บทที่ 17
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินแย้มยิ้ม ยกมือขึ้นกวัก แมวที่ตกใจหนีไปก่อนหน้านี้ไม่รู้เดินเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร มันกระโดดขึ้นตักนางแล้วนอนหลับต่อ
“มีผลดีอันใดต่อสกุลเฉินเรา อยู่ดีๆ ก็ขาดพระชายาองค์ชายไปผู้หนึ่งอย่างไม่มีสาเหตุ นี่มิใช่ขาดทุนหรือไร”
เฉินวั่งซูได้ยินแล้วก็เก็บสีหน้าล้อเล่นลง “สกุลเฉินเราสืบทอดมาเป็นร้อยๆ ปีด้วยการอาศัยบุตรหลานในบ้านบากบั่นหมั่นเพียรศึกษาเล่าเรียน ยืนหยัดในหนทางที่ถูกต้อง มิใช่ตระกูลที่ให้บุตรสาวไปปรนนิบัติผู้อื่นแล้วอาศัยเกาะชายกระโปรง เพราะทำเช่นนั้นจะเดินไปได้ไกลเท่าไรเชียว หากท่านย่ารู้สึกว่าตำแหน่งพระชายาองค์ชายนี้สำคัญมากจริงๆ ก็คงไม่ปล่อยให้หลานกระทำการเหลวไหล และยิ่งจะไม่พูดว่าบุตรสาวสกุลเฉินไม่เป็นอนุเด็ดขาด”
นางพูดพลางเห็นฮูหยินผู้เฒ่าเฉินมีท่าทางสนใจก็รู้ว่าพูดถูกจุดแล้ว จึงเริ่มปั้นแต่งคำพูดต่อ
“พึ่งภูเขาภูเขาถล่ม พึ่งแม่น้ำแม่น้ำเหือดแห้ง* บัดนี้ฝ่าบาทยังไม่ทรงแต่งตั้งรัชทายาท องค์ชายแต่ละพระองค์ต่างจ้องตาเป็นมัน มีแบ่งฐานะแบ่งศักดิ์ แบ่งอายุแบ่งสายเลือดด้วยหรือ แม้องค์ชายเจ็ดจะมิมีสิ่งใดโดดเด่น แต่แค่เขาเข้ากับองค์ชายสามก็เท่ากับอยู่ใจกลางพายุแล้ว บรรดาคนสกุลเฉินในตอนนั้นมาถึงเจียงหนานก็เป็นท่านย่าลงแรงแยกบ้านใหญ่กับบ้านรองออกจากกัน หลังทางนั้นมีพระชายาองค์ชายขึ้นในบ้านรอง นอกจากเทศกาลปีใหม่แล้วสองจวนก็ยิ่งไปมาหาสู่กันแทบนับครั้งได้ ถ้ามิใช่ท่านย่าไม่ถูกใจองค์ชายสามก็ต้องเพราะถือเบี้ยต่อรองอยู่จึงไม่อยากวางเดิมพัน!”
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินหัวเราะออกมาแล้ว “เจ้าประเมินย่าสูงไปแล้ว ย่าแค่ลองคิดดูแล้วเห็นว่าบัดนี้ยายแก่บ้านรองนั้นดูจะสูงส่งกว่าย่าอยู่หนึ่งช่วงศีรษะ มักจะหัวเราะเยาะย่า แล้วใครจะไปอยากต้องคอยดูสีหน้าผู้อื่นเล่า”
เฉินวั่งซูเงียบงันไป นี่ข้ามิใช่กำลังลอบสอพลอท่านอยู่เนื่องจากมีเรื่องต้องขอร้องท่านหรือไร อุตส่าห์สร้างภาพลักษณ์อันแสนจะยิ่งใหญ่สุกใสรุ่งโรจน์ให้ท่าน! ปรมาจารย์นักเหน็บแนมกล่าววาจาเถรตรงน่าเกรงขามมาแต่ไหนแต่ไร ปานว่าพร้อมจะพลีชีพเพื่อความสัตย์จริงได้ทุกเมื่อ! เนื้อในหลังลอกหนัง* พรรค์นี้ท่านไม่บอกข้าก็รู้!
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินเห็นเฉินวั่งซูไม่รับส่งความต่อก็เอ่ยถามว่า “ตระกูลขุนนางอย่างพวกเรานี้มิใช่วางตัวเป็นกลาง ไม่เข้าฝักเข้าฝ่ายมาแต่ไหนแต่ไรหรือ”
เฉินวั่งซูหัวเราะคิกคักขึ้นมา “ท่านย่าหยอกหลานเล่นแล้ว ใต้ฟ้านี้มีผู้ที่เป็นกลางอย่างแท้จริงเสียที่ใด ไม่เอาใจทั้งสองฝ่ายอย่างนั้นหรือ ท่านไม่แสดงท่าที แต่มีบ้านรองอยู่ พวกเราก็มิใช่นับเป็นพวกเดียวกับองค์ชายสามหรือเจ้าคะ ฝ่าบาททรงยกหลานให้อภิเษกสมรสกับองค์ชายเจ็ด ไม่แน่อาจเพราะมีพระราชดำริว่าองค์ชายสามมีอำนาจเทียมฟ้า มีสกุลเกากับสกุลเฉินคอยช่วยเหลือเต็มที่ จึงไม่มีพระราชประสงค์ให้พวกเขาอาศัยเรื่องเลือกพระชายาให้องค์ชายเจ็ดมาหากำลังเสริมเพิ่มอีกถึงได้ได้ทรงเลือกหลาน…เพื่อที่จะถ่วงดุลอำนาจและยุให้แตกกัน บัดนี้ยังไม่ถึงเวลาวางหมาก หลานถอยออกมาได้อย่างสะอาดหมดจดก็นับเป็นความดีความชอบต่อบ้านใหญ่ อีกประการหนึ่งท่านย่าก็ยังรอดูอยู่ว่าในที่สุดท่านพ่อก็จะย้ายออกจากกรมพิธีการที่สังกัดมานานหลายปีแล้ว”
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินลูบแมวเบาๆ เสียงก็เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนขึ้นมา “ท่านปู่เจ้าตอนหนุ่มๆ ก็หัวไวเหมือนกับเจ้า อีกทั้งยังแสดงเก่ง ตอนโน้นท่านแม่ของย่ายังบอกว่าเขาเป็นพวกดูไม่เอาไหนแต่ใจแข็งดั่งเพชร ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะธรรมชาติของเจ้าเป็นเช่นนี้ ท่านปู่เจ้าถึงได้เลือกเลี้ยงเจ้าด้วยตนเอง หรือว่าเป็นเพราะเขาเลี้ยงเจ้ามา เจ้าถึงได้เหมือนกับเขา” นางพูดพลางถามด้วยความสงสัยอีกว่า “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าย่าไหว้วานอาสะใภ้สามของเจ้า”
เฉินวั่งซูเติมน้ำชาลงในถ้วยที่ว่างเปล่าของฮูหยินผู้เฒ่าเฉิน “เรื่องหมั้นหมายของอาเถียนเดิมทีไม่ต้องรีบร้อนปานนี้ ท่านย่ากลับจงใจเลือกวันชนกับวันงานเลี้ยงวสันต์ก็เพื่อให้ท่านแม่ของหลานปลีกตัวไม่ได้ อาสะใภ้สามจะได้ไปแทน อาสะใภ้สามเห็นเรื่องราวทั้งหมด แต่อยู่ในห้องกลับไม่กล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว เพิ่งจะเป็นเดือดเป็นแค้นตอนพ้นประตูมา แสดงว่าความเดือดแค้นนี้จริงเจ็ดส่วนเท็จสามส่วน ได้คิดเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้วว่าจะต้องแสดงละครให้ผู้อื่นดู”
เฉินวั่งซูพูดพลางนวดบ่าให้ฮูหยินผู้เฒ่าอย่างประจบประแจง “แน่นอนว่าข้อสำคัญที่สุดคือหลานยังคิดได้ว่าต้องยืมปากบ้านเดิมของอาสะใภ้สามมาช่วยป่าวประกาศเรื่องนี้ไปให้ถึงในกองทัพ…ท่านย่ามีสายตากว้างไกล เป็นไปได้หรือที่จะคิดไม่ได้ จะต้องวางแผนจัดการให้หลานเรียบร้อยแต่เนิ่นแล้วแน่นอน”
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินฟังมาถึงตรงนี้ถึงค่อยหัวเราะร่วนออกมา “เจ้าลิงซนนี่ เจ้าพูดหมดแล้ว ย่ายังเหลืออะไรให้พูดอีก ย่าน่ะจะไม่ตรากตรำกับอะไรแล้ว ทุกอย่างทำตามที่เจ้าว่า รอไป เมื่อเวลามาถึงเจ้าบอกให้ย่าเข้าวัง ย่าก็จะเข้าวัง”
เฉินวั่งซูนวดแรงขึ้น “ท่านย่าปราดเปรื่อง เป็นหนึ่งในใต้หล้าตลอดกาล!”
ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินหัวเราะหนักกว่าเดิม “ชมเจ้าสองคำเจ้าก็ตัวลอยแล้ว นี่กำลังพูดเลื่อนเปื้อนอะไร เป็นเพราะบัดนี้บิดาเจ้ากับพี่ชายเจ้าไม่อยู่ในบ้านถึงได้ทำให้เจ้าเหลวไหลปานนี้”