ในตอนแรกสุดอวี๋ชิงจยาไม่ได้ใส่ใจ แต่ไม่รู้ว่าอะไรไปกระตุ้นบิดาเข้า จู่ๆ เขาก็อยากให้นางเรียนขี่ม้ายิงธนูขึ้นมา ทั้งยังบีบคั้นให้นางยอมรับปากเรียนด้วย ทุกครั้งที่อวี๋ชิงจยาน้าวสายธนู แขนเสื้อก็จะเข้าไปเกี่ยวกับธนู
ในขณะที่ปีศาจจิ้งจอกที่อยู่อีกด้านหนึ่งนั้นสวมชุดแขนแคบเอวสอบ ยิงธนูฟึ่บๆๆๆ อวี๋ชิงจยาจึงกลายเป็นตัวเปรียบเทียบ หลังจากทนมาหลายวัน อวี๋ชิงจยาก็ทุ่มเทอย่างสุดตัว สั่งให้สาวใช้ตัดชุดชาวหูให้หนึ่งชุด
นางคิดอย่างไร้เดียงสาว่าเสื้อผ้าถ่วงฝีมือนาง
อวี๋ชิงจยาเปลี่ยนมาสวมชุดชาวหูสีแดง ทั้งตัวเป็นสีแดงสว่างสดใส แขนเสื้อยังเย็บเป็นลวดลายสีดำโดยไป๋จื่อ เดิมทีไป๋จื่อคัดค้านอย่างรุนแรงที่อวี๋ชิงจยาจะเปลี่ยนมาสวมชุดชาวหู จนกระทั่งอวี๋ชิงจยาสวมชุดที่ยังทำไม่เสร็จเดินวนรอบหนึ่ง ไป๋จื่อก็เงียบปาก ต่อมายังแก้รอบเอวและเติมลวดลายบนชุดให้อวี๋ชิงจยาด้วยตนเอง อวี๋ชิงจยาในยามสวมชุดหรูฉวินที่พลิ้วไหวแขนกว้างนั้นดูบริสุทธิ์บอบบาง ราวกับจะลอยไปตามลมได้ทุกเมื่อ พอเปลี่ยนมาสวมชุดชาวหูรูปโฉมที่ดูนุ่มนวลของนางก็ยิ่งถูกขับเน้นให้งดงามโดดเด่นมากขึ้นไปอีก
อวี๋ชิงจยาออกแรงน้าวสายธนู แต่ทนได้ไม่นานมือขวาก็หมดแรงอย่างรวดเร็ว ลูกธนูที่ปลายนิ้วก็พุ่งออกไป ลอยเหนือพื้นอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตกลงบนพื้น
อวี๋ชิงจยาถอนหายใจ นางออกแรงอย่างสุดแรงแล้ว ทว่าไม่ต้องพูดถึงเรื่องนับคะแนนเลย เพราะเวลานี้นางยิงไม่เข้าเป้าเลยด้วยซ้ำ
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงดังมาจากข้างๆ ตามด้วยเสียงลูกธนูเข้าเป้าตรงหน้า
อวี๋ชิงจยากัดฟันเงียบๆ อย่าบอกนะว่าข้าจะแพ้ให้กับปีศาจจิ้งจอก นางกัดฟันกรอด ยกธนูและลูกธนูขึ้น ก่อนจะน้าวสายและเล็งเป้าอีกครั้ง ครั้งนี้นางออกแรงอย่างเต็มที่ จนกระทั่งสายธนูตึงสุดขีดแล้วจึงค่อยปล่อยมือ ลูกธนูก็พุ่งออกจากร่องนิ้ว
ครั้งนี้นางยิงเข้าเป้า แต่ไม่ใช่เป้าของนาง…
ภายในระยะเวลาอันสั้น มู่หรงเหยียนก็ยิงธนูดอกที่สามแล้ว ทว่าในยามนี้จู่ๆ ก็มีลูกธนูดอกหนึ่งพุ่งมาจากด้านข้าง ชนปีกนกลูกธนูของเขาเอียง ทำให้หัวลูกธนูได้รับผลกระทบไปด้วย
ในที่สุดมู่หรงเหยียนก็วางธนูลงและมองอวี๋ชิงจยาอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกในวันนี้
การพลิกผันของสถานการณ์อยู่นอกเหนือจากที่อวี๋ชิงจยาคาดการณ์อย่างสิ้นเชิง ทำเช่นนี้คล้ายกับนางเจตนาเบนวิถี แต่อันที่จริงนางก็อยากทำเช่นนี้เหมือนกัน
อวี๋ชิงจยาเหลือบมองเขาอย่างเย็นชาและสงบนิ่ง นางกล่าว “มองอันใดกัน อาจารย์พูดก่อนไปว่าให้ทุกคนยิงคนละยี่สิบดอกมิใช่หรือ”
ยิงธนูยี่สิบดอกสำหรับมู่หรงเหยียนนั้นเทียบไม่ได้กับการดื่มน้ำเสียด้วยซ้ำ เห็นได้ชัดว่าอาจารย์พูดเช่นนี้เพื่อตบตาอวี๋ชิงจยา มู่หรงเหยียนเชี่ยวชาญการขี่ม้ายิงธนูมานานแล้ว ไหนเลยต้องให้อาจารย์มามอบหมายงานด้วย ท่าทางของอวี๋ชิงจยาเมื่อครู่นี้ เผ่าเซียนเปย มองว่าเป็นการยั่วยุอย่างยิ่ง การเบี่ยงเบนวิถีลูกธนูฝ่ายตรงข้ามจำเป็นต้องมีฝีมือและความแม่นยำสูงพอสมควร
ทว่าสตรีอ่อนแอที่แม้แต่สายธนูยังดึงไม่โค้งน่ะหรือ มู่หรงเหยียนนึกดูถูกในใจ นางคิดยั่วยุข้า? ไว้ชาติหน้าเถอะ
ขณะที่มู่หรงเหยียนกำลังตั้งสมาธิแล้วน้าวสายธนูก็มีเสียงหายใจแรงดังมาจากข้างๆ เมื่อสมาธิของเขาถูกรบกวน ยามปล่อยธนูจึงพลาดเป้า มู่หรงเหยียนวางธนูลงด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “นิ้วที่สองอย่ากดปีกลูกธนู”
“อะไรนะ”
มู่หรงเหยียนหันมามองอย่างเย็นชา เขาไม่เคยพูดซ้ำสอง
อวี๋ชิงจยาเพิ่งจะรู้สึกตัวทีหลังว่ามู่หรงเหยียนชี้แนะท่าทางให้นาง
อวี๋ชิงจยายากจะปกปิดความตกตะลึง คิดไม่ถึงว่าปีศาจจิ้งจอกจะใจดีเช่นนี้ อวี๋ชิงจยาแค่นเสียงเบาหนึ่งทีแล้วพึมพำ “เจ้าไม่ต้องมาทำเป็นสอนข้าหรอก”