อวี๋ชิงจยาเพิ่งเดินออกไปได้ไม่นาน ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลัง นางลอบกลอกตา กำลังจะหันกลับไปถามอวี๋ชิงหย่าว่าคิดจะทำอะไรอีก แต่ก็พลันตาลาย ได้ยินเสียงของอวี๋ชิงหย่าที่ดูมอมเมาแฝงความเย้ายวนไว้ราวกับดังมาจากที่ที่ไกลมาก “จิ่งหวนจะหักหลังเจ้า วันนี้นางจะแสดงศิลปะให้อิ่งชวนอ๋องดูตามลำพัง จากนั้นนางก็จะบอกกับอิ่งชวนอ๋องว่าเพลงพิณทั้งหมดนางเป็นผู้บรรเลง วันนั้นเจ้าอาศัยม่านไม้ไผ่อำพราง ที่จริงแล้วไม่ได้ดีดอะไรเลย”
อวี๋ชิงจยาแววตาเลื่อนลอย จิตสำนึกเริ่มเชื่องช้าลงภายใต้อำนาจของคลื่นเสียงอินฟราเรด แต่เมื่อนางได้ยิน ‘อิ่งชวนอ๋อง’ สมองก็ราวกับพบบางอย่างที่ไม่ปกติ สติพลันแจ่มชัดขึ้นมาทันที
ไม่ถูก จิ่งหวนจะไปพบอิ่งชวนอ๋องได้อย่างไร อิ่งชวนอ๋องรู้จักเขา ตามหาเขาด้วยตนเองอย่างไม่คำนึงถึงระยะทาง จิ่งหวนจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร
ราวกับพบท่อนไม้ในทะเลอันกว้างใหญ่ อวี๋ชิงจยาอาศัยแสงที่ริบหรี่นี้นึกถึงความทรงจำมากมายอย่างรวดเร็ว เมื่อนางฟื้นคืนสติ วิชาเสน่ห์ถูกพบช่องโหว่ ผลของมันก็หายไปทันที
อวี๋ชิงจยาฟื้นคืนสติ นางนึกถึงความสับสนเมื่อครู่นี้ก็ยังรู้สึกหวาดกลัวไม่หาย นางแสร้งทำเป็นเบิกตาอย่างสับสน จ้องมองไปข้างหน้าอย่างว่างเปล่า อยากฟังว่าอวี๋ชิงหย่ายังจะพูดอะไรอีก
อวี๋ชิงหย่าเปิดใช้วิชาเสน่ห์ต๋าจี่ นางเห็นการแสดงออกของอวี๋ชิงจยาก็คิดว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น จึงกล่าวต่อ “วันนี้จิ่งหวนจะหักหลังเจ้า ตอนนี้นางอยู่ในห้องรับแขกที่สองของสวนดอกไม้ เจ้าต้องไปขัดขวางนางทันที”
อวี๋ชิงจยากลัวว่าถ้าพูดแล้วจะเปิดเผยว่าตนมีสติดี จึงไม่พูดอะไรทั้งนั้น แล้วเดินไปข้างนอกเงียบๆ จนกระทั่งเดินพ้นสายตาของอวี๋ชิงหย่าแล้วนางถึงค่อยถอนหายใจ
ทว่านางเพิ่งจะถอนหายใจไม่นาน พอนึกถึงท่าทางผิดปกติของอวี๋ชิงหย่าก็รู้สึกระแวดระวังขึ้นมาทันที เสียงของอวี๋ชิงหย่าเมื่อครู่นี้แปลกประหลาดมาก นางรู้สึกได้ว่านั่นไม่ใช่ความสามารถที่คนเราจะมีได้เด็ดขาด มองออกได้ง่ายว่านี่ก็เป็นดรรชนีทองคำของระบบอีกแล้ว
อวี๋ชิงจยารู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก เมื่อนางได้ยินว่าอิ่งชวนอ๋องก็พลันหลุดจากภวังค์ด้วยความตกใจ แล้วจิ่งหวนเล่า เป็นเรื่องจริงที่ปีศาจจิ้งจอกเฉลียวฉลาดกว่าข้า สงบเยือกเย็นกว่าข้า แข็งแกร่งกว่าข้า และมีความสามารถในการควบคุมจิตใจ แต่ถ้าเกิดเรื่องเหนือความคาดหมายขึ้นเล่า
อวี๋ชิงจยามองไปทางสวนดอกไม้ ยังไม่อาจเสี่ยงกับ ‘เรื่องเหนือความคาดหมาย’ นางกัดฟัน ยกชายกระโปรงแล้วเดินไปที่ห้องรับแขกอย่างรวดเร็ว
อวี๋ชิงจยาเดินเงียบๆ ข้ามสวนดอกไม้ เดิมนางตั้งใจจะมองหาคนอย่างรวดเร็ว หากเขาไม่อยู่ตรงนั้นก็จะดีมาก แต่ถ้าโชคไม่ดีเขาถูกสะกดจิตให้อยู่ที่นี่ นางก็จะได้เรียกสติเขา แล้วออกจากที่นี่ด้วยกันสองคน ซึ่งนั่นก็ยังทัน แต่อวี๋ชิงจยาเพิ่งจะเดินเข้าระเบียงทางเดิน ยังไม่ทันเปิดประตูห้อง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงทำความเคารพจากด้านหลัง อวี๋ชิงจยาร้องในใจว่าแย่แล้ว ยามเห็นมู่หรงสวี่กำลังเดินขึ้นมาบนระเบียงทางเดิน ขณะที่อวี๋ชิงจยาวนไปรอบๆ อย่างร้อนใจด้วยไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี จู่ๆ ที่ด้านหลังก็มีมืออันเรียวยาวข้างหนึ่งอุดปากของนางไว้ ยังไม่ทันให้นางตอบโต้ก็รู้สึกโลกหมุนคว้าง แล้วนางก็ถูกลากไปในห้องหนึ่ง
อวี๋ชิงจยาถูกปิดปาก เมื่อนางเห็นคนตรงหน้าแล้ว แสงในดวงตาก็เปล่งประกาย “ปีศาจจิ้งจอก!”
มู่หรงเหยียนใช้นิ้วทาบกับริมฝีปากเป็นเชิงให้นางสงบ คนทั้งสองพิงประตู ต่างได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน รอกระทั่งเสียงฝีเท้าข้างนอกผ่านไปแล้วมู่หรงเหยียนจึงค่อยก้มหน้า แล้วจ้องนางอย่างจนใจ “วันนี้เตือนเจ้าแล้วไม่ใช่หรือ เจ้ามาได้อย่างไร”
อวี๋ชิงจยาริมฝีปากสั่น สุดท้ายก็หลุบตาลง น้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อย “ข้ารู้ แต่ข้ากลัวเกิดเรื่องเหนือความคาดหมาย”
นางรู้ว่าในหนึ่งหมื่นมีโอกาสอยู่เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าที่มู่หรงเหยียนจะมองอุบายนั้นออกและไม่ตกหลุมพราง แต่ถ้าเกิดเป็นหนึ่งในหมื่นเล่า
นางเดิมพันกับหนึ่งในหมื่นนี้ไม่ได้
(ติดตามต่อได้ในฉบับเต็มเดือน กรกฎาคม 2567)