ทดลองอ่าน ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน บทที่ 64 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน

ทดลองอ่าน ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน บทที่ 64

หน้าที่แล้ว1 of 3

บทที่ 64 เปรี้ยวฟัน

เมื่อครู่นี้มีม่านกางกั้นอยู่ มู่หรงเหยียนจึงไม่ได้สนใจ จนกระทั่งตอนนี้ถึงได้กลิ่นเครื่องหอมเพิ่มเข้ามาในศาลา

มู่หรงเหยียนขมวดคิ้วมุ่น ถอยหลังสองก้าวอย่างเงียบเชียบ

สภาพจิตใจของเขาไม่มั่นคง เนื่องจากมีความกระหายเลือดที่ควบคุมไม่ได้อยู่ในตัว ดังนั้นเขาจึงไม่เคยสัมผัสสิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นมาโดยตลอด เครื่องหอมยิ่งเป็นของที่กระตุ้นความกระหายเลือดได้ง่ายที่สุด เขายิ่งต้องระมัดระวังให้มาก อวี๋ชิงหย่าควรรู้สึกโชคดีที่เครื่องหอมเสริมวิชาเสน่ห์ของนางเป็นประเภทสงบจิต มิเช่นนั้นเกรงว่าตอนนี้คงเกิดเรื่องเลวร้ายอย่างยิ่ง

มู่หรงเหยียนถอยหลังสองก้าวไปยืนอยู่ที่ช่องรับลม กลิ่นหอมเจือจางที่ปลายจมูกหายไปในที่สุด เวลานี้เขาเพิ่งสังเกตว่าท่าทีของอวี๋ชิงหย่าดูแปลกไปจากเดิม

ม่านตาของนางขยายกว้าง ดวงตาเป็นประกาย น้ำเสียงแผ่วเบา เมื่อรวมกับกลิ่นเครื่องหอมสงบจิตที่ช่วยในการนอนหลับเวลานี้ มู่หรงเหยียนก็เดาได้อย่างง่ายดายว่านางกำลังทำสิ่งใดอยู่

มู่หรงเหยียนไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย ซ้ำยังรู้สึกว่าน่าขบขัน อวี๋ชิงหย่าคิดว่าวิธีการสะกดจิตชั้นต่ำเช่นนี้จะสามารถควบคุมจิตใจเขาได้จริงหรือ ครั้งหนึ่งมู่หรงเหยียนเคยเห็นสนมชายาในวังหลวงใช้แผนการพวกนี้มาก่อนเพื่อแย่งชิงความโปรดปราน พวกนางทั้งสวดภาวนาต่อเทพและบูชาพระ จุดธูปสะกดจิต ใช้คาถาอาคม หรือไปพบหมอผีที่แสร้งทำลึกลับหลอกลวงผู้คน อ้างว่าสามารถติดต่อกับผู้ตายได้ ทำให้คนเป็นมองเห็นชีวิตหลังความตาย เป้าหมายของคาถาเหล่านี้จะต้องเป็นคนที่ไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ผู้อื่นพูดอย่างไรก็เชื่ออย่างนั้น ขอแค่เป็นคนเช่นนี้ก็จะถูกสะกดจิตได้ง่าย แต่มู่หรงเหยียนไม่เชื่อเรื่องผีสางเทวดา ความระมัดระวังและความก้าวร้าวนั้นแข็งแกร่งมาก ใช้วิชาสะกดจิตกับเขา ไม่เป็นการหาเรื่องใส่ตัวหรอกหรือ

ในอดีตกระทั่งนักเวทในวังยังทำอะไรมู่หรงเหยียนไม่ได้เลยด้วยซ้ำ ยามนี้วิธีการของอวี๋ชิงหย่ายังห่างไกลกับนักเวทมาก นางก็ยังกล้าเอามาใช้ต่อหน้าเขาอีก

เดิมมู่หรงเหยียนไม่สนใจแม้แต่น้อย แต่ตอนนี้เขาไม่รีบร้อน จึงถือโอกาสอดทนดูอวี๋ชิงหย่า หรือพูดอีกอย่างก็คือดูว่าระบบที่อยู่เบื้องหลังของนางจะทำอะไร เนื่องจากมู่หรงเหยียนหยุดฝีเท้ากะทันหัน อวี๋ชิงหย่าจึงดีใจ กล่าวกับระบบทันที ‘ระบบ วิชาเสน่ห์ต๋าจี่มีประโยชน์จริงๆ นางหยุดแล้วจริงๆ ด้วย’

ระบบกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ‘วิชาเสน่ห์ต๋าจี่เป็นคลื่นอินฟราเรดที่ดึงมาจากสมองของแบบจำลอง หลังจากสร้างแบบจำลองอย่างสมบูรณ์โดยใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ อิงจากประสบการณ์ภัยพิบัติจากนารีอันเลื่องชื่อในประวัติศาสตร์ของพวกเรา เป้าหมายภารกิจจะไม่ได้ยินเสียงคลื่นอินฟราเรด แต่คลื่นเหล่านี้สามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อกิจกรรมทางจิตของเป้าหมาย ดังนั้นจึงสามารถบรรลุผลเช่นเดียวกับต๋าจี่มอมเมากษัตริย์’

คำอธิบายของระบบมีคำศัพท์เฉพาะทางมากมาย อวี๋ชิงหย่าฟังแล้วเข้าใจเพียงบางส่วน แต่นี่ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความเข้าใจคร่าวๆ ของอวี๋ชิงหย่า นางแค่รู้ว่าตอนนี้ตนเองเหมือนกับต๋าจี่และเปาซื่อในตำนานเล่าขานที่สามารถใช้เสน่ห์ให้กษัตริย์หลงมัวเมาได้ก็พอแล้ว

อวี๋ชิงหย่าคิดไปเองว่าวิชาเสน่ห์สำเร็จ จึงกล่าวต่อโดยกดน้ำเสียงต่ำลง “เจ้าพอใจกับชีวิตในตอนนี้แล้วจริงๆ หรือ ทั้งที่ความสามารถในการเล่นพิณของเจ้าไม่ด้อยไปกว่าอวี๋ชิงจยาแท้ๆ แต่แค่เพราะเจ้าเป็นอนุ ส่วนนางเป็นบุตรสาวสายตรง ดังนั้นเจ้าจึงเป็นได้แค่คู่บรรเลงของนาง ช่วยขับให้นางโดดเด่นเท่านั้น เห็นชัดๆ ว่าเจ้ามีผลงานอยู่ครึ่งหนึ่ง แต่ชื่อเสียงทั้งหมดกลับตกเป็นของนาง และไม่มีใครสังเกตเห็นเจ้าเลย”

มู่หรงเหยียนไม่พูดจา ซ้ำในแววตายังปรากฏรอยยิ้ม มองอวี๋ชิงหย่าอย่างเงียบๆ

อวี๋ชิงหย่าคิดว่าอีกฝ่ายถูกโน้มน้าวสำเร็จแล้ว จึงรีบใส่ไฟเพิ่มไปอีก “ฐานะเดิมของเจ้าก็ไม่เลว อวี๋ชิงจยาใช้งานเจ้าเช่นนี้ เจ้าจะปล่อยผ่านไปได้หรือ”

มู่หรงเหยียนอดทนมาตั้งนาน เป็นครั้งแรกที่รู้สึกว่าอวี๋ชิงหย่าพูดบางคำที่มีประโยชน์ เขาเห็นด้วยอย่างยิ่ง กล่าวว่า “พูดมีเหตุผล ปล่อยผ่านไปไม่ได้จริงๆ”

อวี๋ชิงหย่าดีใจอย่างยิ่งพลางคิดในใจ นึกแล้วว่าของจากระบบใช้งานได้ราบรื่นทุกอย่างจริงๆ ขนาดจิ่งหวนผู้นี้ตอนแรกยังเย็นชาอยู่ แต่พอใช้วิชาเสน่ห์ก็เชื่อฟังแต่โดยดี อวี๋ชิงหย่าสงบจิตใจ ก่อนจะเอ่ยปากอีกครั้งอย่างเย่อหยิ่ง “เจ้าจะไม่พอใจก็ถูกแล้ว ขอแค่เจ้าเชื่อฟังข้า ข้ามีวิธีที่จะทำให้เจ้ากลับมามั่งคั่งร่ำรวยได้ใหม่ แม้กระทั่งมารดาของเจ้า ขอแค่เจ้าทำผลงานได้ดี ข้าก็จะช่วยตามหานางให้เจ้าเช่นกัน”

มู่หรงเหยียนมองอวี๋ชิงหย่าที่เอ่ยอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง ยากจะนึกได้ว่าใต้หล้ามีคนที่โง่เขลาเช่นนี้อยู่ด้วย ไม่ต้องให้ข้าเปลืองแรง คนโง่ผู้นี้ก็พูดออกมาหมดเปลือกแล้ว เมื่อคิดเช่นนี้มู่หรงเหยียนก็ถามขึ้น “เจ้าคิดจะทำอะไร”

“อวี๋ชิงจยาทำลายแผนการใหญ่ของข้า ทำลายชื่อเสียงข้า ข้าต้องทำให้นางได้รับความรู้สึกเดียวกัน” อวี๋ชิงหย่าพูดอย่างไม่ไยดีพลางเหลือบมองมู่หรงเหยียนปราดหนึ่ง “ในตอนนี้ยังบอกแผนการโดยละเอียดกับเจ้าไม่ได้ ถึงเวลานั้นเจ้าเพียงฟังคำสั่งของข้าก็พอ”

วิชาเสน่ห์ของต๋าจี่สิ้นเปลืองคะแนนทุกชั่วขณะ อวี๋ชิงหย่ามองดูคะแนนที่หายไปราวกับบินหนีด้วยตาตนเอง นางเสียดายคะแนน จึงสิ้นสุดรัศมีเสน่ห์ทันทีที่เห็นว่าการสะกดจิตสำเร็จ อวี๋ชิงหย่าคิดว่านางใช้การข่มขู่และปิดท้ายด้วยผลประโยชน์หลอกล่อก็สามารถควบคุมมู่หรงเหยียนได้อย่างสมบูรณ์แล้ว จึงจากไปอย่างพึงพอใจ มู่หรงเหยียนเดินไปที่ลานเรือนอย่างไม่เร็วไม่ช้า ขณะที่เขาเดินก็คิดในใจว่าเพิ่งเคยพบนักโทษที่สอบปากคำง่ายเช่นนี้เป็นครั้งแรก

แค่ถามเรื่อยเปื่อยก็พูดออกมาหมดเปลือกแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมาบอกข้าก่อนลงมืออีก

หน้าที่แล้ว1 of 3

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com