ทดลองอ่าน ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน บทที่ 96 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน

ทดลองอ่าน ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน บทที่ 96

มู่หรงเหยียนถาม “เรื่องอะไร”

ไป๋หรงตกตะลึง ก่อนจะรู้สึกตัวว่ามู่หรงเหยียนได้ยินการสนทนาของนางกับข้ารับใช้จากในห้อง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ไป๋หรงก็ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว นางกล่าวว่า “เจ้านาย หลายวันมานี้คุณหนูหกดูอารมณ์ไม่ดี เหมือนจะมีเรื่องในใจเจ้าค่ะ”

เรื่องในใจ? มู่หรงเหยียนนึกถึงฝันเมื่อคืนอย่างไม่ทราบสาเหตุ เขานิ่งไปครู่หนึ่งแล้วถาม “นางอยู่ที่ใด”

“ประทินโฉมอยู่ในห้องเจ้าค่ะ”

ไป๋หรงพูดโดยก้มศีรษะอยู่ตลอด นางไม่ได้รับสิทธิพิเศษเหมือนอวี๋ชิงจยา ไม่กล้ามองใบหน้าของมู่หรงเหยียนตรงๆ อีกทั้งยังรู้สถานการณ์ดี จึงไม่สอบถามมู่หรงเหยียนว่าถามหาอวี๋ชิงจยาด้วยเหตุใด มู่หรงเหยียนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะเดินไปข้างนอกทันที

ข้ารับใช้ทั้งสองฝั่งสะดุ้งโหยง พวกเขารีบกล่าวขึ้น “เจ้านาย ตอนนี้ท่าน…”

มู่หรงเหยียนหันกลับมามองพวกเขา แต่ละคนต่างตกใจกลัวสายตาของเขา พากันก้มหน้าลงและคุกเข่า ไม่กล้ากล่าวอะไรแม้แต่คำเดียว

 

ไป๋จื่อหวีผมยาวของอวี๋ชิงจยา เลือกที่กลัดผมหินลวี่ซง* มารวบผมให้นาง แล้วเสียบพู่และปิ่นเข้าไปในที่กลัดผมทางด้านซ้ายและขวา หลังจากจัดแต่งผมเสร็จแล้วไป๋จื่อก็มองดูซ้ายและขวา ก่อนจะกล่าวด้วยความพึงพอใจอย่างยิ่ง “คุณหนูงดงามแต่กำเนิด แค่รวบผมอย่างเรียบง่ายก็น่ามองมากแล้วเจ้าค่ะ รอวันหน้าหาสามีได้แล้วสามารถมวยผมสูงได้ เมื่อแต่งองค์ทรงเครื่องครบหมดแล้ว ไม่รู้ว่าจะน่าตะลึงมากเพียงใด”

ราชวงศ์เหนือมีประเพณีนิยมเปิดเผย ในหมู่สตรีพูดล้อเล่นตามอำเภอใจเช่นนี้ไม่ถือเป็นการทำผิดธรรมเนียม ซึ่งไป๋จื่อก็ดูแลอวี๋ชิงจยามาตั้งแต่เด็ก มีสถานะกึ่งมารดากึ่งพี่สาว คำพูดหยอกล้อของนางเป็นเพราะตั้งตารอการแต่งงานของอวี๋ชิงจยาจริงๆ เหล่าสาวใช้ได้ยินประโยคนี้แล้วพากันยิ้ม อวี๋ชิงจยาเหลือบมองไป๋จื่อในคันฉ่องและอดยิ้มไม่ได้ “พูดเหลวไหลอะไรกัน”

“บ่าวไม่ได้พูดเหลวไหลนะเจ้าคะ” ไป๋จื่อจัดปอยผมของอวี๋ชิงจยาอย่างนุ่มนวล พลันมองอวี๋ชิงจยาพลางทอดถอนใจ “คุณหนูฉลาดและงดงาม จิตใจบริสุทธิ์ เป็นดั่งไข่มุกที่สง่างามอย่างสงวนท่าทีในสายตาบ่าว ไม่ว่าจะวางไว้ที่ใดก็เปล่งประกายสดใสอยู่เสมอเจ้าค่ะ ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าคุณหนูจะได้แต่งงานกับสามีเช่นไร”

ไป๋จื่อเผยความกลัดกลุ้มออกมารางๆ นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของสกุลอวี๋แม้แต่น้อย แต่จำต้องยอมรับว่าอำนาจของตระกูลยังคงเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญของการแต่งงานมาก เป็นเรื่องดีจริงๆ ที่อวี๋เหวินจวิ้นพาอวี๋ชิงจยาออกจากสกุลอวี๋ ชีวิตของพวกนางในช่วงเวลานี้มีแต่ความสงบและสบายใจ แต่ไป๋จื่ออายุมากแล้ว จำต้องพิจารณาให้ไกลขึ้น ตอนนี้อวี๋ชิงจยาถึงช่วงวัยที่ต้องหารือการแต่งงานแล้ว เรื่องของสกุลอวี๋ใหญ่โตถึงเพียงนั้น การแต่งงานของอวี๋ชิงจยาจะจัดการอย่างไรดี ในใจของไป๋จื่อ คุณหนูหกของนางคือสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดในใต้หล้า คู่ควรกับทุกคน แต่จำต้องยอมรับว่าการแตกแยกระหว่างอวี๋เหวินจวิ้นกับสกุลอวี๋จะส่งผลกระทบต่อการแต่งงานของอวี๋ชิงจยาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

อวี๋ชิงจยามองเห็นความกังวลที่ซ่อนอยู่ของไป๋จื่อ ตัวนางไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย ชีวิตคนไม่ควรประเมินจากการที่ได้แต่งงานกับบุรุษที่ดี การทำสิ่งที่ตนเองชอบถึงจะเป็นสิ่งที่อวี๋ชิงจยาให้ความสำคัญที่สุด อีกทั้งนางติดตามอวี๋เหวินจวิ้นออกจากสกุลอวี๋ คนนอกไม่สนใจว่านางจะยากลำบากหรือได้รับความไม่ยุติธรรมอย่างไร พวกเขาเห็นเพียงผลลัพธ์ที่ได้เท่านั้น จากเหตุการณ์นี้อวี๋ชิงจยาจะต้องถูกบรรดาฮูหยินตระกูลขุนนางตัดออกจากรายชื่อลูกสะใภ้อย่างแน่นอน จากนี้ก็คงพูดกับนางไม่ดีเท่าไร แต่อวี๋ชิงจยากลับรู้สึกไม่สนใจ ไม่ว่าคนนอกจะพูดอย่างไร การมีชีวิตที่ดีคือสิ่งสำคัญที่สุด

อวี๋ชิงจยากล่าว “การใช้ชีวิตก็เหมือนการดื่มน้ำ รู้ร้อนรู้หนาวด้วยตนเอง ชีวิตต้องใช้ด้วยตนเอง ไม่ใช่ให้ผู้อื่นมาบอก การแต่งงานของท่านแม่ถูกต้องตามประเพณี เหมาะสมอย่างยิ่ง แม้แต่การแต่งงานของหลี่ซื่อ คนนอกยังมองว่าดีมาก แต่หลังจากที่พวกนางแต่งงานแล้วมีคนใดที่ใช้ชีวิตได้ดีเล่า ผู้อื่นจะพูดอะไรล้วนไม่สำคัญ ดูว่าได้สิ่งใดมาอยู่ในมือถึงจะเป็นความจริงที่สุด”

ไป๋จื่อคิดตามก็เห็นด้วย หากยอมทนทุกอย่างจากอวี๋เหล่าจวินและอวี๋ชิงหย่าเพื่อการแต่งงานที่ดี นั่นคงต้องทุกข์ทรมานอย่างยิ่ง จิตใจของไป๋จื่อค่อยๆ สงบลงแล้วกล่าว “คุณหนูพูดถูกเจ้าค่ะ บ่าวสายตาตื้นเขินเกินไป คุณหนูใช้ชีวิตอย่างสดใสเช่นนี้ ใครได้แต่งงานกับคุณหนูถือว่าโชคดี ไม่รู้ว่าวาสนาของคุณหนูจะอยู่ที่ใด…”

ไป๋จื่อตกอยู่ในห้วงความคิด อวี๋ชิงจยารู้สึกร้อนตัวอย่างบอกไม่ถูก เมื่อครู่นี้นางเพิ่งกล่าวอย่างจริงใจว่าจะไม่ทำให้ตัวเองลำบากเพื่อสายตาชาวบ้าน แต่ขณะเดียวกันก็เก็บซ่อนความคิดอีกอย่างหนึ่งไว้ ที่นางไม่สนใจเรื่องการแต่งงาน แท้จริงแล้วเป็นเพราะในใจนางมีเงาของสามีในอนาคตอยู่แล้ว

อวี๋ชิงจยากระแอมอย่างกระอักกระอ่วน ลุกขึ้นและกล่าว “ข้างนอกเพิ่งจะฝนตกไป อากาศกำลังดี ข้าจะออกไปเดินข้างนอกสักหน่อย พวกเจ้าไม่ต้องตามมานะ”

ที่แห่งนี้เงียบสงบ ปล่อยให้อวี๋ชิงจยาเดินคนเดียวไม่มีอะไรให้น่ากังวลจริงๆ ไป๋จื่อกำชับอวี๋ชิงจยาว่าต้องรีบกลับมาแล้วไปทำงานของตนเองต่อ อวี๋ชิงจยากลัดผมด้วยหินลวี่ซง ปักปิ่นหยกสีเขียวอ่อนสองข้าง ด้านล่างสุดห้อยพู่เงิน ขณะที่นางเดินอยู่บนระเบียงทางเดินมีสายลมอบอุ่นพัดมา พู่เงินก็ส่งเสียงกระทบกรุ๊งกริ๊งเบาๆ

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ตัวเอกหญิงอย่างข้าขอทวงชะตากลับคืน

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 66-67

บทที่ 66 ผืนฟ้าเหนือฉางอันมืดลง ม่านราตรีคลี่คลุมอีกครั้ง เสียงย่ำกลองแจ้งเวลาวิกาลลอยมาจากหอกลอง หลังกำแพงสูงตระหง่านขอ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 62-63

บทที่ 62 เพียงตวัดตามอง สีหน้าของซู่เซิ่นฮุยก็เคร่งเครียดขึ้นทันที เขาหมุนตัวเดินกลับเข้ามาข้างในแล้วแกะตราครั่งภายใต้แส...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 1-2

บทที่ 1 อาจเป็นเพราะสภาพอากาศขมุกขมัวหนาวเย็นยาวนานถึงครึ่งปี ทำให้เครื่องหอมเป็นที่โปรดปรานของชาวต้าเว่ย ได้เติมเครื่อง...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน แม่ทัพฉางหนิง ขุนศึกหญิงพิทักษ์นครา บทที่ 64-65

บทที่ 64 จวงไท่เฟยหลบร้อนมาพักอยู่บนเขาเซิ่งซานทางตอนเหนือของเมือง วันนี้ซู่เซิ่นฮุยขี่ม้าออกจากที่พักตั้งแต่ฟ้ายังไม่สา...

community.jamsai.com