ทดลองอ่าน ตัวร้ายต้องสวมบทบาทอยู่ทุกวัน เล่ม 1 บทที่ 15-16 – หน้า 4 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ตัวร้ายต้องสวมบทบาทอยู่ทุกวัน

ทดลองอ่าน ตัวร้ายต้องสวมบทบาทอยู่ทุกวัน เล่ม 1 บทที่ 15-16

4 of 4หน้าถัดไป

“น้องหญิงรอง ปกติเจ้ามิได้ไปมาหาสู่กับสกุลเกา ไม่รู้ถึงความน่ากลัวของพวกเขา หากเป็นยามที่สกุลเฉินเรากำลังรุ่งเรืองอาจจะพอสู้กับพวกเขาได้ แต่จากเมื่อสิบปีก่อน…สกุลเฉินเราเสียหายใหญ่หลวง”

พระชายาองค์ชายสามกล่าวพลางเอามือทาบอก “ข้าขอพูดกับเจ้าจากก้นบึ้งหัวใจสักคำ เกามู่เฉิงชอบองค์ชายเจ็ดมาตั้งแต่เล็ก ก่อนหน้านี้นางก็มีความคิดเช่นนี้แล้ว แต่ข้าห้ามเอาไว้ องค์ชายเจ็ดเป็นน้องสามีของข้า ข้าจะปล่อยให้…แต่ข้าคิดไม่ถึงเลยสักนิดว่านางจะผุดความคิดขึ้นมาอีก ซ้ำยังทำสำเร็จแล้วด้วย วันนี้เจ้าเองก็เห็นแล้ว เกาฮูหยินเอาแต่บอกว่าจะไปทวงความยุติธรรมต่อพระพักตร์ฝ่าบาท สกุลเกามีอำนาจมาก หลานสาวสายตรงของอัครมหาเสนาบดีเกาจะไปเป็นอนุผู้อื่นได้อย่างไร ข้าจึงห่วงว่าป้าสะใภ้จะนำเรื่องนี้ไปอาละวาดต่อพระพักตร์ ทำให้ฝ่าบาทหงุดหงิดพระทัย ถึงเวลานั้นถ้าฝ่าบาททรงยอมให้เกามู่เฉิงเป็นพระชายา เจ้าเป็นอนุ ทีนี้จะทำอย่างไรดี ข้าคิดว่าเกามู่เฉิงต้องการแต่งงาน จะเอะอะก็ดี เงียบไว้ก็ช่าง ล้วนแก้ไขอันใดไม่ได้ สู้เจ้ายอมถอยก้าวหนึ่งกลับจะเป็นผลดีกว่า”

เฉินวั่งซูตบตั่งเล็กดังปังก่อนลุกขึ้นยืน ทำเอาแมวตัวนั้นร้องเมี้ยวด้วยความตกใจและกระโดดลงจากอ้อมแขนนาง ก่อนจะวิ่งเผ่นออกไป “พี่หญิง เชิญกลับไปได้แล้ว พวกเราบุตรสาวสกุลเฉินไม่มีเหตุผลให้ต้องเป็นอนุ แม้นเรื่องจะไปถึงฝ่าบาท ท่านกับข้าก็มีเหตุผล ตระกูลสามีพี่หญิงแซ่เกาย่อมจะหวั่นกลัว แต่ข้าแซ่เฉินกลับมิมีสิ่งใดต้องกลัว!”

นางพูดจบก็โอบกอดพระชายาองค์ชายสาม “ข้าอารมณ์พลุ่งพล่านไปชั่วขณะ พี่หญิงอย่าได้ถือโทษ พี่หญิงมิใช่บอกแล้วหรือว่าขอเพียงเรื่องนี้ไม่แพร่ออกไป ตระกูลเราไม่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต ไม่ว่าอย่างไรฝ่าบาทก็มิทรงมีเหตุผลที่จะลดข้าเป็นอนุ ถูกต้องหรือไม่เล่า พี่หญิงเป็นผู้ที่ฉลาดที่สุดในสกุลเฉินเรา มีใครไม่พูดกันว่าพระชายาองค์ชายสามฉลาดหลักแหลมบ้าง วาจาของพี่หญิงข้าจดจำไว้ขึ้นใจ จะไม่พูดอะไรแม้แต่ครึ่งคำ จะถือว่าไม่รู้อะไรทั้งสิ้น เพียงแต่เรื่องเป็นอนุ ข้าเฉินวั่งซูยอมตาย แต่จะไม่ยอมให้เกิดขึ้นเด็ดขาด”

พระชายาองค์ชายสามยังสับสนอยู่บ้าง นางถูกเฉินวั่งซูพาพูดอ้อมวกวนจนมึนงง

เฉินวั่งซูมองมู่จิ่นปราดหนึ่ง มู่จิ่นก็ผายมือไปทางประตูด้วยท่าทางเด็ดขาด “พระชายาองค์ชายสาม เชิญเพคะ วันนี้ในจวนมีเรื่องมงคล พระชายามีพระประสงค์จะไปร่วมเสวยชามงคลที่เรือนส่วนหน้าหรือไม่”

พระชายาองค์ชายสามได้สติกลับมาก็ยิ้มเล็กน้อย “มิได้ๆ ข้าจะไปแย่งความสำคัญของงานได้อย่างไร ข้ากลับไปก่อนดีกว่า หากน้องหญิงรองมีสิ่งใดต้องการให้ข้าช่วยเหลือก็จงอย่าได้เกรงใจ”

เฉินวั่งซูพยักหน้าด้วยสองแก้มแดงก่ำ เห็นได้ชัดว่ายังมิคลายโทสะ

ครั้นพระชายาองค์ชายสามพาคนจากไปอย่างเอิกเกริกแล้ว เฉินวั่งซูถึงได้หัวเราะออกมาก่อนกล่าวเสียงดังฟังชัด “ท่านย่ามานานแล้ว ไยจึงไม่ออกมาให้พี่หญิงคนดีผู้นั้นของหลานได้คารวะสักหน่อยเล่าเจ้าคะ”

ระหว่างที่พูดฮูหยินผู้เฒ่าเฉินก็เดินถือไม้เท้าเข้าประตูมา

เฉินวั่งซูรีบก้าวไปต้อนรับ พยุงนางมานั่งข้างโต๊ะเล็ก ก่อนรินชาให้ด้วยตนเอง และสั่งให้มู่จิ่นไปยกขนมกับผลไม้มา

“แม่เจ้าอยากอาละวาด แต่ย่าห้ามไว้ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เจ้าว่าควรทำอย่างไรดี” ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินกล่าวพลางมีสีหน้าเคร่งขรึมขึ้นมา

เฉินวั่งซูยิ้มหน้าเป็น “ท่านย่าก็เห็นแล้วนี่เจ้าคะ เมื่อครู่พระชายาองค์ชายสามกำลังยั่วยุหลาน! คนผู้นี้ช่างโลภโมโทสัน มาเป็นผู้เกลี้ยกล่อมให้สกุลเกา มอบทางตันให้หลานสองทาง หากหลานมีนิสัยรุนแรง ถูกนางยั่วโมโหด้วยการที่เอะอะก็อนุ เอะอะก็บอกสกุลเการ้ายกาจจนนำเรื่องนี้ไปอาละวาดต่อพระพักตร์ ผลสุดท้ายก็คงเป็นดั่งที่นางพูด เกามู่เฉิงจะต้องแต่งงานกับองค์ชายเจ็ด ฝ่าบาททรงพระพิโรธ หลานต้องกลายเป็นอนุ หากหลานมีนิสัยปวกเปียก ฟังคำของนางแล้วยอมเป็นอนุเอง โยนความหยิ่งในศักดิ์ศรีของผู้มีปัญญาทิ้งไป ไม่ต้องกล่าวว่าคนในตระกูลจะมองหลานอย่างไร ท่านย่าคงเป็นคนแรกที่ตัดญาติขาดมิตรกับหลาน กวาดหลานออกไปให้พ้นจวน”

ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินพยักหน้าก่อนกล่าวเนิบๆ “สกุลเฉินเรามิมีบุตรสาวที่เป็นอนุ”

“เหตุใดหลานต้องร้อนใจ หลานไม่ร้อนใจเลยสักนิด เรื่องมาถึงบัดนี้ มีให้เพียงคำเดียว นั่นก็คือรอ!” เฉินวั่งซูกล่าวพลางชูนิ้วสามนิ้ว “หนึ่งรอสกุลเกานั่งไม่ติด วางท่าประกาศว่าหลานต้องยอมถอยให้เกามู่เฉิงต่อหน้าคนในเมืองหลินอัน สองรอให้จวนองค์ชายสามนั่งไม่ติด ด้วยเห็นพวกเราไม่มีการเคลื่อนไหว สกุลเกาก็ปิดบังอำพรางจนร้อนใจกระพือเรื่องฉาวโฉ่ขึ้นมาในที่แจ้ง บีบให้ฝ่าบาทแก้พระราชโองการ สามรอ…”

เฉินวั่งซูพูดพลางมองไปยังฮูหยินผู้เฒ่าเฉินพร้อมรอยยิ้มหวาน “สามรออาสะใภ้สามกระพือเรื่องที่อัครมหาเสนาบดีเกาใช้อำนาจข่มคน ฝ่าบาทไม่ทรงคำนึงถึงหน้าขุนนางผู้มีความดีความชอบ บีบให้บุตรหลานของเขาเป็นอนุไปถึงในกองทัพ…เมื่อสร้างแรงกระตุ้นนี้เรียบร้อย ยกฝ่าบาทขึ้นย่างบนกระถางไฟจนทรงเดินหน้าถอยหลังไม่ได้แล้ว…ก็ถึงเวลาที่ท่านย่าผู้เป็นดั่งพระโพธิสัตว์มาโปรดของจวนเราจะเข้าวัง”

 

ติดตามตอนต่อไปวันที่ 23 .. 66 เวลา 12.00 .

4 of 4หน้าถัดไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ตัวร้ายต้องสวมบทบาทอยู่ทุกวัน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com