จดหมายที่ส่งมาจากสกุลอวี๋ ตามหลักต้องให้อวี๋เหวินจวิ้นอ่านก่อน แต่เขารักและให้ความสำคัญบุตรสาวมาโดยตลอด จึงไม่ใส่ใจการละเมิดธรรมเนียมเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ อวี๋ชิงจยาเปิดจดหมายอย่างรวดเร็ว กวาดตาอ่านทีละหลายบรรทัด จนกระทั่งอ่านถึงช่วงท้าย สีหน้าถึงดูกลัดกลุ้ม
ไป๋จื่อเห็นอวี๋ชิงจยาสีหน้าไม่ปกติ จึงถามอย่างห่วงใย “เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ”
อวี๋ชิงจยาวางกระดาษสองหน้าลงบนโต๊ะอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “พวกเขาเร่งให้ท่านพ่อกลับไปที่เหยี่ยนโจวอีกแล้ว เหล่าจวินตำหนิท่านพ่อที่ดึงดันทำตามใจตนเอง ประจำตำแหน่งอยู่ที่ชิงโจวมีแต่จะเสียเวลาเปล่า ถ่วงความก้าวหน้าในเส้นทางขุนนางเท่านั้น เหล่าจวินยังบอกอีกว่าหากท่านพ่อสำนึกตัวได้แล้ว กลับไปเหยี่ยนโจวตอนนี้ยังรับตำแหน่งที่นางเตรียมให้ท่านพ่อทัน”
ไป๋จื่อพลันนิ่งเงียบ ผู้อาวุโสสกุลอวี๋ไม่ยอมให้อวี๋เหวินจวิ้นไปเป็นขุนนางต่างถิ่นเป็นเรื่องที่รู้กันนานแล้ว แต่พวกนางไม่คิดว่าอวี๋เหล่าจวินจะมีอคติต่อชิงโจวเลวร้ายถึงขั้นนี้
อวี๋ชิงจยารู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลจากสัญชาตญาณ สกุลอวี๋อาศัยอยู่ที่เหยี่ยนโจวมาหลายชั่วอายุคน การที่ย่าทวดจะดูแคลนสถานที่อื่นก็เป็นเรื่องปกติ ทว่าพวกนางอยู่ที่ชิงโจวมาสองปีแล้ว ปกติแม้อวี๋เหล่าจวินจะไม่พอใจ แต่ก็ยังพูดจาสุภาพ ในระยะเวลาสั้นๆ ไม่กี่วันไฉนจู่ๆ ถึงมีท่าทีเปลี่ยนไป เลวร้ายถึงขั้นประณามท่านพ่อในจดหมายอย่างรุนแรงด้วยโทสะ
อวี๋ชิงจยาพลันนึกถึงอวี๋ชิงหย่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่คือค้อนที่ทุบหัวใจของนางอย่างแรง ความฝันเหล่านั้นล้วนเป็นจริง
นับดูเวลาตั้งแต่ที่จดหมายส่งมา เกรงว่าความฝันของอวี๋ชิงจยาและการเกิดใหม่ของอวี๋ชิงหย่าไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกัน จากจดหมายนี้ต้องนับเวลาย้อนกลับไปอย่างน้อยหนึ่งถึงสองเดือน เช่นนี้จึงจะสมเหตุสมผล อวี๋ชิงหย่าเกิดใหม่แล้วลงชื่อทำสัญญากับระบบ ระบบก็ช่วยนางจัดการกับอวี๋ชิงจยา และดำเนินตามแผนการภายในสองเดือนนั้น
ทว่าอวี๋ชิงจยาไม่เชื่อว่าใต้หล้านี้มีอาหารกลางวันที่ไม่คิดค่าใช้จ่าย เหตุใดระบบจึงช่วยอวี๋ชิงหย่า แล้วระบบอยากได้อะไรจากตัวอวี๋ชิงหย่ากันแน่
อวี๋ชิงจยาไม่รู้ เกรงว่าอวี๋ชิงหย่าเองก็คงไม่เคยคิดเรื่องนี้เหมือนกัน
ตอนนี้อวี๋ชิงหย่าหรือก็คือ ‘มาตรการตอบโต้ของระบบ’ มีผลแล้ว อวี๋เหล่าจวินเปลี่ยนความคิดที่มีต่ออวี๋ชิงหย่าใหม่ดังคาด และภายใต้การยั่วยุอันคลุมเครือของอวี๋ชิงหย่า ทำให้อวี๋เหล่าจวินไม่พอใจอย่างยิ่งกับอวี๋ชิงจยาพ่อลูกที่อยู่ชิงโจวอันห่างไกล อวี๋ชิงจยานึกถึงเรือนอันกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ชีวิตอันอึมครึมเหล่านั้น สีหน้าก็หมองเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด
ไป๋จื่อนึกถึงอวี๋เหล่าจวินผู้ถือตนเป็นใหญ่ที่บ้านเกิดและคนในบ้านใหญ่ที่เย่อหยิ่งก้าวร้าว นางอยู่ข้างกายอวี๋ชิงจยามานานหลายปี คุณหนูหกแม่ลูกใช้ชีวิตอยู่ที่จวนสกุลอวี๋อย่างไร ไป๋จื่อย่อมจำได้ดี
บิดามารดาของอวี๋เหวินจวิ้นคือคนของบ้านรอง ส่วนอวี๋เหวินจวิ้นกลับสืบทอดบ้านใหญ่และบ้านรองในเวลาเดียวกัน
สาเหตุของเรื่องนี้ยาวมาก
อวี๋เหล่าจวินคือเจ้าบ้านหญิงสกุลอวี๋ มีบุตรชายอยู่สองคน บุตรชายคนโตอวี๋ฟู่ถือเป็นทายาทสายตรงของบ้านใหญ่ บุตรชายคนรองคืออวี๋เหยี่ยนบิดาของอวี๋เหวินจวิ้น อวี๋ฟู่และอวี๋เหยี่ยนสองพี่น้องต่างมีบุตรชายอยู่หนึ่งคนเหมือนกัน อวี๋เหล่าจวินแต่ไหนแต่ไรมาลำเอียงไปทางบุตรชายและหลานชายคนโต แม้จะไม่พอใจหลานชายบ้านรองอย่างอวี๋เหวินจวิ้นที่ไม่รักความก้าวหน้าในเส้นทางขุนนางและไม่ทำเรื่องจริงจัง แต่ก็เพียงหลับตาข้างเดียวปล่อยผ่านเขาไป แต่ใครจะรู้ว่าสิบกว่าปีก่อน หลานชายคนเดียวของบ้านใหญ่ที่อายุยังน้อยจู่ๆ ก็ตายอย่างไม่คาดคิดโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน ไม่มีแม้กระทั่งบุตรอนุภรรยาเหลือไว้ หลังโศกเศร้าอวี๋เหล่าจวินก็รู้สึกหวั่นวิตก กลัวว่าบุตรชายคนโตจะไร้ทายาทสืบทอด จึงคิดจะให้บุตรชายจากสายอื่นในเครือญาติมาสืบทอดบ้านใหญ่ด้วย ซึ่งผู้ที่มีต้นกำเนิดเดียวกันและอายุเหมาะสมที่สุด ย่อมเป็นอวี๋เหวินจวิ้นจากบ้านรอง
ทว่าอวี๋เหวินจวิ้นก็เป็นบุตรชายคนเดียวของบ้านอวี๋เหยี่ยนเช่นกัน หากสืบทอดบ้านใหญ่ บ้านรองก็จะสิ้นทายาท ด้วยความจนปัญญา จึงจำต้องใช้ธรรมเนียมเจียนเทียว หรือก็คืออวี๋เหวินจวิ้นหนึ่งคนต้องรับช่วงต่อถึงสองบ้าน รับหน้าที่สืบวงศ์วานครอบครัวตนเองและครอบครัวของท่านลุงในเวลาเดียวกัน