ทดลองอ่าน ตัวร้ายต้องสวมบทบาทอยู่ทุกวัน บทที่ 192-194 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ตัวร้ายต้องสวมบทบาทอยู่ทุกวัน

ทดลองอ่าน ตัวร้ายต้องสวมบทบาทอยู่ทุกวัน บทที่ 192-194

หน้าที่แล้ว1 of 3

บทที่ 192

เฉินวั่งซูเล่าจบก็มองไปยังเกามู่เฉิง อีกฝ่ายยืนอยู่ตรงนั้น เห็นได้ชัดว่าคาดไม่ถึงที่เรื่องราวกลายมาเป็นทิศทางนี้

เรื่องที่เจ้าคิดไม่ถึงยังกำลังรออยู่ข้างหลัง! ไม่หัดประมาณกำลังของแขนขาเล็กๆ นั่นของเจ้าเสียบ้าง ทั้งที่เห็นข้าเป็นยอดเขาตระหง่านปานนี้ก็ยังกล้ามาพุ่งชน นั่นเรียกว่ากลัวตนเองจะกระดูกไม่หักชัดๆ!

“เยี่ยกงชอบมังกร* แม้จะไม่เคยเห็นมังกรตัวจริง แต่ก็สามารถเล่าเรื่องใหญ่น้อยของมังกรได้อย่างชัดแจ้ง พระชายาองค์ชายเจ็ดสะสมสร้อยประคำ น่าจะเคยได้ยินเรื่องนี้กระมัง กระบี่ยังมีชื่อ สร้อยประคำอันมีจิตวิญญาณนี้ย่อมจะมีเรื่องราวเช่นกัน ทว่า…” เฉินวั่งซูหรี่ตา “ในจวนของพระชายาองค์ชายเจ็ดมีของสะสมอยู่นับไม่ถ้วน การจำผิดไปก็เป็นเรื่องธรรมดา สร้อยประคำนั้นยังวางอยู่ข้างหมอนข้า มันมีสิบหกเม็ดหรือสิบแปดเม็ดกันแน่นั้นบนสมุดรายการของบรรณาการจากอำเภอจูหยามีบันทึกไว้อย่างชัดเจน อีกทั้งในจวนมีธรรมเนียมสืบต่อกันมาว่าเครื่องประดับอันเป็นสินเดิมนี้หากพังแล้วไม่ควรซ่อม ให้หาสาวใช้ที่ดูแลเครื่องประดับมาจัดการวาดแบบตามรูปแบบเดิม จะได้ให้ช่างทำขึ้นใหม่ตามรูปแบบนั้น ฉะนั้นไข่มุกเม็ดนี้ย่อมจะไม่ใช่ของข้า หากพระชายาองค์ชายเจ็ดอยากรู้ก็ควรถามเจ้าของของมันจึงจะถูก!”

เฉินวั่งซูพูดจบก็ถวายบังคมต่อฮ่องเต้ ก่อนเอ่ยบอกด้วยท่าทางงดงามหยาดเยิ้ม “ฝ่าบาท วั่งซูเล่าจบแล้วเพคะ”

ฮ่องเต้ปรายตามองเฉินวั่งซูปราดหนึ่ง ก่อนพยักหน้าอย่างอ่อนโยนราวกับว่าเหยียนเจวี๋ยกับเฉินวั่งซูเป็นแก้วตาดวงใจของเขาจริงๆ

เฉินวั่งซูเห็นแล้วหวิดจะสำรอกข้าวเย็นออกมา

อะไรเรียกว่า สุภาพบุรุษจอมปลอมภายนอกดูดีมีศีลธรรม ก็นี่อย่างไรเล่า! ไม่แน่เจ้าคนผู้นี้อาจจะเป็นศัตรูผู้สังหารมารดาของเหยียนเจวี๋ยก็เป็นได้ ถึงจะไม่ใช่ ผู้ที่ส่งคนมาลอบสังหารเหยียนเจวี๋ยตลอดหลายปีมานี้ก็ขาด ผิงอ๋อง ที่จ้องอยากได้สมบัติตาเป็นมันไปไม่ได้

เพียงแต่มีใครสวมหน้ากากไม่เป็นบ้าง

“ถึงกับยังมีเรื่องพรรค์นี้ด้วย? สมแล้วที่พระอาจารย์หงฮุ่ยเป็นภิกษุชั้นสูงผู้บรรลุธรรม สำหรับพวกเราไข่มุกนี้เป็นเพียงของเล่น แต่สำหรับหนานเกอผู้นั้นกลับเป็นของช่วยชีวิต ความกตัญญูนำคุณธรรมทั้งปวง!”

เฉินวั่งซูพยักหน้า ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ก่อนมองเกามู่เฉิงด้วยรอยยิ้มละไม

เรื่องในวันนี้นางมองได้ทะลุปรุโปร่ง พอแม่ลูกสกุลเกาแยกตัวออกมาสู้ด้วยตนเองแล้วความทะเยอทะยานกลับยิ่งเพิ่มมากขึ้น

เจียงเยี่ยเฉินมีฐานะเป็นองค์ชาย เดิมทีไม่จำเป็นต้องไปส่งศพเป็นเพื่อนเกามู่เฉิง และยิ่งไม่จำเป็นต้องโยนงานทิ้งเพื่อตามนางไปพักฟื้นรักษาอาการป่วยที่หมู่บ้านนอกเมือง บุรุษที่ทำเยี่ยงนี้หนึ่งคือทำเพื่อความรัก สองคือทำเพื่อผลประโยชน์ ซึ่งเห็นได้ชัดเจนยิ่งว่าเจียงเยี่ยเฉินหาได้มีไมตรีใดๆ ต่อแม่นางเกาไม่

ถ้าเช่นนั้นก็เป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ แม่ลูกสกุลเกาแยกตัวออกมา ยามนี้ไม่มีอัครมหาเสนาบดีเกาคอยนั่งบงการ เห็นได้ชัดว่าอ่อนกำลังลงบ้างแล้ว แต่ต้าเกาซื่อกับองค์ชายสามหยั่งรากในราชสำนักมาหลายปี อุบายและเส้นสายมิอาจดูเบาได้ องค์ชายสามมาตกม้าตายกะทันหัน ต้าเกาซื่อยังไม่ทันได้ใช้ไพ่ที่ซ่อนไว้ก็ตามบุตรชายไปแล้ว

ต้าเกาซื่อและเสี่ยวเกาซื่อต่างมีบุตรชายหนึ่งคน เดิมทีก็มีแผนการคิดคำนวณอยู่ในใจ มิเช่นนั้นตอนแรกคงไม่อยากให้องค์ชายแปดแต่งงานกับเกามู่เฉิง แม้ว่าบัดนี้ต้าเกาซื่อจะล้มลงแล้ว แต่คนในกลุ่มนั้นที่ไม่อยากสนับสนุนคู่ต่อสู้เก่าก็มีอยู่พอสมควร

และอำนาจในส่วนนี้ก็ล้วนถูกสกุลเกาจวนตะวันตกรับเอาไปทั้งหมด

เจียงเยี่ยเฉินมีปณิธานอันยิ่งใหญ่ ย่อมจะยอมทำตัวเป็นรองเพื่ออนาคต ขณะนี้ไม่ว่าเขาจะชอบหลิ่วอิงมากเพียงไรก็ล้วนไม่มีเหตุผลให้พานางเข้าวังมาทำให้เกามู่เฉิงรำคาญใจ

มิเช่นนั้นที่ทำตัวเป็นลูกเต่าไปก่อนหน้านี้จะมิใช่เสียเปล่าหรือไร

เช่นนั้นในเรื่องนี้ย่อมจะมีเบื้องลึกเบื้องหลัง

นี่ก็คือสาเหตุว่าไฉนเฉินวั่งซูถึงเริ่มจับตามองพวกนางตั้งแต่เข้ามาในตำหนักใหญ่

ก่อนหน้านี้เฉินวั่งซูนำเรื่องที่ระบบแจ้งมารวมกัน รวมถึงเรื่องที่ว่าหลิ่วอิงคลอดบุตรชายในคืนหิมะตก จึงสงสัยว่าเจียงเยี่ยเฉินพาหลิ่วอิงเข้าวังมาด้วยเพราะอยากให้อีกฝ่ายคลอดลูกในวังตอนงานเลี้ยงคืนเทศกาลปีใหม่ เช่นนี้แม้เด็กที่ออกมาจะเกิดจากอนุ แต่ก็ถือว่าเป็นเด็กที่มีบุญ

แต่ครั้นเกามู่เฉิงพุ่งตรงมาหาเฉินวั่งซูก็เพิ่มความตื่นตัวขึ้นเป็นสิบสองส่วน เห็นทีทั้งครอบครัวองค์ชายเจ็ดจะล้วนแต่ใจใหญ่ เขาไม่พอใจแค่ยิงเกาทัณฑ์ดอกเดียวได้นกสองตัว เขาแทบอยากจะยิงดอกเดียวให้ได้เป็นผลไม้เสียบไม้

น่าเสียดายที่นางเฉินวั่งซูมิใช่ผลไม้ นางเป็นก้อนเหล็ก คิดจะมาแทะนางเช่นนี้ช่างไม่กลัวฟันตนเองหลุดเอาเสียเลย

เฉินวั่งซูคิดว่าเรื่องสร้อยประคำมุกนี้บางทีอาจไม่ใช่ความคิดของเกามู่เฉิง เนื่องจากเกามู่เฉิงผู้นี้มีความกล้าแต่ไร้แผนการ มุทะลุวู่วามอย่างยิ่ง ไม่มีทางคิดอุบายเหี้ยมเกรียมปานนี้ออกมาได้

หากเฉินวั่งซูไม่เคยจับสร้อยประคำมุกเส้นนั้นมาก่อน ไม่รู้ว่ามีไข่มุกทั้งหมดสิบหกเม็ด เมื่อถูกคนนำมาใช้เป็นหลักฐานก็ยอดเยี่ยมไปเลย

อยู่ดีๆ สร้อยประคำสิบแปดเม็ดหายไปสองเม็ดได้อย่างไร

เม็ดหนึ่งอยู่ใต้เท้าองค์ชายแปด อีกเม็ดถูกเกามู่เฉิงถือโอกาสซ่อนไว้ในตัวนาง

ครั้นนึกถึงช่วงที่องค์ชายแปดล้มไปกระแทกหลิ่วอิง เฉินวั่งซูก็ต้องอุทานในใจอีกครั้ง

ข้ามาแคว้นต้าเฉินนานเพียงนี้ยังไม่เคยเห็นคนที่โลภปานนี้เลย

นี่พวกเขาต้องการยิงเกาทัณฑ์ดอกเดียวได้นกสามตัวนี่!

สถานการณ์ในราชสำนักปัจจุบันนี้ยังดูคลุมเครือ เหล่ามังกรไร้จ่าฝูง ฮ่องเต้รับเอาบทเรียนจากประสบการณ์ในอดีตมาใช้ มิได้เมตตาใครเป็นพิเศษ ตำแหน่งรัชทายาทนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นใครก็ได้ทั้งนั้น

หากเจียงเยี่ยเฉินต้องการการสนับสนุนจากอัครมหาเสนาบดีเกา อุปสรรคแรกก็คือองค์ชายแปด

หากองค์ชายแปดไม่สามารถขึ้นเป็นรัชทายาทได้แล้ว เช่นนั้นสกุลเกาควรจะสนับสนุนผู้ใด และสนับสนุนได้เพียงใครเท่านั้น

นั่นย่อมจะต้องสนับสนุนบุตรเขยของสกุลเกา องค์ชายเจ็ดเจียงเยี่ยเฉิน อย่างน้อยถ้าเขาได้ขึ้นครองราชย์ ฮองเฮาก็สกุลเกา ในตัวรัชทายาทภายภาคหน้าก็มีเลือดของสกุลเกาไหลเวียนอยู่

ทว่าจำต้องรักษาท่าทีให้ดี หากพวกเขาทำองค์ชายแปดตายไปก็เท่ากับจะมีความแค้นที่มิอาจปลดเปลื้องได้กับสกุลเกา เกิดกินแหนงแคลงใจกัน แต่ถ้าอยู่ดีๆ องค์ชายแปดก็ถูกกำหนดให้ไร้วาสนากับตำแหน่งใหญ่เล่า…

เฉินวั่งซูคิดพลางมองขาขององค์ชายแปด

แม้คนในที่นี้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ล้วนมองออกกันทั้งนั้นว่าขาขององค์ชายแปดผิดปกติ ก่อนหน้านี้เกามู่เฉิงต้องการดูใต้รองเท้าเขา เขาหมดทางเลือกจึงต้องงอขาดูพื้นรองเท้าตนเอง

องค์ชายแปดมีโรคภัยที่บอกใครไม่ได้

นี่ต่างหากที่เป็นเกาทัณฑ์ดอกสำคัญที่สุดที่องค์ชายเจ็ดยิงออกไปในคืนนี้ ส่วนที่ยิงพุ่งมาทางนางนั้นก็แค่ทำได้จึงทำ เล่นงานนางได้เท่าไรก็ทำไปเท่านั้น มาคิดดูดีๆ เป็นไปได้แทบจะเต็มร้อยว่าเจียงเยี่ยเฉินกับเกามู่เฉิงรวมถึงหลิ่วอิงต่างจับมือสมัครสมานสามัคคีกันเป็นการชั่วคราว

ให้ตายสิ พอได้นอนคุยกันบนเตียงเรื่องของขวัญถูกสับเปลี่ยนในคืนวันแต่งงานวันนั้นก็ได้รับการแถลงไขแล้ว คนทั้งสามจะต้องมีศัตรูคู่แค้นร่วมกัน ผู้ใดขัดหูขัดตาที่สุด นั่นย่อมจะเป็นนางอยู่แล้ว!

เฮ้อ ดาราสาวเดินไปที่ใดล้วนเป็นเป้าดึงดูดสายตาคนจริงๆ เลิศเลอเกินไปก็น่าหงุดหงิด

เกามู่เฉิงได้ยินดังนี้ก็หน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย กัดริมฝีปาก ก่อนคารวะต่อเฉินวั่งซู “เป็นข้าตัดสินโดยคิดไปเองแล้ว เจ้าอย่าได้โมโห เรื่องนี้น่าจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น ข้าจริงจังจนเป็นนิสัย หวังว่าเจ้าจะอภัยด้วย”

นี่เฉินวั่งซูกำลังอวดว่าในจวนของตนเองแม้แต่สาวใช้ก็ยังวาดภาพเขียนอักษรได้หรือ มิเช่นนั้นคนจวนใดกินอิ่มแล้วไม่มีงานทำ ซ้ำยังมานั่งวาดแบบอีก!

นางขอโทษเสร็จ ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห อ้าปากยังอยากจะพูด กลับถูกเจียงเยี่ยเฉินห้ามไว้ “เซี่ยนจู่โปรดอภัยด้วย”

เดิมทีเฉินวั่งซูก็มิได้เป็นเป้าหมายหลัก หากยังบีบคั้นคนต่อไปก็จะดูชัดเจนเกินไป ทำให้คนเกิดความแคลงใจได้

เกามู่เฉิงเม้มปาก ไม่พูดไม่จาแล้ว

เฉินวั่งซูยิ้มก่อนหมุนตัวกลับไปที่โต๊ะตนเอง หยิบจอกสุราขึ้นมา “เทศกาลปีใหม่วันนี้เป็นวันมงคล มีเรื่องอันใดเกิดขึ้น ดื่มสักจอกก็มิใช่คลี่คลายได้แล้วหรือ พระชายาองค์ชายเจ็ดควรดื่มกับวั่งซูจึงจะถูก”

ฮ่องเต้ฟังแล้วก็หัวเราะออกมาดังลั่น “วั่งซูพูดได้ดี อย่ามัวแต่วุ่นวายกับไข่มุกไม่กี่เม็ดนั้นเลย ทุกคนยกจอกมาร่วมดื่มกันเถิด”

เกามู่เฉิงหันไปรินสุราก่อนยกจอกแหงนหน้าดื่มรวดเดียวจนเกลี้ยง จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อทีหนึ่ง

ติ๊ง ได้ยินเพียงเสียงไข่มุกตกพื้นดังใสเสนาะเพราะพริ้ง…

เฉินวั่งซูก้มหน้ามอง ไข่มุกสีดำเม็ดหนึ่งกระดอนขึ้นลงอยู่ข้างกายเกามู่เฉิงสองสามที ก่อนจะกลิ้งไปหยุดอยู่ข้างเท้าองค์ชายเจ็ด

“พระชายาองค์ชายเจ็ด ไข่มุกของพระชายาหล่นแล้ว”

หน้าที่แล้ว1 of 3

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ตัวร้ายต้องสวมบทบาทอยู่ทุกวัน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com