บทที่ 66 หนึ่งในหมื่น
อวี๋ชิงหย่าสีหน้าดำคล้ำ พลันแค่นหัวเราะเย็นชาแล้วกล่าว “เจ้าอย่าโอหังให้มากนัก ตอนนี้หัวเราะมีความสุขมากเกินไป ระวังภายหลังจะร้องไห้ก็ร้องไม่ออกเล่า”
อวี๋ชิงจยาแย้มยิ้มให้อวี๋ชิงหย่า อย่างไรก็ตาม แม้ปากนางจะยิ้มอยู่ แต่ภายในดวงตากลับเยือกเย็นอย่างยิ่ง “พี่หญิงสี่กำลังขู่ข้าอยู่หรือ น่าเสียดาย ข้ากลับรู้สึกว่าการหัวเราะก่อนร้องไห้ทีหลังก็ยังดีกว่าที่พี่หญิงสี่เป็น อย่างท่านนั้นคือการให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว หัวเราะไม่ออกตั้งแต่ต้นจนจบ”
“เจ้า…” อวี๋ชิงหย่าพลันเดือดดาลจัด
ทว่าอวี๋ชิงจยาไม่คิดที่จะพูดต่อ นางลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับอวี๋ชิงหย่าอย่างเย็นชา “รบกวนหลีกทางหน่อย ข้าจะกลับไปแล้ว”
อวี๋ชิงจยาเดินเฉียดผ่านข้างกายอวี๋ชิงหย่าไป ทว่าเพิ่งจะเดินห่างไปได้ไม่กี่ก้าว เสียงของอวี๋ชิงหย่าก็ดังไล่หลังมา “ที่ยามนี้น้องหญิงหกอวดดีเช่นนี้ได้ก็เพราะอาศัยที่ตนเองมีชื่อเสียง ท่านพ่อโปรดปรานเจ้า คนข้างนอกยกย่องเจ้าเป็น ‘อวี๋เหม่ยเหริน’ แต่เจ้าไม่คิดบ้างเล่า บทเพลงในวันนั้นหาใช่เจ้าบรรเลงเพียงคนเดียวเสียหน่อย”
อวี๋ชิงจยาคาดไม่ถึงว่าจู่ๆ อวี๋ชิงหย่าจะพูดถึงจิ่งหวนขึ้นมา นางสีหน้าเคร่งขรึม หันกลับไปมองอย่างเย็นชา “ท่านคิดจะพูดอะไร”
“ไม่มีอะไร แค่จะเตือนเจ้าไว้ ที่จริงแล้วข้ารู้ทุกอย่าง”
อวี๋ชิงหย่ายิ้มอย่างมั่นใจ เชิดคางให้อวี๋ชิงจยาอย่างคนเหนือกว่า
อวี๋ชิงจยานึกถึงสถานะของจิ่งหวน แม้จะรู้ดีว่าไม่มีทางที่จิ่งหวนจะหักหลัง แต่นางก็มีท่าทางระมัดระวังขึ้นมา “เรื่องของพวกเราสองคน เกี่ยวอะไรกับจิ่งหวนด้วย”
“เกี่ยวอะไรอย่างนั้นหรือ” อวี๋ชิงหย่าหัวเราะด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน กล่าวว่า “เพลงนั้นบรรเลงประสานร่วมกันสองคน หากจะมีชื่อเสียงก็ต้องมีชื่อเสียงด้วยกันสองคนสิ เจ้ากลับครอบครองผลประโยชน์ทั้งหมดไว้คนเดียว เจ้าคิดจริงๆ หรือว่าอนุผู้นั้นเต็มใจ หรือว่าเจ้าคิดจริงๆ ว่าอีกฝ่ายตระกูลตกต่ำ ใช้ชีวิตระหกระเหินเร่ร่อน ต้องถูกส่งตัวต่อไปเป็นทอดๆ เจ้าแค่มอบบุญคุณให้อีกฝ่ายเล็กๆ น้อยๆ แล้วทางนั้นจะไม่เอาใจออกหากจากเจ้าแล้ว?”
ตอนแรกอวี๋ชิงจยาคิดว่าจิ่งหวนสถานะถูกเปิดเผย แต่ภายหลังยิ่งฟังยิ่งรู้สึกไม่ถูกต้อง ตระกูลตกต่ำ ใช้ชีวิตระหกระเหินเร่ร่อน ต้องถูกส่งตัวต่อไปเป็นทอดๆ นี่คือ…จิ่งหวน?
อวี๋ชิงจยาเผยสีหน้าประหลาดใจ มองอวี๋ชิงหย่าด้วยสายตาที่ไม่รู้ควรเรียกว่าเวทนาหรือสงสัยดี “ท่านเคยพบจิ่งหวนเป็นการส่วนตัว? นางพูดเช่นนี้กับท่านหรือ”
“เฮอะ” อวี๋ชิงหย่าหัวเราะหยันอย่างดูแคลน กล่าวว่า “เจ้าคิดจริงๆ หรือว่านางดีกับเจ้าด้วยใจจริง เสียดายที่นางเกลียดชังเจ้ามานาน เป็นฝ่ายมามอบความจริงใจกับข้าเอง ยินดีช่วยข้าเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของเจ้าต่อหน้าทุกคน”
“นี่ก็คือสิ่งที่นางพูดกับท่าน?”
“ถูกต้อง”
อวี๋ชิงจยาส่งเสียงจิ๊ในใจ มองอวี๋ชิงหย่าด้วยสายตาที่มองคนโง่เขลา “ถึงนางพูดเช่นนั้นจริง ท่านก็เชื่อด้วยหรือ”
อวี๋ชิงหย่าชะงัก เบิกตาโตจ้องมองอวี๋ชิงจยา “เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
“ไม่ได้หมายความว่าอะไร” อวี๋ชิงจยาส่ายหน้า ถอนหายใจคราหนึ่งแล้วกล่าว “ท่านมีอะไรจะพูดอีก เชิญพูดต่อได้เลย”
อวี๋ชิงหย่ามักรู้สึกว่ามีตรงที่ใดแปลกๆ อยู่เสมอ นางเพิกเฉยต่อความรู้สึกนี้แล้วยุแยงให้คนแตกแยกตามแผนของตนเองต่อ นางเอ่ยกับอวี๋ชิงจยาว่า “คนผู้นี้แม้จะเป็นแค่อนุ แต่เล่ห์เหลี่ยมไม่เบาเลย ซึ่งนั่นก็ไม่แปลก เพราะนางเคยเป็นถึงคุณหนูตระกูลพ่อค้า วัยเด็กเคยใช้ชีวิตอย่างมีความสุข จิตใจสูงส่ง แต่เนื่องจากชะตากรรมอาภัพ เลยไม่แปลกที่จะใช้เจ้าเป็นแท่นเหยียบเพื่อปีนขึ้นไป”
“คุณหนูตระกูลพ่อค้า?” อวี๋ชิงจยาย้ำคำเหล่านี้อย่างช้าๆ พลันรู้สึกว่าอวี๋ชิงหย่าเหตุใดถึงไปรู้อะไรมามากมายเช่นนี้ นางถาม “ท่านรู้ได้อย่างไรว่านางเคยเป็นบุตรีตระกูลพ่อค้า”
“แม้แต่เรื่องนี้เจ้าก็ไม่รู้?” อวี๋ชิงหย่าเข้าใจอารมณ์บนใบหน้าของอวี๋ชิงจยาผิด คิดว่าจี้โดนจุดสำคัญของอวี๋ชิงจยาเข้า พลันรู้สึกภูมิใจและนึกดูแคลนในคราวเดียวกัน “เจ้าเป็นเช่นนี้ยังคิดจะควบคุมจิ่งหวนอีก มิน่าถึงได้ถูกคนแว้งกัด จิ่งหวนเคยเป็นบุตรีของตระกูลพ่อค้า ภายหลังบิดาตายในสงคราม ผู้อาวุโสในตระกูลขับไล่พวกนางออกไป ภายหลังนางกับมารดาไม่ทันระวัง พลัดพรากจากกัน นางถูกส่งต่อไปหลายที่ ถึงได้ถูกคนส่งมาให้ท่านพ่อ”
อวี๋ชิงหย่าพูดสิ่งเหล่านี้ เดิมคิดจะโอ้อวด แต่อวี๋ชิงจยากลับไม่แสดงอาการโกรธเกรี้ยวหรือไม่พอใจใดๆ ซ้ำยังฟังไปพลางพยักหน้าไปพลาง สุดท้ายยังกล่าว “อ้อ” เป็นเชิงกระจ่างแจ้ง
นางไม่พอใจกับท่าทีตอบสนองเช่นนี้ของอวี๋ชิงจยา อวี๋ชิงหย่าทำหน้าตาบูดบึ้งแล้วซักถาม “เจ้า ‘อ้อ’ อะไร”
“ข้ากำลังขอบคุณท่านอยู่ หากไม่ใช่เพราะท่านพูด ข้าก็ยังไม่รู้ชาติกำเนิดของนางจริงๆ” อวี๋ชิงจยาถอนหายใจให้คำพูดเหล่านี้ที่พูดได้ดูน่าเชื่อถือเสียเหลือเกิน หากไม่ใช่เพราะนางรู้ว่ามันเป็นเช่นนั้นไม่ได้อยู่แล้ว นางก็คงนึกไปแล้วว่าเรื่องราวอันน่าเวทนานี้เป็นเรื่องจริง อวี๋ชิงจยาพลันเกิดความรู้สึกประหลาด จิ่งหวนสามารถแต่งเรื่องชาติกำเนิดขึ้นมาได้ตามใจชอบเยี่ยงนี้ เช่นนั้นเรื่องราวที่เขาบอกกับข้า…เป็นจริงหรือเท็จ