองดูอย่างละเอียด ก็ค้นพบรูที่เฉินวั่งซูเจาะไว้ก่อนหน้านี้ในชั่วพริบตา
“ดูสิ ตรงนี้มีรู จะต้องมีใครใช้ควันยาสลบรมข้าเป็นแน่…”
เกาฮูหยินหัวเราะเสียงเย็น “องค์ชาย หากหมายความว่าผู้ใช้ควันยาสลบรมท่าน เป็นบุตรสาวของหม่อมฉัน…หึ องค์ชายมีกลิ่นสุราอวลพระวรกาย รบกวนฮู่กั๋วกงฮูหยินช่วยหาน้ำแกงแก้เมามาถวายองค์ชายสักชามเถิด! เรื่องนี้พวกหม่อมฉันย่อมต้องไปกราบทูลขอคำอธิบายต่อพระพักตร์ฝ่าบาท”
ฮู่กั๋วกงฮูหยินรีบพยักหน้า “องค์ชาย หอเหวินเซียงนี้ของจวนหม่อมฉันมีไว้ใช้หลบร้อน ปีนี้ยังมิได้เปลี่ยนกระดาษกรุหน้าต่างใหม่ หากขาดเป็นรูก็ถือเป็นเรื่องปกติ”
เฉินวั่งซูยืนอยู่ด้านข้าง มองดูกลเล่ห์เพทุบายของคนทั้งกลุ่ม ในใจให้ปลงอนิจจังเหลือประมาณ
องค์ชายเจ็ดไม่ปรารถนาจะตกเป็นที่ติฉินนินทาว่าหลับนอนกับหญิงสาวเนื่องจากเมามาย จึงโยนความผิดให้เกามู่เฉิงกับจวนฮู่กั๋วกง…
เกาฮูหยินไม่ต้องการให้บุตรสาวตกเป็นที่ติฉินนินทาว่าวางยาก้าวขึ้นเตียงเอง จึงโยนความผิดกลับไปให้องค์ชายเจ็ด…
ฮู่กั๋วกงฮูหยินไม่อยากถูกเห็นว่าในจวนไม่สะอาด มีคนวางยาให้องค์ชายเจ็ดกับเกามู่เฉิงได้เสียกัน จึงโยนความผิดกลับไปสุดแรงเช่นกัน…
นี่…ช่างเป็นฉากสุนัขกัดกันที่สนุกโดยแท้