เฉินวั่งซูเห็นแล้วก็พลันถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
“สามี ไฉนจึงมีคนใช้มือที่จับเท้าแล้วไปจับศีรษะอีกเล่า” เสียงของนางแฝงจริตจะก้านเต็มที่
เหยียนเจวี๋ยตัวสั่นสะท้าน ภรรยา พวกเรายืดลิ้นให้ตรงแล้วค่อยคุยกันได้หรือไม่
“ภรรยา เจ้าลองคิดดูสิ หมูคลอดลูกเก้าตัว แต่ละตัวล้วนแตกต่างกัน จะมีตัวที่ชอบเกลือกกลิ้งในโคลนอยู่ด้วยก็เป็นเรื่องปกติ”
“ฮ่าๆๆๆๆ!” คนผู้หนึ่งที่ยืนชมความครึกครื้นอยู่ด้านข้างพลันเปล่งเสียงหัวเราะ
เฉินวั่งซูหันหน้าไปมอง เจ้าคนผู้นี้ถึงกับดูคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างมาก
ทว่าคนผู้นั้นกลับยกมือปิดปากไว้ วิ่งปุเลงๆ มาหา ก่อนยัดยาขี้ผึ้งให้เจียงเยี่ยเฉิน “ของสิ่งนี้ระงับความเจ็บปวดได้ ท่านทานิดเดียวก็ไม่เจ็บแล้ว ข้าบอกท่านนานแล้วว่าการเอาหน้าร้อนๆ ไปแนบก้นเย็นๆ ของผู้อื่น* เป็นการหาความอัปยศใส่ตัว…”
ครั้นเห็นเจียงเยี่ยเฉินมีสีหน้าไม่สู้ดีคนผู้นั้นก็รีบปิดปากไว้ ก่อนจะเปิดกระปุกยา แตะออกมาเล็กน้อยแล้วทาลงบนหน้าผากของเจียงเยี่ยเฉิน “ผู้มีพระคุณอย่าได้โมโห ข้าเห็นว่าฮูหยินท่านนี้เพียงแค่ล้อเล่น จะอย่างไรตอนแรกที่ท่านถอนหมั้นผู้อื่นก็ได้ทำให้ชื่อเสียงของหญิงสาวเขาเสียหาย อย่าว่าแต่ผู้อื่นเพียงแค่หยิบหินมาทุบท่านเลย ต่อให้หยิบดาบใหญ่มาฟันท่านก็ยังเป็นการสมควร ฮูหยินทุ่มหินแล้ว ได้คลายโมโหแล้ว หลังจากนี้ทุกคนพบหน้ากันก็ยังปรองดองกันได้มิใช่หรือ”
เฉินวั่งซูได้ยินเสียงของเขาแสงสว่างก็พลันวาบผ่านในสมอง ผู้สูงศักดิ์?
นางก็ว่าอยู่ว่าไฉนคนผู้นี้ถึงได้ดูคุ้นหน้าคุ้นตาปานนั้น ผู้สูงศักดิ์ ผู้สูงศักดิ์…
คืนก่อนวันแต่งงานของนางกับเหยียนเจวี๋ยระบบบอกว่าเจียงเยี่ยเฉินจะได้พบผู้สูงศักดิ์ที่ริมทะเลสาบซีหู นางจึงมุ่งหน้าไปแล้วพบเหยียนเจวี๋ยถูกลอบสังหารเข้าพอดี ด้วยเหตุนี้นางจึงได้ใช้งานหน้าไม้น้อยเป็นครั้งแรก ยิงเข้าที่บั้นท้ายเหยียนเจวี๋ย!
ผู้สูงศักดิ์ที่ถูกลูกหลงอยู่ในพงหญ้าเมื่อวันนั้นมิใช่คนตรงหน้านี้หรือไร
สรุปว่าคนผู้นี้เป็นใครกันแน่ สูงศักดิ์เพียงไรกันแน่ถึงได้ทำให้ผู้สูงศักดิ์ที่ระบบเอ่ยถึงสองครั้งล้วนแต่เป็นเขา
สตรีที่ทำการใหญ่สำเร็จมักเป็นคนไม่พูดจาพร่ำเพรื่อ
เวลานี้ผู้สูงศักดิ์ก็เห็นสตรีผู้นั้นยกหน้าไม้น้อยขึ้นมา เขาตัวสั่นสะท้าน ยกมือปิดปากตนเองไว้ จากนั้นก็ชี้เฉินวั่งซูด้วยอาการสั่นเทา “ท่านๆๆ…”
เฉินวั่งซูพยักหน้า
ผู้มีพระคุณอะไรกัน ผู้สูงศักดิ์ผู้นี้คงมิได้ตาบอดกระมัง
คืนวันนั้นเป็นนางรุดไปถึงก่อนเจียงเยี่ยเฉินแล้วให้คนของเหยียนเจวี๋ยพาเจ้าคนผู้นี้ไปรักษาแท้ๆ
แต่เขาตาฝ้าฟางมากเพียงไรกันแน่ถึงได้จำคนผิด เรียกเจียงเยี่ยเฉินเป็น ‘ผู้มีพระคุณ’ เสียได้
มิผิดจากที่คาด ผู้สูงศักดิ์ที่สวมหมวกเขียวผู้นั้นจัดชุดให้เป็นระเบียบ ทำตาขวางใส่เจียงเยี่ยเฉิน ไม่ลืมที่จะกระโดดเช็ดยาบนหน้าผากอีกฝ่ายออก แล้วพุ่งปราดมาหาเฉินวั่งซูและเหยียนเจวี๋ย
“ผู้มีพระคุณ!”
ในชั่วพริบตาที่หน้าไม้น้อยนั้นปรากฏโฉม เขาก็นึกถึงฉากเหตุการณ์อันยากจะลืมเลือนได้ชั่วชีวิตซึ่งได้เห็นที่ริมทะเลสาบซีหูขึ้นมาทันที จอมยุทธ์หญิงสังหารคนแปดคนได้ในชั่วพริบตาด้วยกระบวนท่าเดียว!
* ‘เอาหน้าร้อนๆ ไปแนบก้นเย็นๆ ของผู้อื่น’ มาจากสำนวน ‘หน้าร้อนแนบก้นเย็น’ หมายถึงแสดงความกระตือรือร้นต่อผู้อื่น แต่ได้รับความเย็นชาตอบกลับมา
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 31 ต.ค. 66 เวลา 12.00 น.