เฟิงจงใช้ท่อนกระดูกสีขาวทิ่มปลายนิ้วให้เลือดออก จากนั้นใช้ท่อนกระดูกเปื้อนเลือดวาดไปทางวิญญาณพเนจรที่ประชิดมาใกล้ตัว วิญญาณที่อยู่ตรงหน้าถูกโจมตีในทันที มันแผดร้องโหยหวนก่อนจะแตกสลายไป
วิญญาณพเนจรตนอื่นเห็นเช่นนั้นก็หวาดผวา ประกอบกับเห็นเฟิงจงและฉยงฉีกระหนาบโจมตีมาทั้งหน้าหลัง พวกมันจึงแตกฮือหนีเตลิดเปิดเปิงไปทันที
ทว่ายังไม่ทันจะหนีไปไหนได้ไกล ลมสลาตันหอบหนึ่งก็กวาดมาถึงในฉับพลัน เหล่าวิญญาณพเนจรไม่ทันจะเปล่งเสียงร้องก็แหลกสลายเป็นผุยผงไปก่อนแล้ว
ซีกวงร่อนลงที่เบื้องหน้าเฟิงจง ก่อนรวบเก็บแส้อย่างเนิบช้า “หึๆ นี่มันผีทวงหนี้มิใช่หรือ”
เฟิงจงดูดปลายนิ้วเพื่อหยุดเลือดแล้วก็เอ่ยอย่างงุนงง “ข้าติดหนี้อะไรพวกมันเล่า”
ซีกวงตอบ “พวกมันล้วนกลายร่างมาจากผู้ที่ตายก่อนเวลาอันควร ย่อมรู้สึกว่าใครๆ ก็ติดค้างพวกมันทั้งสิ้น คาดว่าระหว่างที่ร่อนเร่คงสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายร่างอายุวัฒนะของคนเป็น ในใจจึงบังเกิดความริษยา ถึงได้อยากมาทำร้ายเจ้า”
เฟิงจงพลันเข้าใจกระจ่าง เมื่อครั้งยังเป็นเทพ สิ่งที่มาจากพิภพวิญญาณเหล่านี้ล้วนไม่กล้าเข้าใกล้นางแม้แต่น้อย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่นางได้ยินว่ามีผีทวงหนี้พวกนี้อยู่ “เจ้ามาได้ถูกเวลานัก หากปล่อยให้พวกมันหนีกลับตำหนักยมโลกไปได้ อวี้ถูก็จะรู้เรื่องที่ข้ามีร่างอายุวัฒนะทันที”
“จุ๊ๆ คิดไม่ผิดเลยจริงๆ ยังคงต้องมีข้าอยู่ด้วยสินะ” ซีกวงนั่งลงกับพื้นแล้วหยิบถุงแพรใบเล็กกะทัดรัดจากในแขนเสื้อยื่นส่งให้นาง “นี่คือถุงฟ้าดิน สามารถเก็บบรรจุได้ทุกสรรพสิ่ง พวกเราเดินทางกันทั้งอย่างนี้คงไม่สะดวก มิสู้เจ้าใส่หุ่นเวทไว้ในนี้แล้วพกติดตัวจะดีกว่า”
เฟิงจงเพิ่งจะรับถุงแพรใบนั้นมา เขาก็เอ่ยเสริมอีกประโยค “แค่ให้เจ้ายืมใช้ก่อนเท่านั้น วันหน้าต้องคืนข้าด้วย”
“ชิ! อย่างข้าหรือจะฮุบเอาไป”
ซีกวงแบสองมือออก “ช่วยไม่ได้นี่ ถุงใบนี้ข้าขอยืมจากหลงต้ามาอีกที ตอนนี้มันยังเคืองข้าอยู่เลย”
เฟิงจงงงงัน “หลงต้าเป็นผู้ใด”
ซีกวงจุปากพลางส่ายหน้า “หากไม่ใช่หลงต้ากับหลงเอ้อร์มังกรที่ตำหนักข้าช่วยโปรยฝนลดไอร้อนให้เจ้า เจ้านึกว่าตนเองยังจะเริงร่าอยู่ที่นี่ได้อีกหรือ”
ตอนนี้เฟิงจงถึงได้เข้าใจว่าสายฝนในห้วงฝันนั้นมาจากที่ใด สาวน้อยจึงเอ่ยว่า “ขอบคุณนะ”
“โอ๊ะ จ่งเสินถึงกับกล่าวขอบคุณข้าด้วย” ซีกวงยกมือทาบอก ทำทีเป็นตกใจที่ได้รับความเมตตาอย่างไม่คาดฝันนี้
“ที่ข้าขอบคุณคือมังกรของเจ้าต่างหาก” เฟิงจงค้อนใส่ ก่อนจะเปิดถุงแพรให้ดูดเอาเซวียนชิงเข้าไปพร้อมกับหลัวสะพายหลังใบนั้น ส่วนฉยงฉีก็ปล่อยไว้ข้างนอกตามเดิม เจ้าตัวจ้อยนี่เหลี่ยมจัดยิ่งนัก เกิดทำหน้าไหว้หลังหลอก รังแกหุ่นเวทอยู่ในถุงฟ้าดินนางก็มองไม่เห็นน่ะสิ
เมื่อเตรียมการพร้อมสรรพก็เป็นเวลาครึ่งคืนหลังไปแล้ว กระแสลมมีท่าทีที่จะโหมแรงขึ้น เกรงว่านอกหุบเขาคงเกิดพายุทรายขึ้นแล้ว
เฟิงจงหลับไปได้เพียงครู่เดียว ทั้งหลับไม่สนิทเลยสักนิด ท้องนภาเพิ่งจะสว่างรำไรนางก็ตื่น ครั้นชะโงกศีรษะมองออกไปนอกหุบเขาก็พบว่าพายุทรายสงบลงแล้ว ทางหนึ่งนางจึงรีบไปล้างหน้าบ้วนปากที่ริมบึง อีกทางหนึ่งก็ร้องเรียกซีกวง “เร็วเข้า รีบออกเดินทางตอนที่อากาศยังดีอยู่เถอะ”
ซีกวงนั่งสมาธิอยู่ข้างกองไฟ เขาพูดโดยไม่แม้แต่จะลืมตา “เจ้าก็ช่างใจร้อนเกินไปแล้ว”
เฟิงจงไม่แยแส นางอยากรีบออกเดินทางประเดี๋ยวนี้เลย ฉยงฉีที่ยังหลับอุตุถูกนางตีไปครั้งหนึ่งจนสะดุ้งตื่น ตอนที่มันยืนขึ้น ตัวยังโงนเงน มีสภาพงัวเงียอยู่เลย
ซีกวงค่อยๆ ยืนขึ้น แล้วค่อยเดินเนิบนาบตามเฟิงจงไป ก่อนจะจากไปเขายังสะบัดแขนเสื้อด้วยครั้งหนึ่ง เพิงพักที่สร้างอยู่แต่เดิมพลันหายไป กระทั่งร่องรอยของกองไฟที่เคยเผาไหม้บนพื้นทั้งหมดยังหายไปจนเกลี้ยง
ยามตะวันแรกเบิกฟ้า หลงต้ากับหลงเอ้อร์ที่เพิ่งส่งดวงตะวันขึ้นสู่ยอดต้นฝูซัง กำลังอยู่ระหว่างทางกลับภูเขาฝูเฟิง
ฉับพลันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้เป็นนาย หลงเอ้อร์จึงโผล่จากกลีบเมฆออกมามองหา เห็นตงจวินของพวกมันกำลังเดินทางอยู่ในพิภพเบื้องล่าง ด้านหน้าของตงจวินคือสาวน้อยมนุษย์เดินดินผู้นั้น ข้างเอวของนางเหน็บถุงฟ้าดินใบเล็กกะทัดรัดไว้ ข้างเท้ายังมีสัตว์อสูรที่ชวนรำคาญตัวนั้นติดตามมาด้วย
หลงต้ากลุ้มอกกลุ้มใจยิ่ง “หมู่นี้ตงจวินแปลกพิกลยิ่งนัก เหตุใดจึงใส่ใจมนุษย์ผู้หนึ่งถึงเพียงนี้ พวกเราต้องเกลี้ยกล่อมตงจวินกันหน่อยหรือไม่”
หลงเอ้อร์ส่ายศีรษะ “เกลี้ยกล่อมไปก็สูญเปล่า มันถึงเวลาแล้วล่ะ ขวางอย่างไรก็ขวางไม่อยู่หรอก”
“เวลาอะไรของเจ้า”
“ก็เวลาที่จะถวิลหาทางโลกน่ะสิ”
หลงต้าพลันเข้าใจกระจ่าง ความกลัดกลุ้มยิ่งเพิ่มพูนขึ้นทันใด ‘ถวิลหาทางโลก’ ถือเป็นการละเมิดกฎสวรรค์เชียวนะ! หากรู้แต่แรกข้าคงไม่ให้ตงจวินยืมถุงฟ้าดินไปหรอก ใครจะรู้ว่าตงจวินเอาไปเพื่อเกี้ยวมนุษย์เล่า นี่ไม่เท่ากับข้าทำร้ายตงจวินหรือ!
ขณะกำลังคิดเช่นนี้ พลันเห็นซีกวงที่อยู่เบื้องล่างเงยหน้ามองขึ้นมา หลงต้าจึงมองตอบกลับไปอย่างเศร้าระทมอยู่บ้าง
ซีกวงถ่ายทอดเสียงผ่านลมปราณไปถึงมังกรของตน ‘หลงต้า นั่นมันแววตาอะไรของเจ้า ก็แค่ยืมใช้ของวิเศษของเจ้าชิ้นเดียวไม่ใช่หรือ ถึงขั้นต้องตัดพ้อกันเช่นนี้เชียว?’
เฮ้อ หมดทางเยียวยาแล้ว! หลงต้าสะบัดหน้าแล้วเหาะจากไป
หลงเอ้อร์มองดูพิภพเบื้องล่าง หนวดมังกรลู่ตกก่อนจะเหาะจากไปเช่นกัน
(ติดตามตอนต่อไปวันพรุ่งนี้)