ครั้นเห็นอวี๋ชิงจยาทำท่าครุ่นคิด อวี๋ชิงหย่าก็หัวเราะอย่างได้ใจ ลดเสียงต่ำลงแล้วเอ่ยยั่วยุต่อ “เจ้าเห็นนางเป็นคนรู้ใจ แต่เสียดายที่อีกฝ่ายไม่ชอบหน้าเจ้า ชื่อเสียงของเจ้ากว่าครึ่งในตอนนี้เป็นของนาง หากนางเปิดโปงเจ้าต่อหน้าทุกคน ตอนนี้เจ้ายิ่งปีนสูงเท่าไร วันหน้าก็ยิ่งตกลงมาปางตายเท่านั้น”
อวี๋ชิงหย่าพูดจบแล้วแสร้งยิ้ม มองอวี๋ชิงจยาอย่างชั่วร้าย อยากจะเห็นสีหน้าอับอายและสงสัยบนใบหน้าของนาง ทว่าอวี๋ชิงจยาเพียงกะพริบตา ครั้นเห็นอวี๋ชิงหย่าพูดจบก็ถามต่อ “มีแค่นี้หรือ”
อวี๋ชิงหย่างุนงงกับคำถาม เหตุใดอวี๋ชิงจยาถึงตอบสนองเช่นนี้ นางใช้เรื่องของจิ่งหวนมาขู่อวี๋ชิงจยา แต่อวี๋ชิงจยาไม่กลัวเลยหรือ
อวี๋ชิงหย่าโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง กัดฟันกล่าว “เจ้ารู้จักนางจริงๆ หรือ รู้ว่านางมาจากที่ใด จะทำอันใดด้วย? แม้แต่สถานะที่แท้จริงของนางเจ้ายังไม่รู้เลย คิดว่าจิ่งหวนจะจริงใจกับเจ้าจริงๆ หรือ ตอนนี้นางก็แค่หลอกใช้เจ้าเท่านั้น”
อวี๋ชิงจยารู้สึกว่าอวี๋ชิงหย่ายั่วยุได้น่าขันเหลือเกิน แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคำพูดเหล่านี้ของนางพูดได้ตรงประเด็น อวี๋ชิงจยาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับจิ่งหวนจริงๆ สถานะของเขา ที่มาของเขา เขาคือใคร และเขาต้องการทำอะไร นางไม่รู้เลย
อวี๋ชิงจยาเคยคิดว่าชาติกำเนิดที่เขาบอกนางออกจากปากตนเองไม่มีทางเป็นคำลวง แต่ตอนนี้ได้ยินประสบการณ์ชีวิตที่ ‘สมจริง’ ของเขาจากปากอีกคน อวี๋ชิงจยาพลันสงสัยขึ้นมาว่าสิ่งที่ตนรู้เป็นความจริงหรือไม่
อวี๋ชิงจยานิ่งเงียบไม่พูดจา ผ่านไปครู่หนึ่งก็ส่ายหน้า “ข้ารู้จักนางไม่มากจริงๆ แต่ในเมื่อนางบอก ข้าก็เต็มใจเชื่อนาง หากว่าสักวันหนึ่งพิสูจน์ได้ว่านางหลอกลวงข้า เช่นนั้นก็ถือเสียว่าพวกเราวาสนาไม่พอ ข้าพร้อมยอมรับ” อวี๋ชิงจยาพูดพลางเงยหน้ามองอวี๋ชิงหย่า ดวงตาใสสะท้อนเงาของอวี๋ชิงหย่าชัดเจน ลูกตาดำขาวแบ่งชัด เป็นประกายแวววาวน่าหลงใหล “ลำบากท่านยั่วยุมาตั้งนาน เสียดาย ไม่ว่าท่านจะพูดอะไร ข้าก็ไม่เชื่อท่าน”
อวี๋ชิงหย่าโกรธเกรี้ยว นางสิ้นเปลืองน้ำลายตั้งมากมาย อวี๋ชิงจยากลับตอบสนองเช่นนี้หรือ อวี๋ชิงหย่ากล่าวพลางกัดฟันกรอด “โง่เขลาไม่รู้ความ ดื้อดึงยิ่งนัก เจ้าไม่กลัวถูกหลอกจนสูญเสียทุกอย่างหรือ”
“แล้วจะเป็นอันใด เพราะอย่างไรเสียข้าก็ไม่ฟังที่ท่านพูด” อวี๋ชิงจยากลอกตาไปที่ร่างของอวี๋ชิงหย่า ปรายตามองอย่างดูแคลน “ไยข้าต้องฟังคำพูดของผู้แพ้ด้วย”
อวี๋ชิงหย่าตะลึงงัน นางพลันระเบิดโทสะ
อวี๋ชิงหย่าก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว สายตาไม่เป็นมิตร เห็นได้ชัดว่าอาศัยที่ตนเองมีระบบคิดจะทำอะไรบางอย่าง
อวี๋ชิงจยาเลิกคิ้วเล็กน้อย หัวเราะเบาๆ แล้วกล่าว “มีอันใด ยั่วโมโหไม่ได้ก็เลยจะลงมือหรือ เช่นนั้นท่านก็มาตีข้าเลยสิ ถึงอย่างไรที่นี่ก็มีคนมากมาย ท่านลงมือ ข้าก็จะร้องไห้ จากนั้นทุกคนก็จะได้รู้ว่าคราวก่อนหลังท่านแพ้การดวลพิณให้น้องสาว กลับบ้านไปก็ลงมือรังแกน้องสาว ให้ทุกคนได้ดูว่าท่านศีลธรรมต่ำทรามอย่างไรบ้าง สามารถทำเรื่องชั่วช้าได้โดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด”
อวี๋ชิงหย่าโกรธมาก อวี๋ชิงจยาทำตัวโอนอ่อนเชื่อฟังต่อคนภายนอก ไม่กระตือรือร้นในชื่อเสียงและผลประโยชน์ แต่ตอนนี้อวี๋ชิงจยากลับนำชัยชนะในการดวลพิณเมื่อครั้งก่อนมายั่วยุนางอย่างเปิดเผย อวี๋ชิงหย่ากำมือแน่น เล็บจิกจนฝ่ามือเป็นรอยแดง นางแทบอยากจะลากอวี๋ชิงจยาออกไปให้คนอื่นๆ ดูทันที ให้พวกนางได้เห็นโฉมหน้าของอวี๋ชิงจยาในตอนนี้ นางถึงกับอยากให้ระบบบันทึกภาพไว้ด้วย แล้วฉายให้คนนอกดู อย่างไรก็ตาม หลังจากระเบิดโทสะแล้วสติของอวี๋ชิงหย่าก็กลับมาชัดเจนอีกครั้ง หากนางฉายภาพออกไป อวี๋ชิงจยาจะถูกคนวิจารณ์หรือไม่นั้นยังไม่แน่ แต่นางจะเป็นฝ่ายเปิดเผยตนเองโดยสมบูรณ์
อวี๋ชิงหย่าโกรธจนคลุ้มคลั่ง ทั้งที่มีหลักฐานอยู่ในมือแท้ๆ แต่ไม่สามารถแสดงออกมาได้
อวี๋ชิงจยาเห็นอวี๋ชิงหย่าสีหน้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วก็เบ้ปากอย่างเบื่อหน่าย “ท่านจะลงมือหรือไม่ ถ้าไม่ลงมือข้าก็ขอตัวก่อนแล้ว”
อวี๋ชิงจยาสะบัดกระโปรง เดินจากไปอย่างนุ่มนวลท่ามกลางสายตาที่แทบจะจับคนกินของอวี๋ชิงหย่า นางทำได้เพียงมองอวี๋ชิงจยาเดินเชิดหน้าจากไปต่อหน้าต่อตา จนกระทั่งคนไปแล้วนางก็กระทืบเท้าอย่างแรง แล้วตะโกนใส่ระบบด้วยความโกรธเกรี้ยว ‘ระบบ คนเช่นนี้ไยถึงเป็นนางเอกได้!’
ระบบหยุดนิ่งไปครู่หนึ่งแล้วกล่าวอย่างซื่อตรง ‘ในหนังสือประวัติศาสตร์ยกย่องหมิงซีฮองเฮาสูงส่ง บางที…วรรณกรรมอาจจะกล่าวเกินจริงเล็กน้อย’
อวี๋ชิงหย่าโกรธจนแทบกระอักเลือด นางกัดฟันกล่าว ‘ยาที่เจ้าจัดมาให้ แน่ใจนะว่าไม่มีปัญหา’
‘แน่นอน’
‘ดี!’ อวี๋ชิงหย่าดวงตาฉายแววชั่วร้าย มองแผ่นหลังของอวี๋ชิงจยาอย่างอำมหิต ‘ทางฝั่งจิ่งหวน ให้ดำเนินตามแผนการทั้งหมด’