ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน
ทดลองอ่าน ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน บทที่ 4
ในเมื่อเป็นธรรมเนียมเจียนเทียว นั่นก็หมายความว่าอวี๋เหวินจวิ้นต้องแต่งภรรยาเอกสองคนเพื่อสืบเชื้อสายสกุลแยกกัน อวี๋เหวินจวิ้นเดิมทีหมั้นหมายกับอวี๋ซื่อ เหมยเขียวม้าไม้ไผ่ที่อายุน้อยกว่าตน เพียงรออวี๋ซื่ออายุครบสิบห้าปีก็แต่งงานได้ สุดท้ายถูกธรรมเนียมเจียนเทียวทำให้วุ่นวาย เขาจำต้องเลื่อนการแต่งงานกับอวี๋ซื่อออกไป และถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับหลี่ซื่อภรรยาเอกที่หมั้นหมายกับญาติผู้พี่ตอนยังมีชีวิตอยู่ก่อน เรียกได้ว่าอยู่ดีๆ ภัยพิบัติก็ตกลงมาจากฟากฟ้า อวี๋ซื่อมองดูอวี๋เหวินจวิ้นแต่งงานกับสตรีอื่นต่อหน้าต่อตา และภายใต้การเตรียมการของผู้อาวุโสในตระกูล อวี๋เหวินจวิ้นต้องร่วมห้องกับหลี่ซื่อเป็นเวลาสามเดือน จึงจะสามารถแต่งงานกับอวี๋ซื่อได้
ความบาดหมางระหว่างหลี่ซื่อและอวี๋ซื่อจึงเริ่มต้นนับจากนี้
อวี๋ซื่อและหลี่ซื่อต่างเป็นฮูหยินเอกเช่นเดียวกัน แม้พวกนางมีสามีร่วมกัน แต่ยามเจอหน้ากลับเรียกกันว่า ‘พี่สะใภ้’ ‘น้องสะใภ้’ อวี๋ชิงจยาเป็นบุตรสาวของอวี๋ซื่อ ส่วนอวี๋ชิงหย่าเป็นบุตรสาวของหลี่ซื่อ พวกนางสองคนแม้มีบิดาเดียวกัน แต่ตามธรรมเนียมเจียนเทียวถือเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
แม้ในนามจะเป็นพี่สะใภ้น้องสะใภ้ที่มีฐานะเท่าเทียมกัน ทว่าอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ไหนเลยจะไม่แบ่งแยกสูงต่ำ บ้านใหญ่ครองความเป็นผู้ปกครองตระกูล หากไม่ใช่เพราะทายาทคนเดียวของบ้านใหญ่ตายอย่างคาดไม่ถึง เกรงว่าชื่อของบ้านใหญ่คงตกมาไม่ถึงตัวอวี๋เหวินจวิ้น ดังนั้นบ้านใหญ่ที่มีฐานะสูงส่งมาโดยตลอดจึงคิดว่าการที่อวี๋เหวินจวิ้นได้สืบสานวงศ์วานของบ้านใหญ่ล้วนเป็นความเมตตาของพวกเขา ส่วนอวี๋ซื่อซึ่งเดิมทีเป็นเหมยเขียวม้าไม้ไผ่กับอวี๋เหวินจวิ้น การแต่งงานของตนกลับต้องมาถูกขัดขวางโดยหลี่ซื่อ ว่ากันด้วยเวลาและเหตุผลแล้ว หลี่ซื่อก็คือบุคคลที่สาม
ทว่าใครให้ความอาวุโสมีลำดับ อวี๋เหวินจวิ้นจำต้องแต่งงานกับหลี่ซื่อก่อน หลี่ซื่อได้เข้าเรือนหอก่อนอวี๋ซื่อ จึงเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่อยู่เหนือกว่าอวี๋ซื่อ ย่อมดูถูกอวี๋ซื่อเป็นธรรมดา แม้หลี่ซื่อไม่พูดออกจากปาก แต่ในใจก็มองอวี๋ซื่อเป็นอนุภรรยา ความคิดของมารดาก็ถูกส่งต่อมาถึงตัวบุตรสาว อวี๋ชิงหย่าแต่เล็กจนโตถือว่าตนเป็นบุตรสาวคนโตของบ้านใหญ่ มักจะพูดจาดูหมิ่นทั้งโดยนัยและโดยแจ้งว่าอวี๋ชิงจยาเป็นบุตรสาวอนุภรรยา
ฐานะของอนุภรรยาและทายาทอนุภรรยานั้นแสนต่ำต้อย คำพูดของหลี่ซื่อและอวี๋ชิงหย่าไม่ได้ผิดพลาดโดยไร้เจตนา เพราะพวกนางเจตนาถากถางจริงๆ ก็ใครให้อวี๋เหล่าจวินลำเอียงเข้าข้างคนบ้านใหญ่เล่า อวี๋เหล่าจวินไม่ชอบใจอวี๋เหวินจวิ้นที่ไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระอยู่คนเดียว จึงเกิดความปรารถนาที่จะบงการให้ได้อย่างแรงกล้า แม้แต่เรื่องในห้องของหลานชายก็ต้องแทรกแซงให้ได้ อวี๋เหวินจวิ้นไม่พอใจที่ถูกบีบบังคับให้แต่งงานกับหลี่ซื่อเป็นทุนเดิม หลังแต่งงานก็ยิ่งหมดความสนใจกับอดีตพี่สะใภ้ผู้นี้ ทุกวันจึงใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ร่วมกับอวี๋ซื่อภรรยาเอกที่แท้จริง กลางคืนก็อยู่ที่ห้องของอวี๋ซื่อ เรื่องเช่นนี้หลี่ซื่อจะยอมได้อย่างไร อวี๋เหล่าจวินก็เข้าข้างบ้านใหญ่ ทุกวันจงใจให้อวี๋ซื่อมาอยู่ตรงหน้า เอะอะก็เรียกให้อวี๋ซื่อมาดูแลอาการเจ็บป่วย ใช้วิธีสารพัดเพื่อบีบบังคับให้อวี๋เหวินจวิ้นไปค้างคืนกับหลี่ซื่อ
ชีวิตของอวี๋ชิงจยาและมารดาที่บ้านหลังนั้นไม่ได้มีความสุขอะไรนัก
ภายใต้การทรมานเช่นนี้ อวี๋ซื่อจึงจากไปเร็วโดยที่อายุยังไม่ถึงสามสิบ ตอนที่อวี๋ซื่อจากโลกนี้ไป อวี๋ชิงจยาเพิ่งอายุสิบปีเท่านั้น อวี๋เหวินจวิ้นสูญเสียภรรยาที่รักไป ภายในใจทั้งเจ็บปวดและรู้สึกละอาย ขณะเดียวกันก็รู้สึกโกรธและเกลียดชังอวี๋เหล่าจวินกับหลี่ซื่ออย่างรุนแรง จนกระทั่งทำพิธีให้ภรรยาเสร็จ อวี๋เหวินจวิ้นก็ติดตามสหายไปประจำตำแหน่งที่เมืองอื่น หลังจากไหว้วานสหายช่วยหาตำแหน่งว่างและทะเลาะวิวาทกับตระกูลนับปี อวี๋เหวินจวิ้นก็ได้ออกจากเหยี่ยนโจวสมปรารถนา พาบุตรสาววัยสิบสองปีเดินทางไกลมายังชิงโจวและเข้ารับตำแหน่ง
แม้สิ่งต่างๆ ที่ก่วงหลิงจะเทียบกับที่บ้านเกิดไม่ติด แต่อวี๋ชิงจยารู้สึกสบายใจอย่างยิ่ง นางใช้ชีวิตอยู่ที่นี่สองปีอย่างไร้ห่วงไร้กังวล จนกระทั่งวันนี้นางได้รับรู้ถึงอวี๋ชิงหย่าที่เกิดใหม่ ระบบที่ราวกับปีศาจร้าย และบิดาที่พาอนุภรรยากลับมาคนหนึ่งซึ่งหยิ่งผยองอย่างยิ่ง ชีวิตของนางก็คล้ายไม่เหมือนเดิม
อวี๋เหวินจวิ้นพาอวี๋ชิงจยาออกไปโดยทิ้งหลี่ซื่อและอวี๋ชิงหย่าไว้ที่บ้านเกิด ในมุมมองของแม่ลูกคู่นั้นย่อมเห็นว่าอวี๋เหวินจวิ้นเป็นหมาป่าตาขาวที่ลำเอียงและใจดำ เดิมทีอวี๋ชิงจยาก็มีความเป็นอริกับอวี๋ชิงหย่ามากอยู่แล้ว ตอนนี้อีกฝ่ายเกิดใหม่ทั้งยังได้รับความช่วยเหลือจากระบบ อวี๋ชิงหย่าจะทำอะไรที่บ้านเกิดบ้างนั้น อวี๋ชิงจยาแค่คิดก็รู้สึกขนลุกแล้ว
ตอนนี้อวี๋เหล่าจวินเร่งให้พวกเขากลับบ้านด้วยคำพูดรุนแรง คิดว่าคงเป็นฝีมือของอวี๋ชิงหย่าเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าช่วงนี้อวี๋ชิงหย่าพูดว่าร้ายนางต่อหน้าอวี๋เหล่าจวินมากน้อยเพียงใด ตอนนี้เกรงว่าอคติของอวี๋เหล่าจวินที่มีต่ออวี๋ชิงจยาคงจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
อวี๋ชิงจยาไม่อยากสนใจเรื่องกวนใจเหล่านี้ นางโยนจดหมายไปด้านข้างโดยไม่คิดจะดูอีก ไป๋จื่อที่เฝ้าดูการกระทำของอวี๋ชิงจยาอยู่ก็เรียกอย่างระมัดระวัง “คุณหนู…”
“ข้าไม่เป็นไร” อวี๋ชิงจยากล่าวด้วยเสียงเรียบนิ่ง “ข้ารู้แต่แรกแล้วว่าพวกนางปฏิบัติต่อข้าด้วยท่าทีเช่นไร จะเสียใจเพราะเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ได้อย่างไร”
ไป๋จื่อถอนหายใจ คุณหนูของพวกนางทั้งงดงามและจิตใจดี นางจะไม่รู้ใจคุณหนูได้อย่างไร ไป๋จื่ออยากจะโอบอวี๋ชิงจยาไว้ด้วยสองมือของตนเองด้วยซ้ำ ในสายตานางคุณหนูมีค่ามาก สมบัติเพชรพลอยยังมีค่าสู้ไม่ได้ด้วยซ้ำ ย่อมไม่อาจเข้าใจได้ว่าเหตุใดอวี๋เหล่าจวินกับนายหญิงบ้านใหญ่ถึงกระทำการโหดร้ายเช่นนี้ได้ลงคอ
ไป๋จื่อจิตใจเต็มไปด้วยความสงสาร ทว่าอวี๋ชิงจยากลับสงบเยือกเย็น นางถอดกำไลหยกที่ข้อมือออก วางลงบนโต๊ะเกิดเสียงกระทบเบาๆ ทว่าอารมณ์นั้นเย็นชาและสง่างามอย่างไม่อาจบรรยาย “ชอบหรือไม่เป็นเรื่องความรู้สึกส่วนตัว ถ้าเหล่าจวินไม่ชอบข้า ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดหรอก เพราะข้าเองก็ไม่ได้ติดค้างอะไรนางนี่ เหล่าจวินจะเย็นชากับข้าก็ช่างปะไร แต่หากคนของบ้านใหญ่ดูถูกข้า ถือโอกาสดูหมิ่นชื่อเสียงของข้า ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ไม่ยอม”
ไม่ว่าจะเป็นหลี่ซื่อหรืออวี๋ชิงหย่า หากคิดจะเล่นงานกันล่ะก็ อวี๋ชิงจยาไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้นแน่ การเกิดใหม่ไม่ใช่เหตุผลที่ต้องทำชั่ว อวี๋ชิงจยาเป็นนางเอกในต้นฉบับ ไม่ใช่บาปที่ติดตัวมา
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 1 มิ.ย. 67