มู่หรงเหยียนมองเห็นการกระทำของอวี๋ชิงจยาแล้วเช่นกัน ทว่าเขาไม่กลอกตาใส่นางกลับแม้แต่น้อย ทั้งคร้านจะชายตามองนางสักครั้ง
อวี๋ชิงจยาเห็นกิริยาเช่นนี้ของเขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย
ช่างโอหังนัก อวี๋ชิงจยาเคยเห็นอนุภรรยาของท่านลุง ท่านอา และพี่น้องที่จวนสกุลอวี๋มาก่อน อนุภรรยาบางคนที่ได้รับความโปรดปรานมักจะมีนิสัยหยิ่งผยองและเชิดหน้าดูถูกผู้อื่น แต่คนที่วางท่าโอหังเช่นจิ่งหวนนั้นหาได้ยาก อวี๋ชิงจยาคิดในใจ ท่านพ่อประพฤติตนอย่างบริสุทธิ์มาหลายปี เรือนหลังเงียบสงบมาโดยตลอด หรือเพราะเก็บกดมานานก็เลยปะทุได้ง่าย พอท่านพ่อพาคนกลับมาครั้งแรกก็เลือกพาคนที่รับมือยากเช่นนี้มาเลยหรือ
บ่าวรับใช้ยกโต๊ะอาหารเข้ามาอย่างรวดเร็ว มารยาทและพิธีการของคนในแคว้นยามนี้ยึดตามแบบราชวงศ์โจวและราชวงศ์ฮั่น โดยยังคงนั่งกับพื้นและแยกโต๊ะอาหาร อาหารในถาดจะถูกจัดวางตามโต๊ะอาหารของแต่ละคน เมื่ออวี๋ชิงจยาเดินมาถึงห้องโถงเพื่อกินอาหาร ทันใดนั้นก็พบว่าโต๊ะอาหารของตนถูกย้ายไปแล้ว สาวใช้สองคนกำลังยกโต๊ะอาหารตัวใหม่มาวางตรงที่นั่งเดิมของนาง
อวี๋ชิงจยาไม่อยากเชื่อสายตา “ท่านพ่อ?”
“จิ่งหวนเป็นผู้อาวุโสของเจ้า ย่อมต้องเคารพเขา” อวี๋เหวินจวิ้นโบกมือให้อวี๋ชิงจยาเป็นเชิงให้นางนั่งอีกฝั่งหนึ่ง “เจ้าไปนั่งข้างล่าง”
ในยุคนี้ฐานะของอนุภรรยานั้นต่ำต้อยมาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการขายต่อหรือมอบให้ผู้อื่นเลย แม้แต่บุตรชายบุตรสาวที่เกิดจากอนุภรรยาก็ไม่มีตำแหน่งฐานะใดๆ ภรรยาเอกเรียกอนุภรรยามิต่างจากเรียกบ่าวคนหนึ่ง บุตรที่เกิดจากภรรยาเอกปฏิบัติต่อบุตรของอนุภรรยามิต่างจากกระทำกับทาส สถานการณ์เช่นนี้ราชวงศ์เหนือมีให้เห็นจนชินตา ทว่ายามนี้อนุภรรยาคนหนึ่งไม่เพียงได้กินอาหารร่วมห้องกับเจ้าบ้าน ตำแหน่งโต๊ะอาหารยังสูงกว่าอวี๋ชิงจยาซึ่งเป็นบุตรสาวที่เกิดจากภรรยาเอก นี่นับเป็นการดูถูกเหยียดหยามอย่างมาก
อวี๋ชิงจยาไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันที่บิดาของนางทำเรื่องทำนองโปรดปรานอนุภรรยาทอดทิ้งภรรยาเอก หลงตัณหาจนขาดสติเยี่ยงนี้ นี่ขนาดคนเพิ่งจะเข้าจวนมาเท่านั้น ไม่อยากนึกเลยว่าต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร
อวี๋ชิงจยาแต่ไรมาก็ได้รับความรักและการดูแลอย่างทะนุถนอมจากบิดา แต่ตอนนี้จู่ๆ ได้รับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม นางทั้งโกรธการกระทำของบิดา ทั้งรู้สึกว่าเขาไม่คู่ควรกับมารดาสักนิด ขณะเดียวกันความเป็นอริที่มีต่อปีศาจจิ้งจอกผู้เข้ามาแทรกกลางครอบครัวของนางก็พุ่งขึ้นไปถึงจุดสูงสุด
อวี๋ชิงจยามองจิ่งหวนที่ยืนอยู่ตรงข้ามนาง เดิมนางคิดว่าจิ่งหวนจะปฏิเสธด้วยท่าทางเจียมเนื้อเจียมตัว เพราะคนเราจะคบหาก็ต้องมอบน้ำใจซึ่งกันและกัน ในเมื่อเจ้านายให้เกียรติแล้ว เขาก็อย่าได้เหยียบจมูกขึ้นหน้าแต่ไม่เลย สตรีงดงามที่มีนามว่าจิ่งหวนผู้นี้ไม่พูดอะไรสักคำ ยังคงนั่งลงหลังโต๊ะอย่างไม่สะทกสะท้าน
ดีมาก อวี๋ชิงจยาโกรธถึงที่สุดแล้ว แต่ก็ค่อยๆ สงบใจอดทนอดกลั้นไว้ นอกเรือนมีอวี๋ชิงหย่าและระบบ ในเรือนก็มีปีศาจจิ้งจอกที่ได้รับความโปรดปรานวางท่าหยิ่งผยอง ดูท่าชีวิตต่อจากนี้ของนางคงครึกครื้นน่าดู
อาหารมื้อนี้อวี๋ชิงจยากินอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน พอนึกถึงมารดาที่เพิ่งจากไปได้สี่ปีก็พลันรู้สึกเศร้าใจ
ในยุคนี้นิยมเลี้ยงนางโลมในบ้าน ขุนนางมองว่าการอวดนางโลมแข่งความมั่งคั่งถือเป็นความภาคภูมิใจ เดิมทีนางคิดว่าบิดาไม่เหมือนบุรุษอื่น เขาไม่คิดจะทำเช่นนั้นแน่ แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ที่แท้บุรุษในใต้หล้าก็ล้วนเหลวแหลกเหมือนกันหมด
อันที่จริงมารดานางจากโลกไปได้สี่ปีแล้ว บิดาที่ยังอายุไม่มาก พอพิจารณาถึงวันข้างหน้าแล้ว ข้างกายเขาก็ไม่อาจไร้คนดูแลได้ อวี๋ชิงจยารู้ว่าตนควรดีใจแทนบิดาที่ได้พบคนดูแลเสียที แต่ตอนนี้ไม่ว่านางทำอย่างไรก็รู้สึกยินดีไม่ลงจริงๆ ซึ่งอวี๋ชิงจยาก็แอบเกลียดตนเองที่เห็นแก่ตัวเกินไปเช่นกัน
ปีนี้อวี๋ชิงจยาเพิ่งอายุสิบสี่ นางเสียมารดาไปตั้งแต่สิบขวบ ที่ผ่านมานางเคารพนับถือบิดามาโดยตลอด ตอนนี้จู่ๆ ก็มีคนที่อายุไล่เลี่ยกับนางมาแย่งบิดาไป อวี๋ชิงจยาย่อมเกิดเสียงระฆังเตือนภัยดังขึ้นทันที ต้องการแย่งชิงความสนใจของบิดากลับมา
สุดท้ายแล้วนางก็เป็นแค่แม่นางน้อยอายุสิบสี่ปีผู้หนึ่ง ไม่ได้มีระบบ ไม่ได้ทะลุมิติ ชีวิตของนางกำลังเบ่งบานอยู่ในวัยแรกรุ่นที่ไร้เดียงสาที่สุด
เนื่องจากครอบครัวนางไม่ได้เข้มงวดเรื่องการห้ามพูดคุยขณะกินหรือนอน พออวี๋ชิงจยากินอิ่มแล้ว เห็นบิดายังไม่วางตะเกียบ นางก็ไม่อาจออกไปจากโต๊ะ จึงชวนบิดาคุย “ท่านพ่อ เหตุใดครั้งนี้ท่านไปเยี่ยมสหายนานเพียงนี้”
อวี๋เหวินจวิ้นกล่าวอย่างคลุมเครือ “ได้พบสหายเก่าอีกครั้งแล้วรู้สึกตื้นตันใจยิ่ง จึงอยู่ต่ออีกหลายวัน”
อวี๋ชิงจยาเผยสีหน้าครุ่นคิด นางเหลือบมองมู่หรงเหยียนเล็กน้อย เช่นนี้ก็แสดงว่าหญิงงามผู้นี้ถูกผู้อื่นมอบให้ตอนพบปะสังสรรค์ การมอบอนุภรรยาให้กันเช่นนี้พบได้บ่อยมากในราชวงศ์เหนือ พวกขุนนางไม่คิดว่าการมอบสตรีของตนให้ผู้อื่นนั้นเป็นเรื่องไม่เหมาะสม กลับยังถูกมองเป็นเรื่องดีงาม จากสิ่งนี้จึงเห็นได้ว่าฐานะของอนุภรรยานั้นต่ำต้อยเพียงใด เมื่อก่อนตอนอยู่จวนสกุลอวี๋ คนของบ้านใหญ่และอวี๋ชิงหย่ามักจะใช้คำว่า ‘อนุภรรยา’ และ ‘ลูกอนุภรรยา’ มาดูหมิ่นอวี๋ชิงจยาแม่ลูกเสมอ