ทดลองอ่าน ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน บทที่ 64 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน

ทดลองอ่าน ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน บทที่ 64

ลมหนาวพัดซู่ๆ กิ่งไม้แห้งเหี่ยวในลานเรือนส่งเสียงดังกรอบแกรบ ไป๋หรงไม่พบมู่หรงเหยียนในเรือนหลัง นางตกใจ รีบเดินไปข้างนอกทันที พบว่าเพิ่งเดินไปถึงระเบียงหน้าก็เห็นเงาร่างสีขาวเดินเข้ามาอย่างสง่างาม ไป๋หรงพลันหยุดนิ่งและก้มหัวหลีกทางให้ทันที

คุณชายหายตัวไปอย่างกะทันหัน เกือบจะทำให้ไป๋หรงตกใจตายอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ต่อให้นางยืมสิบความกล้า ก็ไม่กล้าถามว่าเมื่อครู่นี้มู่หรงเหยียนไปที่ใดมา

ไป๋หรงกลั้นหายใจ ก้มหน้ามองอิฐบนพื้น ไม่กล้ามองคุณชายตรงๆ คิดไม่ถึงว่ามู่หรงเหยียนกลับหยุดอยู่ข้างๆ นางแล้วถามว่า “นางอยู่ที่ใด”

คำพูดนี้เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีที่มาที่ไป ทว่าไป๋หรงตะลึงงันเพียงชั่วขณะก็เข้าใจทันที “เมื่อครู่นี้คุณหนูหกตามหาท่านไม่พบ กำลังจะสวมเสื้อคลุมออกไปข้างนอก คิดไม่ถึงว่าจะบังเอิญเจอท่านผู้บัญชาการทัพอวี๋เจ้าค่ะ ตอนนี้คุณหนูหก…บิดาและบุตรสาวกำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องหนังสือสองคนเจ้าค่ะ”

มู่หรงเหยียนพยักหน้า ก่อนจะเดินไปข้างหน้าอย่างเยือกเย็นโดยไม่พูดมากความแม้แต่คำเดียว ไป๋หรงจิตใจซับซ้อนเล็กน้อย คุณชายเหมือนกับที่เล่าลือกันดังคาด เขาเป็นคนนิสัยเย็นชาและเด็ดขาด ถือผลประโยชน์มาเป็นอันดับแรก แต่ในสายตาของเขาเหมือนมีแค่อวี๋ชิงจยาที่ดูแตกต่างออกไป

เมื่อครู่นี้มู่หรงเหยียนรำคาญอวี๋ชิงหย่า บอกว่าตนมีธุระสำคัญ เขามีธุระสำคัญจริงๆ และ ‘อวี๋ชิงจยา’ ก็คือธุระสำคัญของเขา มู่หรงเหยียนเดินไปถึงประตู งอนิ้วมือขึ้น ตอนที่กำลังจะเคาะประตู เขาก็หยุดชะงัก

เบื้องหน้าแม้มีประตูไม้หนึ่งบานกั้นอยู่ ทว่าเสียงข้างในกลับไร้สิ่งใดกั้นขวาง เนื่องจากมู่หรงเหยียนเดินอย่างไร้สุ้มเสียง อวี๋เหวินจวิ้นและอวี๋ชิงจยาที่อยู่ในห้องจึงไม่รู้ตัวว่ามู่หรงเหยียนมา

อวี๋เหวินจวิ้นเป็นห่วงอย่างยิ่ง เขาสอบถามรายละเอียดระหว่างทางของอวี๋ชิงจยาอย่างใจเย็น “วันนั้นม้าพวกเจ้าแตกตื่นวิ่งเตลิดออกไป มันวิ่งไปที่ใดกัน หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น”

อวี๋ชิงจยาเล่าเหตุการณ์ที่รถม้าเสียการควบคุม สุดท้ายคนทั้งสองจำต้องลัดเลาะป่าไม้และเข้าพักที่เมืองซีซงให้อวี๋เหวินจวิ้นฟังคร่าวๆ ไม่รู้เพราะเหตุใด ตอนที่อวี๋ชิงจยาเล่านั้นได้ข้ามเรื่องที่นางกับมู่หรงเหยียนหลบฝนในถ้ำภูเขาโดยไม่รู้ตัว แม้กระทั่งประสบการณ์ที่คนทั้งสองค้างแรมในโรงเตี๊ยมด้วยกัน นางก็เล่าผ่านไปอย่างคร่าวๆ

สำหรับมือสังหารสองคนที่ตามฆ่าพวกเขาในป่าแต่ภายหลังไร้ข่าวคราว อวี๋ชิงจยาไม่ได้เล่าถึง อวี๋เหวินจวิ้นเองก็ไม่ได้ถาม คนทั้งสองต่างรู้แก่ใจแต่ไม่พูดออกมา จึงเพียงปล่อยผ่านเรื่องนี้ไป

ในที่สุดอวี๋เหวินจวิ้นก็รู้ถึงเหตุการณ์หลังจากที่คนทั้งสองกลุ่มแยกทางกันแล้ว เขาแค่ฟังอวี๋ชิงจยาเล่าก็ตกใจจนทั่วร่างเต็มไปด้วยเหงื่อเย็น ไม่กล้าคิดแม้แต่น้อยว่าอวี๋ชิงจยาต้องประสบอันตรายมากน้อยเพียงใด อวี๋เหวินจวิ้นทอดถอนใจพลางกล่าว “ครั้งนี้ได้จิ่งหวนช่วยไว้เยอะมาก มิเช่นนั้น…”

อวี๋เหวินจวิ้นพูดได้ครึ่งหนึ่งก็หยุดกะทันหัน เนื่องจากเขาฉุกคิดได้ว่าหากไม่มีมู่หรงเหยียน อวี๋ชิงจยาก็ไม่ต้องประสบเหตุการณ์เหล่านี้ สุดท้ายแล้วนี่เป็นโชคหรือเคราะห์ก็มิอาจแยกแยะได้ชั่วขณะ

อวี๋ชิงจยาเดิมพยักหน้าเป็นเชิงว่ามีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง แต่จู่ๆ เห็นอวี๋เหวินจวิ้นหยุดพูด นางก็มองเขาอย่างไม่เข้าใจ แล้วกล่าวเสริมคำที่เหลือของอีกฝ่าย “ตลอดทางมานี้ได้จิ่งหวนช่วยดูแลข้าไว้มาก ควรขอบคุณนางเจ้าค่ะ”

อวี๋เหวินจวิ้นถอนหายใจเบาๆ ทีหนึ่ง ไม่อยากจะนึกถึงเรื่องเหล่านี้อีก เขามองอวี๋ชิงจยา แล้วกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจ “จยาจยา เมื่อก่อนพ่อใคร่ครวญไม่รอบคอบเอง คิดแต่จะให้จิ่งหวนมาเป็นอันดับแรก จนละเลยความรู้สึกของเจ้า หลายเดือนมานี้พ่อคิดทบทวนอย่างละเอียด ถึงได้พบว่าตอนอยู่ก่วงหลิงพ่อทำผิดต่อเจ้าไว้มาก เจ้าพูดถูก พ่อเข้าข้างจิ่งหวนมากเกินไป”

อวี๋เหวินจวิ้นจำได้ดี ตอนอยู่เมืองก่วงหลิง อวี๋ชิงจยาโวยวายใหญ่โตเพราะมู่หรงเหยียน นางคิดว่ามู่หรงเหยียนเป็นสตรี จึงเกิดอาการหวงบิดาอย่างยิ่ง สร้างปัญหาอยู่หลายครั้ง ตอนนั้นอวี๋เหวินจวิ้นคิดว่าเป็นแค่อารมณ์ของแม่นางน้อย ไม่ต้องสนใจ แต่สามเดือนมานี้ที่อวี๋ชิงจยาไม่อยู่ข้างกาย อวี๋เหวินจวิ้นก็ค่อยๆ คิดทบทวน และพบว่าวิธีการของตนนั้นไม่เหมาะสม ทั้งยังละเลยอวี๋ชิงจยาไปมาก

อวี๋เหวินจวิ้นได้รับบทเรียนแล้ว เขาตัดสินใจว่ากลับมาครั้งนี้จะปรับเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ ในเมื่ออวี๋ชิงจยากับมู่หรงเหยียนไม่ลงรอยกันประหนึ่งน้ำกับไฟ เช่นนั้นอวี๋เหวินจวิ้นก็ต้องพยายามมากขึ้นอีกสักหน่อย เพื่อแยกพวกเขาสองคนออกจากกัน

อวี๋ชิงจยานั่งบนที่นั่ง ถือโอกาสหยิบส้มในถาดผลไม้ขึ้นมาดูเล่น “ไม่ต้องเจ้าค่ะ ให้นางเป็นคนถือกุญแจเรือนก็ดีแล้ว”

อวี๋เหวินจวิ้นเตรียมคำพูดไว้เต็มท้อง พอได้ยินคำตอบของอวี๋ชิงจยาก็เกือบสำลัก เขาตกตะลึงจนอ้าปากค้าง หลังจากตะลึงงันอยู่พักใหญ่ก็ถามย้ำอย่างคาดไม่ถึง “เจ้ายอมให้จิ่งหวนดูแลเรือนต่อจริงๆ หรือ”

อวี๋ชิงจยามองอวี๋เหวินจวิ้นอย่างประหลาดใจ “ไม่เป็นไร เช่นนี้ดีแล้วเจ้าค่ะ”

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com