“นั่นสิ ตำแหน่งตงจวินควรจะให้เจ้ามาเป็นมากกว่า”
ชิงหลีขึงตาใส่อีกฝ่าย “ข้าไม่เห็นอยากได้!”
ฉีอวิ๋นกลั้นหัวเราะไว้ แล้วจงใจเหาะเหินไปทางยอดเขาฝูเฟิง “ในเมื่อเจ้าไม่อยากไปตามหาจ่งเสิน เช่นนั้นข้าไปเรียกท่านเทพซีกวงมาร่วมทางกับข้าก็แล้วกัน”
ชิงหลีมีสีหน้าอึมครึมทันตาเห็น “เรียกเขา? อาศัยเขาที่มีฝีมือเพียงน้อยนิดแค่นั้น เจ้าไม่กลัวหรือว่าเขาจะทำเรื่องดีของเจ้าเสียการ”
ฉีอวิ๋นขานอ้อเสียงหนึ่งก่อนจะพูด “ก็เพราะข้าเห็นว่าเขารูปงามสง่าผ่าเผย บางทีอาจทำให้จ่งเสินพึงพอใจก็เป็นได้ ถึงตอนนั้นจ่งเสินอาจจะตามพวกเรากลับมาทันที!”
อารมณ์ดูแคลนเกลื่อนใบหน้าของชิงหลี “เขาก็มีแค่รูปโฉมเท่านั้นที่พอจะใช้งานได้” ชิงหลีพูดพลางสะบัดหน้าไป “เอาเถอะ เห็นเจ้าเป็นเช่นนี้ก็รู้สึกสงสารอยู่เหมือนกัน ข้าจะช่วยเจ้าอีกแรงก็ได้ ทิวเขาสุดเขตบูรพานี้น่าจะไม่เจออะไรแล้ว พวกเราไปดูที่อื่นเถอะ”
เหตุที่ฉีอวิ๋นเพียรชักจูงชิงหลีให้มาร่วมมือด้วยกันอย่างสุดชีวิตนั้น เป็นเพราะเขารู้ว่าวิหคครามสันทัดด้านการสำรวจค้นหา เมื่อเห็นอีกฝ่ายยอมเข้าร่วมด้วยแล้วเขาจึงแอบดีใจ รีบติดตามไปทันที “ไปดูที่ไหนกันดีเล่า”
ชิงหลีเอ่ยตอบ “ระยะนี้เหมือนปราณขุ่นมัวในพิภพมนุษย์จะถูกขจัดไปไม่น้อย ไม่สู้พวกเราไปดูที่พิภพมนุษย์สักหน่อยแล้วกัน” เขาพูดพลางเหาะมุ่งหน้าไปโดยไม่เหลียวหลัง ทั้งจงใจอ้อมเลี่ยงภูเขาฝูเฟิงไปเป็นพิเศษ
รอจนบุรุษทั้งสองขี่เมฆไปไกลแล้ว มังกรเขียวสองตัวที่ขดหมอบอยู่หน้ารถเชิญตะวันบนยอดเขาฝูเฟิงก็เคลื่อนตัวมากระหนาบซ้ายขวาที่ข้างตัวรถ พวกมันแหงนศีรษะขึ้นมองเจ้านายผู้กำลังนอนก่อน จากนั้นจึงวางกรงเล็บมังกรบนตัวรถแล้วพร้อมใจกันเขย่าอย่างแรง
ซีกวงลืมตาขึ้นช้าๆ “เขย่าหาอะไรของพวกเจ้ากัน ข้าตื่นตั้งนานแล้ว เสียงสนทนาของพวกเขาดังออกปานนั้น ต่อให้อยากจะนอนก็นอนไม่หลับอยู่ดี”
มังกรทั้งสองคลายกรงเล็บจากตัวรถ พร้อมใจกันเหลือกตาใส่เขา แล้วสะบัดศีรษะเคลื่อนตัวกลับไปอยู่ด้านหน้าตัวรถตามเดิม
ซีกวงเหยียดแขนขายืดออกด้วยอิริยาบถอันเกียจคร้าน ความรู้สึกที่ดวงจิตได้กลับคืนสู่ร่างต้นกำเนิดช่างยอดเยี่ยมเกินบรรยาย ไม่ต้องทนถูกพันธนาการจากฤทธิ์ของตะปูตรึงวิญญาณอีกต่อไปแล้ว
เขาเดินลงจากตัวรถแล้วเหลือบมองไปยังทางที่พวกชิงหลีหายลับไป นิ่งคิดเพียงชั่วครู่ก็หันหน้าไปกำชับมังกรทั้งสองหนึ่งประโยค “เฝ้าบ้านให้ดีๆ เล่า”
มังกรทั้งสองรีบเปล่งเสียงโอดครวญ เห็นแค่ผู้เป็นนายเหินร่างกระโดดลงสู่พิภพเบื้องล่างแล้ว
เดิมทีซีกวงไม่ใช่พวกที่ชอบยุ่งไม่เข้าเรื่อง ในขณะที่การเสาะหาจ่งเสินทั้งในที่ลับและที่แจ้งทั่วทั้งสามพิภพเป็นไปอย่างครึกโครม เขาก็ไม่เคยมีความคิดที่จะเข้าร่วมมาก่อน ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากสืบทอดสายโลหิต แต่เป็นเพราะเขารำคาญความยุ่งยากทั้งหลายที่จะตามมา
หากไม่ใช่เพราะรำคาญความยุ่งยาก มีหรือเขาจะหักใจปล่อยให้เซวียนชิงร่างแบ่งภาคที่ดีเพียงนั้นถูกจื่ออินเฒ่าสารเลวนั่นหยามศักดิ์ศรีเอาได้
ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว ในเมื่อจ่งเสินถึงกับโผล่มาให้เขาพบเจอด้วยตัวเอง มีเหตุผลใดกันที่เขาจะปล่อยให้ผู้อื่นชิงตัดหน้าไปก่อนก้าวหนึ่ง หาไม่ก็จะผิดต่อความเหนื่อยยากที่เขาสู้เป็นวัวเป็นม้าให้นางมาตั้งนานสิ!