ตื่นเสียทีจะไม่มีทายาทแล้ว!
ทดลองอ่าน ตื่นเสียทีจะไม่มีทายาทแล้ว! บทที่ 2
ช่วงที่ผ่านมานี้นางต้องสิ้นเปลืองโลหิตไปช่วยเซวียนชิงอีกเป็นแน่ ริมฝีปากทั้งคู่ถึงได้เย็นเฉียบ แต่ก็ให้สัมผัสที่อ่อนนุ่มยิ่งนัก ซีกวงผละจากริมฝีปากคู่นั้นแล้วฟังเสียงอย่างตั้งใจ ทางด้านบนไม่มีความเคลื่อนไหวแล้ว ตอนนี้เขาถึงได้ผลักส่งนางขึ้นไป และเพื่อชักจูงให้ฉยงฉีเผยตัวออกมา ดวงตะวันจึงถูกเขาซ่อนเร้นไว้อีกครั้ง
พอเฟิงจงปีนขึ้นฝั่งก็เช็ดริมฝีปากก่อนจะเอ่ยอย่างขุ่นเคือง “ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้าลงน้ำไปเพราะมีแผนการสูงส่งอะไร แต่ทางที่ดีเจ้าควรจะกระชาก ‘ตัว’ ที่อยู่ในนั้นออกมาให้ได้ด้วย” นางพูดจบก็ทำมุทราท่องคาถา เซวียนชิงพลันกระโดดขึ้นมาจากน้ำ
เสียงหัวเราะของซีกวงดังมาจากใต้น้ำ คละเคล้าด้วยเสียงแผดคำรามของฉยงฉี เสียงนั้นห่างไกลออกไปทุกที เกรงว่าคงมุ่งลงไปยังส่วนลึกแล้ว
เฟิงจงยืนขึ้นบิดชายเสื้อก่อนจะสังเกตดูผิวน้ำ…มีแต่ความสงบราบเรียบ กระทั่งเสียงก็ไม่มีแล้ว นางขมวดคิ้วมุ่น เทพหนุ่มผู้นี้คงไม่ได้ถูกฉยงฉีตะปบแล้วกินดวงจิตไปเหมือนกันหรอกนะ
เนิ่นนานผ่านไปผิวน้ำถึงค่อยๆ ปรากฏริ้วคลื่นกระเพื่อมออกวงแล้ววงเล่าจากเล็กไปใหญ่ ตามติดด้วยเสียงสะเทือนเลื่อนลั่นที่ดังขึ้นทุกที จากนั้นบนผิวน้ำก็เกิดเสียงดังซ่า ซีกวงกระโดดออกมาจนได้ อาภรณ์ดำที่สะบัดต้องลมเต็มไปด้วยหยดน้ำ เขาลากแส้ยาวขึ้นมายืนหอบอยู่ริมธารน้ำ เห็นทีคงเปลืองแรงไปไม่น้อยทีเดียว
“ให้เขามาเป็นเหยื่อล่อที่ริมน้ำเถอะ สิ่งนั้นจวนจะออกมาแล้ว” ซีกวงชี้มือไปที่เซวียนชิง ส่วนเขาก็ถอยห่างไปหลายก้าว
เฟิงจงกลอกลูกตาเบาๆ ก่อนผงกศีรษะรับ ทำมุทราเรียกเซวียนชิงไปยืนนิ่งชิดติดริมน้ำโดยไม่รอช้า
ใต้น้ำสั่นสะเทือนในทันใด ซีกวงเพ่งสมาธิทั้งหมดจับจ้องไปที่ผิวน้ำ
ทว่าเฟิงจงกลับเพ่งสมาธิทั้งหมดจับจ้องไปที่ซีกวง มือนางซึ่งไพล่ไว้ด้านหลังทำมุทราจรดนิ้วไม่กี่หน เซวียนชิงก็หันขวับกลับมากอดซีกวงไว้อย่างแน่นหนาแล้ว
ซีกวงตะลึงงัน พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นเฟิงจงกำลังวิ่งตรงมาหาเขาแล้ว
เฟิงจงมีหรือจะโง่งมจนถึงขั้นเชื่อถือวาจาปากเปล่าไร้หลักฐานของบุรุษแปลกหน้าผู้หนึ่ง เทพหนุ่มผู้นี้มีเจตนาไม่แน่ชัด พฤติกรรมก็ไม่ชอบมาพากล นางจะไปวางใจได้อย่างไรกัน ที่กล่าวเออออไปตามคำพูดของเขาก็เพื่อจะรับมือฉยงฉีเท่านั้นเอง
มิสู้ใช้วิชาหุ่นเวทพันธนาการเขาไว้ก่อน ถึงตอนนั้นต่อให้เขามีเจตนาชั่วร้ายก็ยากที่จะประสบผลได้ หากไม่มีจิตคิดชั่วก็ดีไป เพียงแค่เชิญเขากลับพิภพสวรรค์ไปได้ตามสบาย หลังจากนี้ต่างฝ่ายต่างเป็นเช่นน้ำบ่อไม่ยุ่งกับน้ำคลอง*
ขณะที่ปลายนิ้วซึ่งมีโลหิตไหลออกมากำลังจะสัมผัสถูกหว่างคิ้วของซีกวงแล้วนั้น ในน้ำก็บังเกิดเสียงดังเลื่อนลั่น ฉยงฉีกระโจนออกมาในยามนี้พอดี พร้อมกับหอบเอาสายลมเย็นเยียบระลอกหนึ่งจู่โจมตรงเข้าใส่แผ่นหลังของเฟิงจง
นางกลิ้งไปกับพื้นหนึ่งตลบจนหลบพ้นไปได้อย่างฉิวเฉียด ก่อนรีบสะบัดโลหิตที่ปลายนิ้วออกไป ส่งผลให้ฉยงฉีต้องถอยร่นไปหลายก้าว ซีกวงที่สลัดหลุดจากเซวียนชิงได้แล้วก็ตวัดแส้รุกไล่ฉยงฉี ทำเหมือนมองเจตนาของนางไม่ออกแต่อย่างใด
ใต้น้ำพลันสั่นสะเทือนพร้อมกับเสียงดังเลื่อนลั่นขึ้นอีกครา คล้ายเป็นสัญญาณลับที่ทำให้ฉยงฉีไร้ซึ่งความหวาดกลัว สองตาของมันพลันทอประกายสีแดงจนชวนหนาวยะเยือก เส้นขนทั่วร่างชี้ชันดั่งเข็มแหลม เขี้ยวคมในปากงอกยาวขึ้นชุ่นเศษ จากนั้นมันก็โถมเข้ากัดซีกวงโดยไม่ครั่นคร้ามแม้แต่น้อย
ซีกวงสะบัดแส้ออกไปทันที ครานี้ถึงกับถูกมันแยกเขี้ยวงับเอาไว้ได้ เขาเองก็ถูกแรงกระชากจนล้มลงกับพื้น ต้องรีบยกมือกระตุกแส้ให้ขึงตรง ทำให้พอจะต้านขวางกรงเล็บอันคมกริบที่มันตวัดลงมาได้
เฟิงจงรีบคลานลุกขึ้นแล้ววิ่งไปยังพื้นที่การต่อสู้ ทว่าในสายตากลับจับจ้องแต่ซีกวง พอไปถึงใกล้ๆ สาวน้อยก็ยื่นนิ้วมือไปวาดยันต์หุ่นเวทบนท่อนแขนที่เปิดเปลือยอยู่ของเขาอย่างว่องไว
รอจนรอยเลือดซึมแทรกเข้าไปในร่างของเขาแล้ว นางถึงค่อยสะบัดหยดเลือดใส่ฉยงฉี
ฉยงฉีถอยหลบอย่างลนลาน เฟิงจงจึงฉวยโอกาสนี้ทำมุทราสั่งการหุ่นเวทคนใหม่ แต่กลับเห็นซีกวงอยู่นอกเหนือคำสั่ง เขาดีดร่างขึ้นจากพื้นมาเอ่ยถาม “เอ๋? นี่เจ้าใช้วิชาอะไรหรือ ทำให้เรี่ยวแรงของข้าฟื้นฟูมาไม่น้อยทีเดียว”
เฟิงจงตะลึงงันไปชั่วอึดใจ ก่อนจะรีบทำมุทราท่องคาถาซ้ำอีกครา ทว่าเขากลับยืนนิ่งได้เช่นเดิม ไม่เห็นมีทีท่าว่าจะถูกสั่งการเลยแม้แต่น้อย
ซีกวงยืดเส้นยืดสาย รู้สึกสบายไปทั้งร่างจริงๆ
วิชาหุ่นเวทที่มีมาแต่บรรพกาลนี้มีพลานุภาพรุนแรงยิ่ง ถึงขั้นกักกันร่างกายกับดวงจิตของอีกฝ่ายให้อยู่ภายใต้คำสั่ง แต่กลับไม่อาจใช้ซ้ำกับเป้าหมายเดิมได้ เดิมทีดวงจิตของเซวียนชิงก็มาจากเขาอยู่แล้ว พวกเขานับว่าเป็นคนเดียวกัน ในเมื่อถูกกักกันไปแล้วหนหนึ่ง ไหนเลยจะยังถูกกักกันซ้ำสองได้อีก
แม้หลังจากดวงจิตของเซวียนชิงกลับคืนสู่ร่างต้นกำเนิดจะนำพาฤทธิ์กักกันมาด้วย ทว่าดวงจิตอันน้อยนิดนี้ก็อ่อนแรงเกินกว่าจะกดข่มดวงจิตอันกล้าแข็งของร่างต้นกำเนิดได้ ประกอบกับโลหิตของนายผู้เลี้ยงหุ่นเวทกับดวงจิตของหุ่นเวทจะผสานเข้ากันมากยิ่งขึ้นตามการใช้วิชา เมื่อร่างต้นกำเนิดรับดวงจิตของเซวียนชิงเข้ามาแล้ว ความเข้ากันได้กับโลหิตของนางจึงอยู่เหนือพลังกักกันในส่วนนั้นไป ดังนั้นซีกวงจึงไม่เพียงไม่ตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์กักกัน เลือดของเขายังผสานเข้ากับเลือดของนางได้เป็นอย่างดี อีกทั้งปราณชีวิตในเลือดของนางก็มีสรรพคุณในการรักษาด้วย
“มิน่าเล่ามหาเทพหนี่ว์วาถึงชี้แนะให้ข้ามาหาเจ้า ที่แท้เราสองต่างก็ส่งเสริมเกื้อหนุนกันนี่เอง” เขาคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ก่อนจะตวัดแส้ไปรับมือกับฉยงฉี
เฟิงจงมองเขาอย่างรู้สึกเหลือเชื่อ หลายเดือนมานี้พลังวิเศษของนางเพิ่มพูนขึ้นมาก เหตุใดวิชาหุ่นเวทของนางจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้เล่า
กลางน้ำพลันบังเกิดเสียงประหลาดดังขึ้น ความสนใจของนางถูกดึงดูดไปทันที ก่อนจะเห็นกลางน้ำปรากฏบัวสีแดงดอกหนึ่งลอยขึ้นมาช้าๆ แรกเห็นยังนึกว่าเป็นภาพลวงตาเช่นคราก่อน ทว่ากะพริบตาซ้ำแล้วก็พบว่านั่นคือบัวสีแดงดอกหนึ่งจริงๆ ใจกลางกลีบบัวยังคล้ายห่อหุ้มอะไรเอาไว้ ทั้งส่งเสียงแปลกประหลาดมาเป็นระลอก นี่ก็คือเสียงที่ก่อนหน้านี้พวกเขาได้ยินหลายหนแล้วนั่นเอง
นี่ต้องเป็นสิ่งที่คอยผลักดันดวงวิญญาณของฉยงฉีอยู่ในน้ำนั้นเป็นแน่ เฟิงจงลุกขึ้นยืน สีหน้าของซีกวงก็เคร่งขรึมขึ้นมาเช่นกัน
ฉยงฉีซึ่งเดิมทีมีเพลิงโทสะท่วมฟ้าพลันสงบลง มันหอบแผ่วพลางถอยไปที่ริมน้ำ ขวางอยู่เบื้องหน้าบัวสีแดงอย่างระแวดระวัง จู่ๆ เสียงคำรามก็ดังขึ้น บัวสีแดงแย้มออกแล้ว ฉยงฉีพลันแปรสภาพเป็นหมอกดำกลุ่มหนึ่งมุดเข้าสู่ใจกลางกลีบบัว พอมันถูกเงาสีขาวอีกกลุ่มห่อหุ้มไว้เป็นชั้นๆ กลีบบัวก็หุบปิดอย่างรวดเร็ว จากนั้นจึงจมสู่ใต้น้ำไป
เฟิงจงไม่อยากให้เซวียนชิงต้องเป็นเหยื่อล่ออีก จึงบังเขาไว้ด้านหลังก่อนเอ่ยถามซีกวง “ถัดจากนี้เล่า”
ซีกวงสะบัดแส้ไล่ตามไปถึงริมน้ำแล้วยิ้มตอบ “มีหยดโลหิตของเจ้ามาช่วยข้าทั้งที ไม่ว่าอย่างไรข้าก็ต้องกระชากตัวมันออกมาให้จงได้”
ขณะที่เฟิงจงลอบหงุดหงิดจนลมหายใจติดขัดอยู่นั้น นางก็เห็นเขาสะบัดแส้ออกไปอีกหนแล้ว ครานี้ธารน้ำราวกับถูกผ่าแยกออก เสียงโหยหวนแปลกหูที่ดังออกมาเขย่าขวัญเสียยิ่งกว่าเสียงคำรามของฉยงฉี กลีบบัวสีแดงที่แหลกเป็นชิ้นๆ พลันลอยขึ้นกลางน้ำ ภายในนั้นมีเงาสีขาวกลุ่มหนึ่งพุ่งออกมาด้วย
แส้ของซีกวงประหนึ่งลมสลาตันแหวกพุ่งออกไปกระหวัดรัดเงาสีขาวนั้นไว้อย่างแน่นหนา ทันทีที่รวบกลับมาถึงเบื้องหน้าสายตา เขาก็ขมวดคิ้วมุ่น “นี่มันตัวอะไรกัน”
(ติดตามตอนต่อไปวันพรุ่งนี้)